กาญจนบุรี - อดีตนายกสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทยหึงโหด หวั่นเมียสาวนอกใจซบกิ๊กฝรั่ง นัดเจรจาตกลงกันไม่ได้ใช้มีดเชือดคอฝ่ายหญิงหวิดขาด ก่อนฆ่าตัวตายตาม ตำรวจค้นพบจดหมายในกระเป๋ากางเกงของฝ่ายชาย ระบุเครียดมาก หลังพบภรรยาแอบคบกับฝรั่งและเคยบอกอยากแต่งงานกับฝรั่ง
เมื่อเวลา 07.30 น.วานนี้ (20 ม.ค.) ร.ต.ท.นาวิน รัตนวงศ์ พงส.สบ.1 สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ว่าพบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย บริเวณริมสระน้ำ ด้านหลังห้างคาสเซิลมอล์ หมู่ 2 ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อนำกำลังไปตรวจสอบสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.กาญจนบุรี แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงที่เกิดเหตุพบมีบรรดาไทยมุงอยู่เป็นจำนวนมาก จึงได้กันออกเนื่องจากกลัวจะทำลายหลักฐาน ส่วนสถานที่เกิดเหตุนั้นพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ เชฟโรเลต แค๊ป หลังคาไฟเบอร์ สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน ตธ-5065 กรุงเทพมหานคร จอดหันหน้าไปทางสระน้ำ ภายในรถยนต์กระบะคันดังกล่าวเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ลักษณะหัวทิ่มลงไปที่บริเวณที่วางท้าว ขาพาดเบาะนั่งด้านหน้าฝั่งซ้าย สวมเสื้อและใส่กางเกงลายผ้าถุง สีน้ำตาล
จากการตรวจสอบสภาพศพพบถูกของมีคมเชือดเข้าที่บริเวณลำคอจนลูกกระเดือกขาด ส่วนบริเวณใบหน้าถูกแทงเป็นแผลขนาดใหญ่ 3 แผล เสียชีวิตอย่างทรมาน ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.สุจิตพรรณ์ กุมุทสุทธิกุล อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 173 หมู่ 4 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ห่างจากรถยนต์ประมาณ 5 เมตร พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชายอีก 1 ราย ลักษณะนั่งคุกเข่าโดยมีเสาคอนกรีตยาว 2 เมตรทับอยู่บริเวณลำคอ สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว ใส่กางเกงยีนต์ขายาวสีดำ สวมรองเท้าแตะสีดำ จากการตรวจสอบสภาพศพพบว่าถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณลำคอด้านขวาทะลุด้านซ้าย มีเลือดไหลอยู่เต็มลำตัว และยังถูกเสาคอนกรีตทับจนคอหัก ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรเซษฐ์ เลิศสัจญาณ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1584/310 หมู่ 1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
นายสุขภชัย กุมุทสุทธิกุล อายุ 32 ปี พี่ชายของ น.ส.สุจิตพรรณ์ ผู้เสียชีวิต ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนเป็นสามีภรรยากัน โดยนายสุรเซษฐ์ เลิศสัจญาณ เป็นน้องเขย อดีตเคยเป็นนายกสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย ประจำจังหวัดสมุทรปราการ ต่อมาได้ลาออกแล้วแต่ยังเป็นสมาชิกอยู่ ส่วน น.ส.สุจิตพรรณ์ น้องสาว เคยทำงานอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ทนพฤติกรรมสามีไม่ไหว เพราะนิสัยของน้องเขยนั้นเป็นคนขี้หึงมาก ไม่ว่าผู้ชายคนไหนมาพูดคุยด้วยจะเกิดอาการหึงหวงอย่างรุนแรง และยังเคยใช้ยาพิษกรอกปากน้องสาวของตนและกินยาพิษตาม แต่ทางญาติได้นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลและช่วยเหลือชีวิตของทั้งสองได้ทัน
จากนั้นน้องสาวของตน ได้กลับมาอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี และมาเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนโสตศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนคนหูหนวกแต่น้องเขยยังตามไปนั่งเฝ้าขณะที่น้องสาวสอนหนังสืออยู่ จนน้องสาวทนไม่ไหวลาออกในที่สุด
จากนั้นน้องสาวของตนได้ไปทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองจังหวัดกาญจนบุรี และยังอาสาเป็นไกด์พาฝรั่งเที่ยวตามสถานที่ต่างๆของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อหารายได้เสริม ต่อมาน้องสาวของตนได้แช็ตทางอินเทอร์เน็ต เพื่อชักชวนนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งถ้ามาเที่ยวเมืองกาญจน์จะอาสานำเที่ยว
ต่อมานายสุรเชษฐ์ น้องเขย เกิดเข้าใจผิดว่าน้องสาวของตนจะไปมีสามีเป็นฝรั่งเลยเกิดอาการหึงหวง จนเกิดทะเลาะกัน ซึ่งน้องเขยของตนได้ขับรถมารับน้องสาวออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนและญาติๆ ได้ออกตามหาด้วยความเป็นห่วง แต่ก็มาพบว่า น้องเขยและน้องสาวของตนเสียชีวิตดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของคนทั้งสองเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายเป็นสามีภรรยากัน สามีมีนิสัยเป็นคนขี้หึง ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะของผู้ตายเจ้าหน้าที่พบของกลางที่ใช้ก่อเหตุเป็นมีดที่ใช้ทำครัว ยาวประมาณ 5 นิ้ว ตกอยู่ภายในเบาะด้านหน้ารถยนต์ มีเลือดติดอยู่เต็มไปหมด
จากการตรวจสภาพที่เกิดเหตุ คาดว่าคนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเป็นฝีมือของนายสุรเซษฐ์ เลิศสัจญาณ สามี ซึ่งก่อนก่อเหตุในครั้งนี้ ทั้งคู่อาจจะขับรถยนต์กระบะมาจอดที่บริเวณสระน้ำ เพื่อตกลงอะไรกัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ด้วยความโมโหนายสุรเชษฐ์ จึงใช้มีดทำครัวที่เตรียมมาฟันเข้าที่บริเวณใบหน้า จากนั้นใช้มีดเล่มเดียวกันเชือดเข้าที่ลำคอของภรรยาอย่างรุนแรงจนลูกกระเดือกขาดเสียชีวิตในที่สุด จากนั้น นายสุรเชษฐ์ ได้ใช้มีดแทงเข้าที่บริเวณลำคอด้านขวาของตัวเองจนทะลุเช่นกัน แต่เนื่องจากมีดเกิดหัก ทำให้นายสุรเชษฐ์ยังไม่เสียชีวิต จากนั้นได้วิ่งไปที่บริเวณกองเสาปูนที่อยู่ใกล้กัน และยกเสาคอนกรีตขึ้นแล้วปล่อยลงให้ทับคอตนเอง จนทำให้นายสุรเชษฐ์คอหักเสียชีวิตตามภรรยาไป
แต่อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ได้ตัดประเด็นเหตุฆาตกรรมออกไปแต่อย่างใด เนื่องจากสภาพศพของนายสุรเชษฐ์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบครั้งแรกนั้น ยังเป็นข้อสงสัยอยู่ ซึ่งตนจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตของ 2 สามีภรรยาที่แท้จริงต่อไปอีกครั้งหนึ่ง สำหรับศพของทั้ง 2 คน ได้ส่งไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบจดหมายในกระเป๋ากางเกงของนายสุรเซษฐ์ เลิศสัจญาณ อดีตนายกสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย เขียนใส่กระดาษอ่านไม่ค่อยเข้าใจมากนักซึ่งมีใจความว่า “ เรื่องสุเลิกกับผม ผมเสียใจมาก เครียดมาก สุแอบคุยคนฝรั่ง (เน็ต) www.thailovelinkh.com) เพราะสุอยากแต่งงานคนฝรั่ง สุว่าผมพูดระแวงมาก และหึงมาก ผมกับสุมีลูก คชิ (บุตรชาย) ขอโทษครับ ผมเขียนไม่เก่งครับ ขอให้ดู (www.thailovelinkh.com) ชื่อ suzi 282009@yahoo.com รหัส kimchun) และ suzi 282009@yahoo.com รหัส kimchun5) ลาเฮ้ย” ซึ่งนายสุรเชษฐ์ ได้เขียนท้ายจดหมายไว้ว่า ปล.ผมถามสุชอบคนฝรั่ง สุตอบว่า ฝึกพูดอังกฤษ และเขียนอังกฤษ ผมไม่เชื่อครับ เมื่อก่อนสุเคยเล่าให้ผมว่า สุอยากแต่งงานกับฝรั่ง