ศูนย์ข่าวขอนแก่น - อธิบดีกรมศิลปากร มั่นใจตำรวจจะติดตามโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่นซึ่งหายไปจากการโจรกรรมที่ยังขาดไป 3 ชิ้น กลับคืนได้แน่นอน พร้อมมอบเงินรางวัล 200,000 บาท ขอบคุณตำรวจภูธรภาค 4 ที่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้
ก่อนเที่ยงวันนี้ (12 ม.ค.) ที่โรงแรมเจริญธานี ปริ๊นเซส จังหวัดขอนแก่น นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร มอบเงินรางวัล 200,000 บาท พร้อมของที่ระลึกให้กับ พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และข้าราชการตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และกองกำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สืบเนื่องจากโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ได้ถูกโจรกรรม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 จำนวน 91 รายการ ประกอบด้วย พระพิมพ์ดินเผา จากพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม จำนวน 55 รายการ พระพิมพ์ดินเผา จากเมืองฟ้าแดดสงยาง จ.กาฬสินธ์ จำนวน 12 รายการ พระพุทธรูปสำริด สมัยทวารวดี จำนวน 7 รายการ พระโพธิสัตว์สำริด สมัยลพบุรี จำนวน 5 รายการ แผ่นทองคำจากกรุพระธาตุนาดูน จำนวน 2 รายการ
ทั้งนี้ จากข้อมูลกล้องวงจรปิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลต่อ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2552 โดยผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้โจรกรรม จับกุมได้พร้อมของกลางพระพิมพ์ดินเผานาดูน และเทวรูปสำริดสมัยลพบุรี รวม 67 รายการ
ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้รับซื้อ พร้อมของกลางพระพิมพ์ ดินเผานาดูน จำนวน 20 รายการ ภายหลังตำรวจตรวจจับและนำคืนได้อีก 2 รายการ รวมโบราณวัตถุที่ได้รับคืนสู่พิพิธภัณฑสถานขอนแก่น จำนวน 89 รายการ ขาด 2 รายการ
แต่ผลการประเมินสภาพและตรวจสอบข้อมูลทะเบียนโบราณวัตถุ พบว่ามีหนึ่งชิ้นเป็นการทำเลียนแบบขึ้นมา จึงยังขาดโบราณวัตถุที่ต้องติดตามคืน รวมเป็น 3 รายการ
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่าอย่างไรก็ตาม จากการที่ตำรวจทุกภาคส่วนร่วมปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมคนร้ายและติดตามสมบัติชาติคืนในระยะเวลา 20 วัน แสดงถึงความมุ่งมั่นช่วยกันติดตามและรักษาสมบัติชาติ
ทางกรมศิลปากรจึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเชื่อมั่นว่าสมบัติชาติที่ยังขาดหายไปอีก 3 รายการ จะสามารถติดตามกลับคืนได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ทางกรมศิลปากร จะมีการจัดการปรับปรุงสถานที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั้ง 44 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้แข็งแรงขึ้น พร้อมกับติดตั้งอุปกรณ์ เพิ่มเติม และมีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น
โดยภายในปี 2554 จะตั้งงบประมาณเพื่อจัดการเสริมประสิทธิภาพกล้องวงจรปิด เนื่องจากสภาพเดิมไม่สามารถซูมภาพขนาดใกล้ได้ อีกทั้งจะมีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัยบริเวณตู้จัดแสดงด้วย ทั้งตามที่มีหลายฝ่ายให้คำแนะนำไว้
ก่อนเที่ยงวันนี้ (12 ม.ค.) ที่โรงแรมเจริญธานี ปริ๊นเซส จังหวัดขอนแก่น นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร มอบเงินรางวัล 200,000 บาท พร้อมของที่ระลึกให้กับ พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และข้าราชการตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และกองกำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า สืบเนื่องจากโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ได้ถูกโจรกรรม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 จำนวน 91 รายการ ประกอบด้วย พระพิมพ์ดินเผา จากพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม จำนวน 55 รายการ พระพิมพ์ดินเผา จากเมืองฟ้าแดดสงยาง จ.กาฬสินธ์ จำนวน 12 รายการ พระพุทธรูปสำริด สมัยทวารวดี จำนวน 7 รายการ พระโพธิสัตว์สำริด สมัยลพบุรี จำนวน 5 รายการ แผ่นทองคำจากกรุพระธาตุนาดูน จำนวน 2 รายการ
ทั้งนี้ จากข้อมูลกล้องวงจรปิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลต่อ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2552 โดยผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้โจรกรรม จับกุมได้พร้อมของกลางพระพิมพ์ดินเผานาดูน และเทวรูปสำริดสมัยลพบุรี รวม 67 รายการ
ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้รับซื้อ พร้อมของกลางพระพิมพ์ ดินเผานาดูน จำนวน 20 รายการ ภายหลังตำรวจตรวจจับและนำคืนได้อีก 2 รายการ รวมโบราณวัตถุที่ได้รับคืนสู่พิพิธภัณฑสถานขอนแก่น จำนวน 89 รายการ ขาด 2 รายการ
แต่ผลการประเมินสภาพและตรวจสอบข้อมูลทะเบียนโบราณวัตถุ พบว่ามีหนึ่งชิ้นเป็นการทำเลียนแบบขึ้นมา จึงยังขาดโบราณวัตถุที่ต้องติดตามคืน รวมเป็น 3 รายการ
อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่าอย่างไรก็ตาม จากการที่ตำรวจทุกภาคส่วนร่วมปฏิบัติหน้าที่สืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมคนร้ายและติดตามสมบัติชาติคืนในระยะเวลา 20 วัน แสดงถึงความมุ่งมั่นช่วยกันติดตามและรักษาสมบัติชาติ
ทางกรมศิลปากรจึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเชื่อมั่นว่าสมบัติชาติที่ยังขาดหายไปอีก 3 รายการ จะสามารถติดตามกลับคืนได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ทางกรมศิลปากร จะมีการจัดการปรับปรุงสถานที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั้ง 44 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้แข็งแรงขึ้น พร้อมกับติดตั้งอุปกรณ์ เพิ่มเติม และมีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น
โดยภายในปี 2554 จะตั้งงบประมาณเพื่อจัดการเสริมประสิทธิภาพกล้องวงจรปิด เนื่องจากสภาพเดิมไม่สามารถซูมภาพขนาดใกล้ได้ อีกทั้งจะมีการติดตั้งสัญญาณเตือนภัยบริเวณตู้จัดแสดงด้วย ทั้งตามที่มีหลายฝ่ายให้คำแนะนำไว้