ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตำรวจภูเก็ตยังตามหาพี่เลี้ยงชาวพม่ากรณีเด็กวัย 4 เดือนเสียชีวิต ขณะที่ผู้การเผยยังไม่พุ่งประเด็นฆาตกรรม ขณะที่ผู้ว่าระบุย้ำตลแดจ้างแรงงานจะต้องมีบัตร
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีพบเด็กชายอายุ 4 เดือนเสียชีวิตในห้องนอน ขณะที่พี่เลี้ยงชาวพม่าหายตัวไป ว่า สำหรับเรื่องนี้จากการชันสูจน์ศพของเด็กที่เสียชีวิตแพทย์ไม่ลงความเห็น ระบุเพียงว่าเด็กขาดอากาศหายใจ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการระบุว่าเป็นการฆาตกรรม
แต่อย่างไรก็ตามในการติดตามพี่เลี้ยงชาวพม่าที่หายตัวไปนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามค้นหาไปตามสถานที่ต่างรวมทั้งแคมป์คนงานในพื้นที่ที่สงสัยว่าจะหลบหนีไปอยู่ด้วย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัว ซึ่งหากได้ตัวมาก็จะทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับเด็ก
ส่วนกรณีการจ้างแรงงานต่างด้าวมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือคนทำงานในบ้านก็มีการตรวจสอบกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งในส่วนของนายจ้างก็จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย การจ้างแรงงานต่างด้าวทำงานจะต้องมีบัตรเท่านั้น ซึ่งในส่วนของรายนี้เท่าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นทางมารดาของเด็กบอกว่าเป็นแรงงานที่มีบัตรซึ่งทางตำรวจก็ได้แจ้งให้นำบัตรมาตรวจสอบแล้ว
พ.ต.ท.จรัล บางประเสริฐ สว.สส.สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เรียกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเพื่อประชุมด่วนในการติดตามหาตัวนางเปิ้ล อายุ 32 ปี สัญชาติพม่า มาสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดี ซึ่งได้เข้าตรวจสอบแค้มคนงานพม่าที่ต้องสงสัย จำนวน 3 จุด ใน อ.เมืองภูเก็ต ที่คาดว่า นางเปิ้ล ใช้เป็นสถานที่หลบซ่อน แต่ยังไม่เจอ ซึ่งยังมั่นใจว่านางเปิ้ล ยังหลบซ่อนตัวอยู่ใน จ.ภูเก็ต โดยกุญแจสำคัญในคดีนี้คือพี่เลี้ยงชาวพม่า ต้องเร่งติดตามตัวให้ได้โดยด่วน เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถยืนยันได้ว่าด.ช.พรประเสริฐ เสียชีวิต เนื่องจากสาเหตุใดกันแน่ ซึ่งหากตามตัวนางเปิ้ล มาได้เรื่องดังกล่าวนี้จะคลี่คลายทันที
ด้านร.ต.ท.เชียรชัย ดวงสุวรรณ ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายของด.ช.พรประเสริฐ ว่าเสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุใดกันแน่นและชวนเหตุที่เสียชีวิตเกิดจากเรื่องใด และได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตามตัวนางเปิ้ล พี่เลี้ยง มาสอบปากคำเพื่อคลี่คลายคดี ซึ่งขณะนี้นั้น ศพของด.ช.พรประเสริฐ นางปาลิดา มารดา ได้นำไปทำพิธีทางศาสนาและฝังที่สำนักสงฆ์ในหาน ม.1 ต.ราไวย์ แล้ว โดยไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อลงความเห็นถึงสาเหตุการตายที่แท้จริง ฉะนั้นกุญแจสำคัญไขคดีนี้ต้องล่าตัว นางเปิ้ล มาให้ได้
ขณะนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้รับทราบกรณีของเด็กชายวัย 4 เดือน เสียชีวิตงกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้ผู้รับผิดชอบเร่งดำเนินการหาตัวพี่เลี้ยงชาวพม่ามาสอบสอวน ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบตามแคมป์คนงานต่างด้าวต่างๆ แล้ว ส่วนกรณีที่มีการใช้แรงงานพม่านั้นก็ได้สั่งให้ทางจัดงานหางานจังหวัดภูเก็ตได้เป็นตรวจสอบว่าเป็นแรงงานที่ขึ้นทะเบียนหรือไม่อย่างไร
อย่างไรในการใช้แรงงานต่างด้าวนั้น ตนพูดเสมอ ว่าขอให้ใช้แรงงานที่ถูกต้อง เพราะหากมีปัญหาขึ้นมาจะสามารถตรวจสอบได้ แต่ที่ผ่านมาก็พบว่ามีการแอบใช้แรงงานเถื่อนค่อนข้างมาก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบนอกจากจะจับกุมแรงงานแล้วก็จะจับกุมนายจ้างด้วยในฐานะเป็นผู้ให้ที่พักพิง กรณีนี้ก็ต้องรอผลการตรวจสอบที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าใช้แรงงานที่ถูกต้องหรือไม่
นายวิชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะให้มีการประกาศเตือนย้ำให้เห็นผลที่เกิดจากการใช้แรงงานเถื่อนอีกครั้ง และที่ผ่านมาตนก็ได้มีการเสนอทางออกไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้วว่าให้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวทั้งหมด และให้มีการจัดเก็บภาษีเหมือนกับคนงานไทย เพราะแนวทางที่ปฏิบัติอยู่ปัจจุบันพบว่ามีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่ไม่ยอมมาขึ้นทะเบียนเพื่อพิสูจน์สัญชาติ และยังคงหลบอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ในขณะที่ผู้ประกอบการก็มีการลักลอบใช้แรงงานเหล่านั้น และเมื่อมีปัญหาขึ้นก็จะไม่ยอมรับเพราะเกรงจะถูกจับกุมไปด้วย โดยในส่วนของภูเก็ตที่ขึ้นทะเบียนนั้นมีประมาณ 30,000 ราย แต่ที่ยังเถื่อนอยู่อีกจำนวนมากซึ่งไม่ทราบได้ว่ามีจำนวนเท่าใด
พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีพบเด็กชายอายุ 4 เดือนเสียชีวิตในห้องนอน ขณะที่พี่เลี้ยงชาวพม่าหายตัวไป ว่า สำหรับเรื่องนี้จากการชันสูจน์ศพของเด็กที่เสียชีวิตแพทย์ไม่ลงความเห็น ระบุเพียงว่าเด็กขาดอากาศหายใจ ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการระบุว่าเป็นการฆาตกรรม
แต่อย่างไรก็ตามในการติดตามพี่เลี้ยงชาวพม่าที่หายตัวไปนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามค้นหาไปตามสถานที่ต่างรวมทั้งแคมป์คนงานในพื้นที่ที่สงสัยว่าจะหลบหนีไปอยู่ด้วย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัว ซึ่งหากได้ตัวมาก็จะทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกับเด็ก
ส่วนกรณีการจ้างแรงงานต่างด้าวมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก หรือคนทำงานในบ้านก็มีการตรวจสอบกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งในส่วนของนายจ้างก็จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย การจ้างแรงงานต่างด้าวทำงานจะต้องมีบัตรเท่านั้น ซึ่งในส่วนของรายนี้เท่าที่ตรวจสอบในเบื้องต้นทางมารดาของเด็กบอกว่าเป็นแรงงานที่มีบัตรซึ่งทางตำรวจก็ได้แจ้งให้นำบัตรมาตรวจสอบแล้ว
พ.ต.ท.จรัล บางประเสริฐ สว.สส.สภ.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้เรียกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเพื่อประชุมด่วนในการติดตามหาตัวนางเปิ้ล อายุ 32 ปี สัญชาติพม่า มาสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดี ซึ่งได้เข้าตรวจสอบแค้มคนงานพม่าที่ต้องสงสัย จำนวน 3 จุด ใน อ.เมืองภูเก็ต ที่คาดว่า นางเปิ้ล ใช้เป็นสถานที่หลบซ่อน แต่ยังไม่เจอ ซึ่งยังมั่นใจว่านางเปิ้ล ยังหลบซ่อนตัวอยู่ใน จ.ภูเก็ต โดยกุญแจสำคัญในคดีนี้คือพี่เลี้ยงชาวพม่า ต้องเร่งติดตามตัวให้ได้โดยด่วน เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถยืนยันได้ว่าด.ช.พรประเสริฐ เสียชีวิต เนื่องจากสาเหตุใดกันแน่ ซึ่งหากตามตัวนางเปิ้ล มาได้เรื่องดังกล่าวนี้จะคลี่คลายทันที
ด้านร.ต.ท.เชียรชัย ดวงสุวรรณ ร้อยเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายของด.ช.พรประเสริฐ ว่าเสียชีวิตเนื่องจากสาเหตุใดกันแน่นและชวนเหตุที่เสียชีวิตเกิดจากเรื่องใด และได้เร่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตามตัวนางเปิ้ล พี่เลี้ยง มาสอบปากคำเพื่อคลี่คลายคดี ซึ่งขณะนี้นั้น ศพของด.ช.พรประเสริฐ นางปาลิดา มารดา ได้นำไปทำพิธีทางศาสนาและฝังที่สำนักสงฆ์ในหาน ม.1 ต.ราไวย์ แล้ว โดยไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช เพื่อลงความเห็นถึงสาเหตุการตายที่แท้จริง ฉะนั้นกุญแจสำคัญไขคดีนี้ต้องล่าตัว นางเปิ้ล มาให้ได้
ขณะนายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้รับทราบกรณีของเด็กชายวัย 4 เดือน เสียชีวิตงกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้ผู้รับผิดชอบเร่งดำเนินการหาตัวพี่เลี้ยงชาวพม่ามาสอบสอวน ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบตามแคมป์คนงานต่างด้าวต่างๆ แล้ว ส่วนกรณีที่มีการใช้แรงงานพม่านั้นก็ได้สั่งให้ทางจัดงานหางานจังหวัดภูเก็ตได้เป็นตรวจสอบว่าเป็นแรงงานที่ขึ้นทะเบียนหรือไม่อย่างไร
อย่างไรในการใช้แรงงานต่างด้าวนั้น ตนพูดเสมอ ว่าขอให้ใช้แรงงานที่ถูกต้อง เพราะหากมีปัญหาขึ้นมาจะสามารถตรวจสอบได้ แต่ที่ผ่านมาก็พบว่ามีการแอบใช้แรงงานเถื่อนค่อนข้างมาก ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบนอกจากจะจับกุมแรงงานแล้วก็จะจับกุมนายจ้างด้วยในฐานะเป็นผู้ให้ที่พักพิง กรณีนี้ก็ต้องรอผลการตรวจสอบที่ชัดเจนจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่าใช้แรงงานที่ถูกต้องหรือไม่
นายวิชัย กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะให้มีการประกาศเตือนย้ำให้เห็นผลที่เกิดจากการใช้แรงงานเถื่อนอีกครั้ง และที่ผ่านมาตนก็ได้มีการเสนอทางออกไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้วว่าให้มีการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวทั้งหมด และให้มีการจัดเก็บภาษีเหมือนกับคนงานไทย เพราะแนวทางที่ปฏิบัติอยู่ปัจจุบันพบว่ามีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากที่ไม่ยอมมาขึ้นทะเบียนเพื่อพิสูจน์สัญชาติ และยังคงหลบอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ในขณะที่ผู้ประกอบการก็มีการลักลอบใช้แรงงานเหล่านั้น และเมื่อมีปัญหาขึ้นก็จะไม่ยอมรับเพราะเกรงจะถูกจับกุมไปด้วย โดยในส่วนของภูเก็ตที่ขึ้นทะเบียนนั้นมีประมาณ 30,000 ราย แต่ที่ยังเถื่อนอยู่อีกจำนวนมากซึ่งไม่ทราบได้ว่ามีจำนวนเท่าใด
