xs
xsm
sm
md
lg

"เพื่อแม้ว"เดินเกมนำพยานยุบ ทรท.แถลงข่าวซัด"เทือก"ที่นครพนม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครพนม - "สุขสันต์ ชัยเทศ" ลูกพรรคประชาธิปัตย์ พยานปากเอกคดียุบ "พรรคไทยรักไทย" แหกคอกมุดมุ้งเสื้อแดงนครพนม ทั้งกลับลำแฉพฤติกรรม “เทพเทือก” ทำลายพรรคไทยรักไทย งัดหลักฐานเด็ดเส้นทางการจ่ายเงินว่าจ้างอุปโลกน์เป็นพยานคดียุบพรรค

วันนี้ (25 ม.ค.53) ที่สำนักงานชมรมแดงนครพนม 52 ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคไทยรักไทย อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองตามผลแห่งคดียุบพรรค พร้อมด้วยนายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครพนม พรรคประชาธิปัตย์ พยานปากสำคัญในคดียุบพรรคไทยรักไทย หอบเอกสารสำคัญ สำเนาภาพข่าว รวมถึงสลิปการโอนเงินผ่านธนาคาร ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยอ้างว่าเป็นการแฉพฤติกรรมของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี

หลังจากก่อนหน้านี้ได้ออกมาแถลงข่าว ว่ากรณีที่เป็นพยานคดียุบพรรคไทยรักไทยนั้น ได้ถูกว่าจ้างจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยมีการตกลงว่าจ้างเป็นเงินคนละ 15 ล้านบาท กับนายชวการ โตสวัสดิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพัฒนาชาติไทย พร้อมกับเสนอตำแหน่งเลขารัฐมนตรี ให้หากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล และจะช่วยเหลือกรณี นายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครพนม พรรคประชาธิปัตย์ ถูกดำเนินคดี กรณีแก้ไขปลอมแปลงข้อมูลทะเบียนเลขที่สมาชิกพรรคการเมือง ของพรรคพัฒนาชาติไทย

แต่หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นรัฐบาลแล้ว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กลับไม่ทำตามเงื่อนไข และพยามยามบ่ายเบี่ยง จนกระทั่งต้องออกมาแถลงข้อเท็จจริง เพื่อความอยู่รอด

นายสุขสันต์ กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้เลือกนครพนมบ้านเกิดเป็นที่แฉข้อมูลหลักฐาน กรณีนายสุเทพ เป็นผู้ว่าจ้างให้สร้างเรื่อง เป็นพยานสำคัญในคดียุคพรรคไทยรักไทย หลังจากเคยแถลงข่าวมาก่อนแล้ว วันนี้ต้องการโชว์หลักฐานเส้นทางที่มาของเงินจากบัญชีต่างๆ ที่ได้รับจากนายสุเทพ เนื่องจากเป็นคนความจำสั้น จึงต้องการที่จะเตือนความจำที่เคยตกลงว่าจ้างตน และนายชวการ โตสวัสดิ์ เป็นเงินคนละ 15 ล้านบาท และจะช่วยเหลือกรณีตนถูกดำเนินคดีทางการเมืองในข้อหาแก้ไขปลอมแปลงเอกสาร ในช่วงที่ตนมาก่อตั้งพรรคพัฒนาชาติไทย เมื่อปี 2549 แต่กับมาผิดสัญญาภายหลังจากที่ประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล

นายสุขสันต์อ้างว่า สาเหตุที่ตนยอมไปเป็นพยานสร้างเรื่อง จนกระทั่งพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค เริ่มจากปี 2546 ตนได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ มาก่อตั้งพรรคพัฒนาชาติไทย มีนายบุญทวีศักดิ์ อมรสินธุ์ เป็นหัวหน้าพรรค จนกระทั่งปี 2549 พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน ได้ประท้วงไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งกับพรรคไทยรักไทย จึงมองว่าในพื้นที่ภาคใต้ หากพรรคพัฒนาชาติไทย ส่ง ส.ส.ลงแข่ง คงจะได้แน่นอน แต่ผู้สมัคร ส.ส.กลับขาดคุณสมบัติ สังกัดพรรคไม่ครบ 90 วัน จึงใช้วิธีการหาทางแก้ไขปลอมแปลงทะเบียนสมาชิกพรรคการเมืองจาก กกต. ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ รู้ข้อมูลจึงนำไปดำเนินคดี ฟ้องศาลฎีกา ตนเกรงว่าจะติดคุก จึงหาทางออกด้วยการไปพบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันหาวิธีล้มพรรคไทยรักไทย ด้วยการอุปโลก สร้างเรื่อง ถูกว่าจ้างจากพรรคไทยรักไทยให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อหนีเกณฑ์ 20 เปอร์เซ็นต์ ในกรณีที่พรรคไทยรักไทย ไม่มีคู่แข่ง ในการลงสมัครเลือกตั้ง

นายสุขสันต์อ้างว่า นายสุเทพได้เสนอเงินค่าจ้างให้ คนละ 15 ล้านบาท พร้อมตำแหน่งเลขารัฐมนตรี หากประชาธิปัตย์ ได้เป็นรัฐบาล และจะดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ รวมถึงเคลียร์ปัญหาเรื่องถูกแจ้งความดำเนินคดี ตนจึงตัดสินใจเพื่อความอยู่รอด ร่วมกับ นายชวการ โตสวัสดิ์ ร่วมเป็นพยานปากสำคัญในคดียุบพรรคไทยรักไทย

นายสุขสันต์ กล่าวอีกว่า แต่เมื่องานสำเร็จตามเงื่อนไขแล้ว นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ทำตามเงื่อนไข ตนจำเป็นต้องมาสารภาพบาป เพื่อความปลอดภัย เพราะไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีทางเดียวต้องอาศัยผู้ใหญ่จากพรรคเพื่อไทย ด้วยการมาสารภาพผิดกับอดีตนายก ทักษิณ ชินวัตร และอดีตกรรมการพรรค ซึ่งทุกคนพร้อมให้อภัย ด้วยการนำหลักฐานเอกสารข้อเท็จจริง ประกอบด้วยสลิปการรับเงินจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ได้มาประมาณ 5.8 ล้านบาท

รวมถึงลายมือของนายสุเทพ ที่เขียนเบอร์โทรศัพท์มือถือส่วนตัวไว้ให้ติดต่อ ซึ่งตนเคยไปพักที่บ้านนายสุเทพที่ภาคใต้หลายเดือน ขอยืนยันว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ที่เป็นเรื่องเลวร้ายทางการเมือง มาถึงวันนี้ตนอยากให้ประชาชนได้รับทราบว่า พรรคประชาธิปัตย์ ใช้วิชามารจึงได้มาเป็นรัฐบาล

ที่สำคัญในการออกมาเคลื่อนไหว ยืนยันว่าไม่มีผู้ใหญ่พรรคเพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์ คนอื่นไม่เกี่ยวข้อง แต่การออกมาแฉ เพราะไม่พอใจนายสุเทพ เทือกสุบรรณที่ไม่มีสัจจะ เชื่อไม่ได้ ถึงแม้วันข้างหน้าตนจะตายไปก็ถือว่าได้ไถ่บาปแล้ว ขณะนี้ตนถูกชายชกรรจ์ขับรถตู้ตามหัวตัวอยู่ จนต้องสวมเสื้อเกราะตลอดเวลา และขอย้ำว่ามีหลักฐานอีกมากมาย หากนายสุเทพออกมาโต้ พร้อมขอเชิญชวนให้พยานปากเอก มีชื่อ ช.นำหน้า ออกมาร่วมกันแฉพฤติกรรม ไม่ต้องไปหลบหนีอยู่ภาคใต้ อีกต่อไปมันถึงเวลาที่จะพูดความจริงไปแล้ว

กำลังโหลดความคิดเห็น