ศรีสะเกษ - ทหารพรานสนธิกำลังป่าไม้- อส.ศรีสะเกษ ปะทะเดือดกองกำลังเขมรลอบตัดไม้พยุงชายแดนไทยใกล้ช่องพระพะลัย รวบเขมรเขมรได้ 11 คน พร้อมเลื่อยยนต์ 2 เครื่อง และไม้พยุงแปรรูปแล้วจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดศรีสะเกษว่า เมื่อเวลา 21.00 น.คืนที่ผ่านมา (17 ส.ค.) ที่ สภ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ตำรวจสภ.ขุนหาญ ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก ได้นำชายชาวกัมพูชาจำนวน 11 คน มาควบคุมตัวไว้ที่ สภ.ขุนหาญ หลังจับกุมได้ที่บริเวณช่องกระบานกระไบ ใกล้กับช่องพระพะลัย ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 3 กิโลเมตร (กม.) ขณะร่วมกันลักลอบตัดไม้พยุงอยู่ในเขตแดนไทยและกำลังขนย้ายเข้าไปในเขตกัมพูชา พร้อมตรวจยึดของกลางเลื่อยยนต์ได้ 2 เครื่อง และ ไม้พยุงแปรรูปแล้วจำนวนมาก
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน (17 ส.ค.) ที่ฐานปฏิบัติการทหารพรานหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 ใกล้กับช่องพระพะลัย ต.บักดอง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พ.อ.ธวัชชัย แจ้งประจักษ์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 พร้อมนายชัชวาล อินทุมาร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรัก และ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.ขุนหาญ ได้ร่วมกันสนธิกำลังทหารพราน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และ อส. เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบริเวณใกล้กับช่องกระบานกระไบห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 3 กม.
หลังจากสืบทราบว่ามีการลักลอบตัดไม้พยุงเป็นบริเวณกว้างและได้ยินเสียงเลื่อยยนต์กำลังตัดไม้อย่างชัดเจน เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปถึงพื้นที่เกิดเหตุพบชาวกัมพูชากว่า 30 คน กำลังใช้เลื่อยยนต์ตัดไม้พยุง ขณะที่บางส่วนกำลังช่วยกันขนย้ายไม้พยุงเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชาตามเส้นทางที่มีการเปิดทางเอาไว้แล้ว
เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังโอบล้อมเพื่อปิดกั้นเส้นทางการหลบหนีและได้แสดงตัวเข้าจับกุม ปรากฏว่ากองกำลังชาวกัมพูชาที่คุ้มครองการตัดไม้อยู่ได้เปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงถล่มเข้าใส่เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย จึงเกิดการปะทะกันขึ้น ซึ่งกองกำลังต่างชาติได้อาศัยจังหวะช่วงปะทะกันวิ่งหลบหนีเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา และมีการยิงปะทะกันกับทหารพราน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้รวมทั้ง อส.อำเภอขุนหาญ ที่สกัดกั้นปิดเส้นทางหลบหนีมุ่งไปสู่เขตแดนกัมพูชาถึง 4 ครั้ง แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจพื้นที่พบมีชาวกัมพูชาจำนวน 11 คน พร้อมด้วยเลื่อยยนต์ 2 เครื่อง และไม้พยุงแปรรูปแล้ว รวมทั้งที่ยังไม่ได้แปรรูปจำนวนมากอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้ควบคุมตัวชาวกัมพูชาและของกลางเลื่อยยนต์มาที่ สภ.ขุนหาญ ซึ่งของกลางที่เป็นไม้พยุง เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพนมดงรักได้ช่วยกันขนย้ายออกมาอย่างทุลักทุเล เนื่องจากเส้นทางลำบากมาก
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายปรง เฮม อายุ 25 ปี หนึ่งในชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมได้ให้การว่า พวกตนทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชามาจากบ้านภูมิอาศรอม ต.ตะนบแคร๊ก อ.ตระเปียงปราสาท จ.อุดรมีชัย โดยได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวกัมพูชาจากกรุงพนมเปญ ให้มาขนย้ายไม้พยุงที่แปรรูปแล้ว โดยใช้ล้อเลื่อนขนเข้าไปในเขตแดนประเทศกัมพูชาอัตราค่าจ้างเที่ยวละประมาณ 100 บาท ซึ่งสามารถขนได้เพียงวันละ 1 เที่ยวเท่านั้น เพราะเส้นทางลำบากมาก แต่ด้วยความยากจนพวกตนจึงต้องพากันมารับจ้างแม้ว่าค่าแรงจะถูกมาก เพื่อหาเงินไปจุนเจือครอบครัว
ร.ต.ท.กองศรีประจันต์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ขุนหาญ ได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป