xs
xsm
sm
md
lg

“เขมร” ลอบตัดไม้ชายแดนไทย“เขาวิหาร” ขนอาวุธหนักถล่ม“ทหารพราน”ปะทะเดือด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทหารไทยปะทะกองกำลังเขมรติดอาวุธที่ลักลอบเข้ามาตัดไม้ในเขตแดนไทย ด้าน จ.ศรีสะเกษ เกิดขึ้นบ่อยครั้ง (แฟ้มภาพ)
ศรีสะเกษ - กองกำลังเขมรติดอาวุธลอบตัดไม้ชายแดนไทยด้านศรีสะเกษ ซัดอาวุธหนัก“อาร์พีจี-ปืน ค.60”ถล่มทหารพรานไทยปะทะเดือด 20 นาทีใกล้ “เขาพระวิหาร” ก่อนล่าถอยจากเขตแดนไทยเข้าไปยังกัมพูชา ไม่มีฝ่ายใดบาดเจ็บเสียชีวิต เผยหวิดบานปลายเปิดฉากปะทะใหญ่เหตุทหารเขมรตรึงกำลังบนเขาวิหารตื่นระดมพลเตรียมพร้อมรบเต็มที่




วันนี้ ( 24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.50 น.ได้เกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกองกำลังติดอาวุธขึ้น โดยกองร้อยทหารพรานที่ 2304 (ค่ายค้างคาวดำ) และกองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 959(ค่ายปักธงชัยเก่า) สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จำนวน 12 นาย ได้ถูกกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายดักซุ่มโจมตีขณะออกเดินลาดตระเวนไปถึงบริเวณหนองใหญ่หัวเขื่อนห้วยขนุน ห่างจากฐานปฏิบัติการค้างคาวดำ ประมาณ 2 กม. ด้านทิศตะวันออกบ้านซำแต เขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

ขณะที่ทหารพรานชุดปฏิบัติการดังกล่าวเดินลาดตระเวนไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุได้ถูกกองกำลังดังกล่าวใช้เครื่องยิงลูกระเบิด ชนิด อาร์พีจี ยิงเข้าใส่จำนวนหลายสิบนัด พร้อมทั้งยิงปืน ค. 60 สนับสนุน จำนวน 5 นัด ซึ่งชุดปฏิบัติการทหารพรานของไทยทั้ง 2 ชุดได้ยิงตอบโต้และปะทะกันนานประมาณ 20 นาที เหตุการณ์จึงสงบลง และจากการตรวจเช็คกำลังพลทหารฝ่ายไทยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ด้าน พ.ท.ณัฐ ศรีอินทร์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 16 ค่ายบดินทร์เดชา จ.ยโสธร (หน่วยเฉพาะกิจที่ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ด้านเขาพระวิหาร รับผิดชอบพื้นที่ตั้งแต่บ้านซำแต - ช่องตาเฒ่า ) กล่าวว่า เหตุการณ์ปะทะกันดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ทหารพราน สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษ์ได้เดินลาดตระเวนไปพบกลุ่มกองกำลังติดอาวุธเข้ามาลักลอบตัดไม้ชายแดนไทย-กัมพูชาในเขตแดนไทย ทำให้ฝ่ายตรงข้ามได้ยิงปืนขู่เข้ามา

ทั้งนี้จากการรายงานทราบว่า ลักษณะการยิงเข้ามานั้นเป็นเพียงการยิงข่มขู่ไม่ได้ยิงเพื่อหวังสังหารบุคคล ซึ่งทหารไทยก็ได้ใช้อาวุธประจำกายยิงตอบโต้ในลักษณะเดียวกันเพื่อให้กลุ่มลักลอบตัดไม้เถื่อนล่าถอยกลับเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา

“ล่าสุดเหตุการณ์ทุกอย่างกลับเข้าภาวะปกติแล้ว โดยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของทั้ง 2 ฝ่ายได้โทรศัพท์ประสานงานเข้ามาและทำความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวคงไม่ลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้” พ.ท.ณัฐ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่มีเสียงปืนยิ่งถล่มกันดังขึ้นดังกล่าว ฝ่ายทหารกัมพูชาที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ได้มีการเตรียมพร้อมรบอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะที่บริเวณฐานเบาะสะเบา ตามแนวป่าหญ้าคา ตรงข้ามบริเวณฐานปฏิบัติการซำแตของทหารไทย ได้มีกองกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาเตรียมความพร้อมกันเป็นจำนวนมาก


ต่อมาเวลา 11.30 น.วันเดียวกันนี้ ( 24 ม.ค.) พ.อ.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม เสนาธิการกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พ.อ.ธวัชชัย แจ้งประจักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และคณะนายทหารของกองกำลังสุรนารี ได้เดินทางไปที่ฐานปฏิบัติการซำแตโดยได้ไปประชุมร่วมกับ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา และคณะนายทหารของกัมพูชาเพื่อหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

โดยใช้เวลาในการประชุมร่วมกันนานประมาณกว่า 1 ชั่วโมง (ชม.)จึงได้มีมติข้อตกลงร่วมกันว่า สืบเนื่องจากขณะนี้ยังคงมีการประจันหน้ากันระหว่างทหารทั้งสองฝ่ายบริเวณจุดที่มีการปะทะกันเพราะทหารกัมพูชาลาดตระเวนล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย ซึ่งที่ประชุมมีมติให้ทหารทั้งสองฝ่ายถอนตัวออกจากจุดที่มีการปะทะกันกลับไปยังที่ตั้งของแต่ละฝ่าย ซึ่งจากการที่ได้มีการตรวจสอบพื้นที่ที่มีการปะทะกันแล้วปรากฏว่าไม่มีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บของทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น