xs
xsm
sm
md
lg

ได้กลับวัดแล้ว 2 พระพุทธรูปถูกมือดีโจรกรรมนำมาหมกทิ้งบ่อโคลน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ได้กลับคืนสู่วัดเดิมแล้ว “หลวงพ่อยิ้ม” 2 พระพุทธรูปที่ถูกมือดีแอบโจรกรรมขนข้ามจังหวัดมาทิ้งไกลถึงเมืองแปดริ้ว เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ ก่อนนำมาหมกทิ้งบ่อโคลนตมหนีด่านตรวจ ขณะกรรมการวัดจัดขบวนเฉลิมฉลองต้อนรับอัญเชิญกลับอย่างยิ่งใหญ่

วันนี้ (21 ม.ค.) เวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ แป้นสุวรรณ รักษาการ ผกก.สภ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณีมีชาวบ้าน พบพระพุทธรูปจำนวน 2 องค์ ปางห้ามมาร เนื้อทองเหลืองลักษณะสง่างาม ขนาดหน้าตักกว้าง 20 นิ้ว สูง 38 นิ้ว และพระพุทธปางสมาธิ เนื้อทองเหลือง ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว สูง 16 นิ้ว ถูกนำมาหมกทิ้งไว้อยู่ภายในแอ่งน้ำ ใกล้กับแนวก่อสร้างทางรถไฟขนส่งสินค้ารางคู่ สายฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง ขณะกำลังออกหาปลา และได้แจ้งให้ พ.ต.ท.เริงศักดิ์ คดีธรรม พนักงานสอบสวนเวร สภ.บ้านโพธิ์ ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมกับได้ทำการบันทึกตรวจยึด นำมาเก็บรักษาไว้ที่ สภ.บ้านโพธิ์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น

ขณะนี้ได้มีผู้มาแสดงตนเป็นเจ้าของ และติดต่อขอรับพระพุทธรูปทั้ง 2 องค์กลับคืนสู่วัดไปแล้ว คือ พระอธิการมนัส วิสุทธิสีโร เจ้าอาวาสวัดหนองคุย ตั้งอยู่พื้นที่ ม.5 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง พร้อมด้วยคณะกรรมการวัด ผู้นำท้องถิ่น คือ นายทศพล เห็นชอบ รองนายก อบต.กองดิน นายศราวุธ สุวรรณโชติ ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.กองดิน อ.แกลง จ.ระยอง

หลังจากได้พบกับพระพุทธรูปทั้งสององค์และได้อัญเชิญนำมาเก็บรักษาไว้ยัง สภ.บ้านโพธิ์ นั้น ได้เกิดปาฏิหาริย์และเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้นที่ สภ.บ้านโพธิ์ มากมาย จนทำให้ สภ.บ้านโพธิ์ ซึ่งเดิมอยู่กันอย่างเงียบเหงาไม่ค่อยมีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้นในพื้นที่คึกคักขึ้นมามากมาย โดยมีคดีใหญ่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้พนักงานสอบสวนทุกนายมีคดีสำคัญๆ ทำกันอย่างทั่วหน้า ทั้งกรณีอุบัติเหตุใหญ่ตายหมู่ 5 ศพ ยิงกัน ฆ่ากันตาย หรือแม้แต่คดีข่มขืน ซึ่งในแต่ละคดีที่เกิดขึ้นนั้นก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ทุกคดี และสำเร็จลุล่วงลงไปโดยง่าย

โดยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เป็นเสมือนสัญญาณเตือนให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโพธิ์ เร่งสืบเสาะหาแหล่งที่มาของท่าน เพราะท่านคงอยากที่จะกลับวัดเดิมแล้ว จนในที่สุด ก็ได้มีกลุ่มชาวบ้านพร้อมด้วยคณะกรรมการวัด ผู้นำท้องถิ่น จากวัดหนองคุย ที่ทราบข่าว ได้ร่วมกันเดินทางมาอัญเชิญท่านกลับไปยังวัดเดิมได้ในที่สุด

โดยงครั้งแรกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโพธิ์ มองเพียงว่าพระพุทธรูปทั้งสององค์นี้ นั้น เป็นพระพุทธรูปที่ญาติโยมนำมาบริจาคให้แก่ทางวัดทั่วๆ ไป แต่เมื่อเดินทางไปส่ง และได้เห็นกลุ่มชาวบ้าน ผู้คนในตำบลนั้นได้จัดขบวนต้อนรับกันอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยมีขบวนแห่เฉลิมฉลองจนเป็นงานทำบุญอย่างใหญ่โต จึงทำให้ทราบได้ว่าพระพุทธรูปทั้งสององค์นี้มีความสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของผู้คนในชุมชนนี้เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังได้มีพิธีสวดชยันโตในการต้อนรับกลับคืนมายังวัดอีกด้วย


ขณะที่ นายศราวุธ สุวรรณโชติ อายุ 32 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 กล่าวว่า พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ได้รับกลับคืนมานั้น เป็นปางเทศนา ส่วนองค์เล็กเป็นปางสมาธิ เป็นพระพุทธรูปที่ได้รับบริจาค จากเจ้าของมานานแล้ว แต่ไม่ทราบว่าได้หายจากวัดไปตั้งแต่เมื่อใด เนื่องจากทางวัดได้มีการรื้อปรับปรุงประตูหน้าต่างกุฏิ และศาลาใหม่ จึงจัดเก็บไว้ได้ไม่มิดชิด จึงไม่ได้มีการตรวจสอบ จนมาทราบข่าวว่ามีผู้พบพระพุทธรูปถูกโจรกรรมมาทิ้งไว้ในท้องที่ สภ.บ้านโพธิ์ ซึ่งคณะกรรมการวัด และชาวบ้านยังคงจำพระพุทธรูปของทางวัดได้ โดยมีหลักฐาน คือ ชื่อของผู้บริจาค ซึ่งเป็นของครอบครัวคุณบุญญา แก้วจันทร์ ที่นำมาบริจาคไว้ให้แก่ทางวัด

พระพุทธรูปองค์ขนาดหน้าตักกว้าง 20 นิ้วนั้น เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะสง่างาม มีพระพักตร์เป็นลักษณะพุทธรูปยิ้ม ชาวบ้านจึงได้เรียกกันว่า “หลวงพ่อยิ้ม” มีขนาดองค์ไม่ใหญ่มากนัก จึงถูกอุ้มขโมยไปได้ง่ายกว่า พระพุทธรูปองค์อื่นๆ ที่มีอยู่ภายในวัดอีกกว่า 10 องค์ที่มีขนาดใหญ่กว่า นอกจากนี้ หลังจากตรวจสอบแล้วยังพบว่ามีสิ่งของเครื่องทองเหลืองอื่นๆ ของทางวัดได้สูญหายไปด้วยอีกหลายรายการ ทั้งแจกันทองเหลือง เชิงเทียนทองเหลือง โดยที่ทางวัดแห่งนี้ปกติในช่วงหลังจากออกพรรษาแล้วจะมีพระอยู่จำวัดประจำเพียงจำนวน 3-4 รูป เท่านั้น

หลังจากได้เดินทางไปรับพระพุทธรูปทั้งสององค์กลับคืนวัดมาได้แล้ว ขณะนี้ได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ภายในอุโบสถ หลังจากชาวบ้านทราบข่าวต่างพากันเข้ามากราบไหว้หลวงพ่อยิ้มที่หายไปและยังสามารถหลุดพ้นจากเงื้อมมือของกลุ่มโจรใจบาป กลับคืนมายังวัดเดิมได้อีก โดยที่ในวันที่เดินทางไปอัญเชิญกลับมานั้น ตลอดเส้นทางของการเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกสบาย ท้องถนนโล่งเตียน และผ่านสัญญาณไฟเขียวกลับมาโดยตลอดเส้นทาง

จึงทำให้ชาวบ้านยิ่งศรัทธา และดีใจกันมาก จึงได้จัดขบวนต้อนรับและเฉลิมฉลองทำบุญกันเป็นการใหญ่โตขึ้น นอกจากนี้ในวันเดินทางกลับมาหัวหน้าคณะกองยาวยังได้ทำกระเป๋าสตางค์หาย จึงได้บนขอให้หาพบจากหลวงพ่อยิ้ม จากนั้นเพียงไม่นานก็ได้พบกับกระเป๋าสตางค์ ที่ตกหล่นอยู่ที่ใต้ท้องรถ คณะกลองยาวที่ว่าจ้างมาตีนำขบวนต้อนรับ จึงได้ตีกลองยาวเป็นการถวายให้ฟรี โดยที่ไม่ได้เรียกเก็บเงินค่าแรงจากทางคณะกรรมการวัดอีกด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น