xs
xsm
sm
md
lg

เตือนเกษตรกรงดปลูกพืชใช้น้ำหลังพบน้ำในอ่างแห้งขอด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นครพนม-ชลประทานนครพนมเตือนเกษตรกรงดปลูกพืชการเกษตร หลังพบปริมาณน้ำในอ่างเฉลี่ยต่ำถึง 30 เปอร์เซ็นต์ในรอบ 7 ปี คาดภัยแล้งรุนแรง เตรียมระดมเครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่ประสบปัญหา

นายธงชัย รัตนวารินทร์ชัย ผู้อำนวยการโครงการชลประทานนครพนม สำนักงานชลประทานที่ 7 เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์น้ำในรอบ 7 ปี ตั้งแต่ปี 2545 โดยในพื้นที่จังหวัดนคพรนมภาพรวมมีอ่างเก็บน้ำต่างๆ ทั้ง 12 อำเภอ รวม 17 แห่ง สามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ 50 ล้านลูกบาตรเมตร

ในปี 52 มีปริมาณน้ำเฉลี่ยประมาณ 36 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ75เปอร์เซ็นต์ แต่ในปี 53 ขณะนี้พบว่าปริมาณน้ำเฉลี่ยถือว่าอยู่ในระดับน้อยมากแค่ประมาณ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับปีที่ผ่านมา ในช่วงนี้จะมีปริมาณน้ำเฉลี่ยที่ประมาณ 60 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสาเหตุอาจจะมาจากปีนี้ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยน้อย บวกกับความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ

ทั้งนี้ คาดว่าปีนี้จะส่งผลกระทบเกิดปัญหาภัยแล้งรุนแรงมากขึ้น จึงขอประกาศเตือนให้เกษตรกรที่อยู่ในเขตชลประทานทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ตอนในห่างไกลน้ำโขง งดปลูกพืชการเกษตรไว้ชั่วคราวโดยเพาะข้าวนาปังใช้น้ำมาก และในปีนี้ข้าวราคาเกษตรกรปลูกมาก เพื่อป้องกันประสบปัญหาภัยแล้งผลลิตได้รับความเสียหาย ซึ่งมีความจำเป็นที่ชลประทานจะต้องจ่ายน้ำในส่วนที่จำเป็นเพื่ออุปโภคบริโภค หรือปลูกพืชผักในครัวเรือนเท่านั้น

นอกจากนี้ ในส่วนพื้นที่นอกชลประทานได้ประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดมเครื่องสูบน้ำ จำนวนกว่า 30 เครื่อง เข้าไปติดตั้งเตรียมการช่วยเหลือเร่งด่วน สำหรับพื้นที่เกษตรติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง คาดว่าจะไม่ประสบปัญหามากนักแต่มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ในการสูบน้ำขึ้นมาใช้เช่นต้องใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นและต่อท่อพีวีซียาวขึ้น แต่ต้องเตรียมการรับมือเพราะแนวโน้มระดับน้ำโขงจะแห้งมาก

จากตัวเลขสถิติระดับน้ำโขงปีนี้จะแห้งเร็วกว่าปีที่แล้วถึง 1.40 เมตร และอาจจะส่งผลกระทบ ซึ่งสถานการณ์น้ำน้อยหรือมากในแต่ละปี จะขึ้นกับปริมาณน้ำฝนมากหรือน้อยและสอดคล้องกับนโยบายพัฒนาของจังหวัด ทั้งในส่วน อบจ.อบต.และหน่วยทหารในพื้นที่จะมีการขุดสระน้ำเพื่อกักเก็บน้ำได้เท่าไหร่ ถ้ามีโครงการมากก็จะสามารถเก็บน้ำในช่วงน้ำฝนได้มากส่งผลดีต่อเกษตรกรในอนาคต
กำลังโหลดความคิดเห็น