บุรีรัมย์ - คณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับอำเภอ รุดลงพื้นที่ตรวจสอบนาข้าวของเกษตรกร 2 หมู่บ้าน กว่า 170 ราย ที่ร้องขอความช่วยเหลือนาข้าวประสบภัยแล้งสูญกว่า 2,000 ไร่ ไม่มีหน่วยงานใดเหลียวแล เร่งรวบรวมข้อมูลเสนอให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน
วันนี้ (24 พ.ย.) นายยลยง มีพืชน์ นายอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางอรพรรณ วัชรโพธิ์ เกษตรอำเภอสตึก และคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินฝนทิ้งช่วงระดับอำเภอ ซึ่งประกอบไปด้วยปลัดอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอ ได้ลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบนาข้าวของเกษตรกร บ้านกระทุ่ม หมู่ 4 และหมู่ 15 ต.ร่อนทอง อ.สตึก กว่า 170 ราย
ทั้งนี้ เกษตรกรทั้ง 2 หมู่บ้าน ได้ร้องขอความช่วยเหลือไปหลายหน่วยงาน กรณีนาข้าวประสบปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วงได้รับความเสียหายกว่า 2,000 ไร่ แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ
โดยหลังจากการสำรวจแล้วคณะอนุกรรมการจะได้รวบรวมข้อมูลพื้นที่ที่เสียหายจริง เสนอรายงานอำเภอ และจังหวัด พิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ พร้อมให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน
เบื้องต้นเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการประกันรายได้ จะได้รับเงินชดเชยส่วนต่างจากราคาอ้างอิงตามโครงการฯ 2,298 บาทต่อตัน ผลผลิตไม่เกิน 14 ตัน และหากทางจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้ง เกษตรกรจะได้รับเงินชดเชยผู้ประสบภัยพิบัติอีกไร่ละ 606 บาท ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมการฯ ได้เร่งดำเนินการยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือ เพื่อคลายความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรดังกล่าวโดยเร็วต่อไป
นางอรพรรณ วัชระโพธิ์ เกษตรอำเภอสตึก เปิดเผยว่า หลังได้รับร้องเรียนจากเกษตรกรทั้ง 2 หมู่บ้าน ทางอำเภอก็ได้ตั้งคณะอนุกรรมการระดับอำเภอ เร่งเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งนาข้าวเสียหาย จะได้รับการชดเชยช่วยเหลือตามพื้นที่ที่เสียหายจริง ตามระเบียบหลักเกณฑ์ของทางราชการ เพราะบางรายนาข้าวเสียหายเพียงบางส่วน
อย่างไรก็ตาม นอกจากทางคณะอนุกรรมการจะลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่นาข้าวที่ได้รับความเสียหายแล้ว ยังได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ถึงระเบียบหลักเกณฑ์ และขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้งดังกล่าวอีกด้วย