ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในช่วงเช้า กกต.แต่ละคนต่างแยกย้ายกันกลับไปทำงานยังห้องของตัวเอง แต่ปรากฎว่าช่วงบ่าย สำนักงาน กกต. ได้เรียก รถพยาบาลเป็นการด่วนมารับตัวนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง ไปเข้ารับการรักษาตัวที่ร.พ.พระมงกุฎ
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายอภิชาตมีโรคประจำตัวคือโรคความดันโลหิตสูง และเข้ารับการตรวจรักษาเป็นประจำกับแพทย์ร.พ.พระมงกฎฯ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้นายอภิชาตมีอาการอ่อนเพลียไม่สบายตัวเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ประกอบกับเครียดที่ที่ประชุมกกต.เสียงข้างมาก มีมติให้นายอภิชาต ฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองไปทำความเห็นกรณีเงินบริจาค 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งมีกดดันจากฝ่ายการเมืองทั้งกลุ่มเสื้อแดง และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องการยุบไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าก่อนเดินทางไปโรงพยาบาลนั้น มีรายงานว่า ที่ปรึกษาประธานกกต.ได้นำวีดีโอเทปที่บันทึกภาพการมาชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่กกต.เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมาเปิดให้ชมจากนั้นประธานกกต.ก็เกิดความเครียด ความดันขึ้น ซึ่งมีอาการวิงเวียนและอาเจียน จนต้องเรียกรถพยาบาล
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามคนใกล้ชิดทราบว่า แพทย์ให้นายอภิชาต ออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้ ( 8 ม.ค.) แต่ทั้งนี้นายอภิชาตก็ได้แจ้งของดภารกิจ ต่างๆ ไว้เป็นการชั่วคราวก่อน
นาย สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า สำนักงาน กกต. จะประชุมร่วมกับฝ่ายรักษาความมั่นคงเพื่อตรียมรับมือกับสถานการณ์ใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชุมนุม เนื่องจากได้รับรายงานมาว่าในวันนี้ (8 ม.ค.) อาจจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมที่สำนักงาน กกต.เพื่อติดตาม ความคืบหน้า กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ ตนเคารพสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม อย่างไรก็ตามที่ตั้งสำนักงาน กกต. เป็นศูนย์ราชการมีหน่วยงานราชการอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องดูแล ให้เกิดความเรียบร้อยและความปลอดภัยทั้งของ กกต. ของพนักงานและ ข้าราชการที่อยู่ในศูนย์ราชการ โดยเราจะยึดหลักอหิงสา และเคารพกฎกติกาในการชุมนุม
ส่วนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับ กกต. แต่ละคน นายสุทธิพล กล่างว่า ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแล กกต. ทั้ง 5 โดยเฉพาะที่บ้าน หลังจากมีการขู่ว่าจะทำร้าย ซึ่งเราก็ไม่ได้ตระหนก แต่ต้องป้องไว้ก่อนเพื่อเป็นการไม่ประมาท อย่างไรก็ตามได้เรียนให้กกต.ทุกคนทราบแล้วว่าอาจจะมีการชุมนุม แต่ในวันนี้ ( 8 ม.ค.) ไม่มีกำหนดวาระการประชุม จึงขึ้นกับกกต.แต่ละคนว่ามีภารกิจในสำนักงานฯที่ต้องเข้ามาดำเนินการหรือไม่
สำหรับเรื่องความคืบหน้ากรณีเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ขณะนี้ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองไดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยลงนามในคำสั่งวันที่ 29 ธ.ค. 2552 และขณะนี้ได้เริ่มตรวจสอบเอกสารต่างๆ และจะเร่งรัดโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วานนี้ ( 7 ม.ค.)ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็ก มาวางกั้นไว้โดยรอบทางเข้าด้านทิศตะวันออกของศูนย์ราชการ ซึ่งเป็นจุดที่คนเสื้อแดง เคยมาชุมนุมก่อนหน้านี้
นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงกรณีจตุพร พรหมพันธ์ระบุว่า อนุกรรมการสอบสวนของ กกต.มีมติเสนอให้ กกต.ยุบพรรคเพื่อไทยว่า กกต. ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะยุบพรรคเพื่อไทย แต่เรื่องดังกล่าว เป็นการร้องจาก พล.ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน และ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่ร้องขอให้กกต.ตรวจสอบ กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมืองกระทำการเสมือนหนึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค โดยคำร้องของ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ไม่ได้ร้องเฉพาะพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ยังร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีมีการเรียกแกนนำ พรรคร่วมที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหารือสถานการณ์ทางเมืองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งกกต.ก็ตั้งอนุกรรมการสอบสวนเช่นเดียวกัน
จากการตรวจสอบอนุกรรมการฯเพิ่งจะสอบปากคำผู้ร้องเสร็จ โดยคณะอนุฯชุดสอบสวนยุบประชาธิปัตย์ก็ครบกำหนดเวลาทำงานวันที่ 12 ม.ค. ส่วนอนุฯชุดสอบยุบเพื่อไทยก็จะครบกำหนดเวลาทำงานวันที่ 2 ก.พ. ยังไมได้มีการสรุปผลใด ดังนั้นที่ว่ากกต.ไปตั้งธงยุบเพื่อไทยนั้นไม่เป็นความจริง
นายพีระพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโยสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า คณะอนุกรรมการสอบสวนของ กกต. อาจมีมติให้ยุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ยื่นเรื่องให้มีการ สอบสวนและให้มีการยุบพรรคเพื่อไทย กรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง รวมทั้งกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณวิดีโอลิงค์มายังพรรคเพื่อไทยว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของพรรค การสื่อสารมายังพรรคนั้นเป็นในฐานะที่ปรึกษา แต่การดำเนินการใดๆ เป็นเรื่องของมติพรรคเพื่อไทย ดังนั้นหากไปเทียบกับกรณีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนกับกรณีอื่น เช่น นายเนวิน ชิดชอบ หรือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย หรือกรณีล่าสุดของ นายมานิต นพอมรวดี รมช.สาธารณสุข ที่ต้องทำตามคำสั่งของนายเนวิน หรือรอให้ นายสมศักดิ์มาตัดสินนั้น กรณีนี้น่าจะเข้าข่ายถูกยุบพรรคยิ่งกว่ากรณีของ พรรคเพื่อไทย ดังนั้นหากกกต.จะเอาผิดก็ต้องทำให้เป็นมาตราฐานเดียวกัน
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายอภิชาตมีโรคประจำตัวคือโรคความดันโลหิตสูง และเข้ารับการตรวจรักษาเป็นประจำกับแพทย์ร.พ.พระมงกฎฯ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้นายอภิชาตมีอาการอ่อนเพลียไม่สบายตัวเพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ประกอบกับเครียดที่ที่ประชุมกกต.เสียงข้างมาก มีมติให้นายอภิชาต ฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองไปทำความเห็นกรณีเงินบริจาค 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งมีกดดันจากฝ่ายการเมืองทั้งกลุ่มเสื้อแดง และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องการยุบไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าก่อนเดินทางไปโรงพยาบาลนั้น มีรายงานว่า ที่ปรึกษาประธานกกต.ได้นำวีดีโอเทปที่บันทึกภาพการมาชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่กกต.เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมาเปิดให้ชมจากนั้นประธานกกต.ก็เกิดความเครียด ความดันขึ้น ซึ่งมีอาการวิงเวียนและอาเจียน จนต้องเรียกรถพยาบาล
อย่างไรก็ตามจากการสอบถามคนใกล้ชิดทราบว่า แพทย์ให้นายอภิชาต ออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้ ( 8 ม.ค.) แต่ทั้งนี้นายอภิชาตก็ได้แจ้งของดภารกิจ ต่างๆ ไว้เป็นการชั่วคราวก่อน
นาย สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า สำนักงาน กกต. จะประชุมร่วมกับฝ่ายรักษาความมั่นคงเพื่อตรียมรับมือกับสถานการณ์ใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการชุมนุม เนื่องจากได้รับรายงานมาว่าในวันนี้ (8 ม.ค.) อาจจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมที่สำนักงาน กกต.เพื่อติดตาม ความคืบหน้า กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์
ทั้งนี้ ตนเคารพสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม อย่างไรก็ตามที่ตั้งสำนักงาน กกต. เป็นศูนย์ราชการมีหน่วยงานราชการอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ต้องดูแล ให้เกิดความเรียบร้อยและความปลอดภัยทั้งของ กกต. ของพนักงานและ ข้าราชการที่อยู่ในศูนย์ราชการ โดยเราจะยึดหลักอหิงสา และเคารพกฎกติกาในการชุมนุม
ส่วนมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับ กกต. แต่ละคน นายสุทธิพล กล่างว่า ได้มีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแล กกต. ทั้ง 5 โดยเฉพาะที่บ้าน หลังจากมีการขู่ว่าจะทำร้าย ซึ่งเราก็ไม่ได้ตระหนก แต่ต้องป้องไว้ก่อนเพื่อเป็นการไม่ประมาท อย่างไรก็ตามได้เรียนให้กกต.ทุกคนทราบแล้วว่าอาจจะมีการชุมนุม แต่ในวันนี้ ( 8 ม.ค.) ไม่มีกำหนดวาระการประชุม จึงขึ้นกับกกต.แต่ละคนว่ามีภารกิจในสำนักงานฯที่ต้องเข้ามาดำเนินการหรือไม่
สำหรับเรื่องความคืบหน้ากรณีเงินบริจาคของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ขณะนี้ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองไดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง โดยลงนามในคำสั่งวันที่ 29 ธ.ค. 2552 และขณะนี้ได้เริ่มตรวจสอบเอกสารต่างๆ และจะเร่งรัดโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่วานนี้ ( 7 ม.ค.)ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็ก มาวางกั้นไว้โดยรอบทางเข้าด้านทิศตะวันออกของศูนย์ราชการ ซึ่งเป็นจุดที่คนเสื้อแดง เคยมาชุมนุมก่อนหน้านี้
นายสุทธิพล ยังกล่าวถึงกรณีจตุพร พรหมพันธ์ระบุว่า อนุกรรมการสอบสวนของ กกต.มีมติเสนอให้ กกต.ยุบพรรคเพื่อไทยว่า กกต. ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะยุบพรรคเพื่อไทย แต่เรื่องดังกล่าว เป็นการร้องจาก พล.ร.อ. บรรณวิทย์ เก่งเรียน และ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่ร้องขอให้กกต.ตรวจสอบ กรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งถูกตัดสิทธิทางการเมืองกระทำการเสมือนหนึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรค โดยคำร้องของ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ไม่ได้ร้องเฉพาะพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ยังร้องให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีมีการเรียกแกนนำ พรรคร่วมที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหารือสถานการณ์ทางเมืองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บ้านพิษณุโลก ซึ่งกกต.ก็ตั้งอนุกรรมการสอบสวนเช่นเดียวกัน
จากการตรวจสอบอนุกรรมการฯเพิ่งจะสอบปากคำผู้ร้องเสร็จ โดยคณะอนุฯชุดสอบสวนยุบประชาธิปัตย์ก็ครบกำหนดเวลาทำงานวันที่ 12 ม.ค. ส่วนอนุฯชุดสอบยุบเพื่อไทยก็จะครบกำหนดเวลาทำงานวันที่ 2 ก.พ. ยังไมได้มีการสรุปผลใด ดังนั้นที่ว่ากกต.ไปตั้งธงยุบเพื่อไทยนั้นไม่เป็นความจริง
นายพีระพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโยสธร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ระบุว่า คณะอนุกรรมการสอบสวนของ กกต. อาจมีมติให้ยุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ยื่นเรื่องให้มีการ สอบสวนและให้มีการยุบพรรคเพื่อไทย กรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง รวมทั้งกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณวิดีโอลิงค์มายังพรรคเพื่อไทยว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจของพรรค การสื่อสารมายังพรรคนั้นเป็นในฐานะที่ปรึกษา แต่การดำเนินการใดๆ เป็นเรื่องของมติพรรคเพื่อไทย ดังนั้นหากไปเทียบกับกรณีอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนกับกรณีอื่น เช่น นายเนวิน ชิดชอบ หรือนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคภูมิใจไทย หรือกรณีล่าสุดของ นายมานิต นพอมรวดี รมช.สาธารณสุข ที่ต้องทำตามคำสั่งของนายเนวิน หรือรอให้ นายสมศักดิ์มาตัดสินนั้น กรณีนี้น่าจะเข้าข่ายถูกยุบพรรคยิ่งกว่ากรณีของ พรรคเพื่อไทย ดังนั้นหากกกต.จะเอาผิดก็ต้องทำให้เป็นมาตราฐานเดียวกัน
