ผู้ว่าฯระยองร่วมผู้ว่าฯกนอ.ถกแก้ปัญหามาบตาพุด

ระยอง - ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ร่วมกับผู้ว่าฯ กนอ.หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา "มาบตาพุด" ให้สอดคล้องกัน

วันนี้ (12 ม.ค.53) ที่ร้านอาหารครัวแกงเผ็ด หมู่ 5 ต.เชิงเนิน อ.เมืองระยอง นายสยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายวิรัต รัตนวิจิตร นายอำเภอเมืองระยอง นายสมพงษ์ โสภณ นายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด นายบัณฑิต ธงศรีเจริญ หัวหน้าสำนักงานอุตสาหกรรม จ.ระยอง และนายสุทธา เหสถล กลุ่มระยองสมานฉันท์ เดินทางมาร่วมประทานอาหารร่วมกันกับคณะของนางมณฑา ประนุทนรพาล ผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)

นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม รองผู้ว่า กนอ. นายพีระวัฒน์ รุ่งเรืองศรี ผอ.สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมืองระยอง นายวีระศักดิ์ เพิ่มแพงพันธ์ ผอ.นิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ฯลฯและคณะ หลังการหารือร่วมกันนางมณฑา ผู้ว่า กนอ.ได้มอบของที่ระลึกแก่ นายสยุมพร ลิ่มไทย ผวจ.ระยองนายอำเภอเมืองระยองและนายกเทศมนตรีเมืองมาบตาพุด

นางมณฑา กล่าวว่า นโยบายของคณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและนโยบายของผู้ว่าระยอง วันนี้ได้มีการหารือร่วมกันที่มีความสอดคล้องกันคือต้องมีการขับเคลื่อนไปข้างหน้าร่วมกัน

ส่วนประชาชนในพื้นที่และภาครัฐรวมทั้งผู้ประกอบการ ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมกัน การขับเคลื่อนจะต้องผลักดันในเรื่องของโครงการต่างๆให้เป็นเอกภาพ ต่อไปเราคงจะต้องหารือร่วมกันทั้งในระดับพื้นที่และในระดับปฏิบัติการด้วย จะต้องมีส่วนร่วมกันในการผลักดัน อาทิโครงการของ ซีเอสอาร์จะทำไปพร้อมกัน โดยรับนโยบายจากคณะกรรมการในพื้นที่ ประกอบด้วยผู้ว่าราชการ จ.ระยอง เป็นประธาน

ส่วนภาคประชาชน การนิคมอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ประกอบการที่อยู่ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรม ต้องดำเนินการให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน อาจจะต้องรับผิดชอบโครงการในแต่ละส่วน ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการในพื้นที่ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ น่าจะเป็นวิธีการที่จะดำเนินการให้ประสบความสำเร็จ ในระยะยาวถ้าเราได้มีการให้ความร่วมมือกันในลักษณะเช่นนี้ และมีการขยายต่อเนื่องการมีส่วนร่วมของประชาชน ศูนย์เฝ้าระวัง การตอบโต้แผนต่างๆ จะทำไปด้วยกัน คิดว่าการที่จะอยู่ร่วมกันระหว่างอุตสาหกรรมกับชุมชน น่าจะทำให้เกิดการอยู่ร่วมกันได้

นางมณฑา กล่าวว่า ทางเราก็รับฟังคนในพื้นที่ว่าคิดอย่างไร จุดอ่อนที่เราจะต้องปรับปรุงแก้ไข คือ เรื่องศูนย์เฝ้าระวัง ในด้านทางเทคนิค เราก็ดำเนินการไปส่วนหนึ่ง แต่เมื่อประชาชนมีความรู้สึกว่าอยากจะเข้ามามีส่วนร่วม ก็อาจจะต้องกลับมารับฟังความคิดเห็น เพราะว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องในการดูแลแก้ไขปัญหาได้อย่างไร

ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขีดเส้นตายว่าในเดือนพฤษภาคมนี้ปัญหามาบตาพุดจะต้องจบ นางมณฑา กล่าวว่าเรื่องของขบวนการตามกฎหมาย มีหลายระดับ ในระดับนโยบาย เพราะฉะนั้นการกำหนดกติกา มันเป็นเรื่องของขบวนการ รัฐบาลใช้ความพยายามอย่างมากในการแก้ไขปัญหามาบตาพุด ส่วนเรื่องระยะเวลาคงจะต้องเป็นเรื่องของคณะกรรมการหรือบุคคลที่รัฐบาลแต่งตั้งเข้ามาดูแลในส่วนนี้ คงจะใช้ความพยายามในการที่จะเร่งรัดให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อที่จะสามารถแก้ไขปัญหาให้ผ่านไปได้ก่อน