xs
xsm
sm
md
lg

แม่น้ำตาร่วงหลังต้องเสียบุตรสาวสุดที่รัก - โวย รพ.รัฐไม่เหลียวแล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - สาวรุ่นใหญ่น้ำตาร่วงหลังต้องเสียบุตรสาวสุดที่รัก ชี้โรงพยาบาลรัฐไม่เหลียวแลปล่อยทิ้งไว้กับพยาบาลทำคลอดลำพังจนเป็นเหตุให้บุตรเสียชีวิต

วันนี้ (26 ม.ค.53) นางสีออน สีอิ่น อายุ 34 ปี ซึ่งมีอาชีพค้าขายเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ตั้งครรภ์กับนายสุทิน จันทร์ติยะ อายุ 34 ปี จึงได้มาฝากท้องที่ รพ.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นได้เดินทางมาตรวจครรภ์ตามปกติก่อนที่แพทย์จะนัดหมายกำหนดคลอดไว้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้

แต่ปรากฏว่าในช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมารู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง จึงให้สามีพามาส่งที่โรง พยาบาล ซึ่งเมื่อมาพบทางโรงพยาบาลก็แจ้งให้ทราบว่ามีอาการน้ำเดินและปากมดลูกเปิดแล้ว จึงพาตัวเข้าห้องคลอดเพื่อเตรียมตัวคลอด

จากนั้นทางโรงพยาบาลก็ให้น้ำเกลือและยาเร่งคลอด โดยมีพยา บาลจำนวน 5 คนมาช่วยกันดูแล ซึ่งช่วงนั้นไม่มีแพทย์รวมอยู่ด้วย พยายาลจึงพยายามล้วงช่องคลอดและแจ้งให้เบ่งไปด้วย ซึ่งก็ได้ทำตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 1 ชม.เด็กก็ยังไม่ออก

ต่อมาพยาบาลแจ้งให้ทราบว่า เด็กมีปัญหาเนื่องจากมีสายรกมาพันอยู่อาจทำให้เด็กขาดอากาศหายใจและอาจเสียชีวิตได้จึงพยายามกระตุ้นให้เบ่งอย่างต่อเนื่องแต่ก็ปรากฏว่าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

นายสีออน เผยต่อว่า ถึงช่วงนี้ปรากฏว่ามีผู้ป่วยอีกรายที่กำลังจะคลอดเช่นกัน ทั้งหมดจึงได้เดินทางออกไปด้านนอกและไปดูแลผู้ป่วยคนดังกล่าว ทิ้งไว้เพียงพนักงานฝึกงานอยู่ด้วยเพียง 1 คน ทั้งๆ ที่ตนเองมีปัญหาเกี่ยวกับตัวเด็ก ถึงช่วงนี้เวลาได้ผ่านเลยไปอีกกว่า 1 ชม.

สุดท้ายจึงรู้สึกปวดท้องรุนแรงและเด็กก็คลอดโผล่ศีรษะออกมาโดยมีสายสะดือพันหัวออกมาด้วย จากนั้นพยาบาลก็กลับมาช่วยและนำเด็กออกไปได้ แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งก็แจ้งให้ทราบว่าบุตรเป็นเพศหญิงหน้าตาน่ารักแต่เด็กไม่หายใจและเสียชีวิตแล้ว

จากเหตุการณ์ดังกล่าว รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเฝ้าดูแลลูกมานานหลายเดือน และหากทางโรงพยาบาลเห็นว่าท้องมีปัญหาและใส่ใจกว่านี้บุตรสาวก็คงจะไม่ตาย โดยก่อนคลอดทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถใช้บัตรทองในการคลอดบุตรได้เนื่องจากมีบุตรมาแล้ว 2 คน แต่เมื่อเกิดปัญหาก็มาแจ้งว่าจะไม่เก็บค่าใช้จ่าย และจะดูแลนำศพบุตรสาวไปทำพิธีผ่านทางมูลนิธิให้ ซึ่งเรื่องนี้คงจะปรึกษาครอบครัวและนำเรื่องไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นก็จะดูว่าทางโรงพยาบาลจะให้ความช่วยเหลืออย่างไรต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น