xs
xsm
sm
md
lg

อธิบดีกรมศิลป์ เผยพระนาดูนตามคืนได้แล้ว 89 รายการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อธิบดีกรมศิลป์ขู่คนซื้อพระนาดูนที่เหลือ 2 รายการเร่งนำของมาคืน หลังตามได้แล้ว 89 รายการ สวนข้อเรียกร้อง คกก.พระธาตุนาดูนฯ หลังยื่นศาลปกครองไล่ ผอ.พช.ขอนแก่น พร้อมท้าพิสูจน์พระพิมพ์นาดูนของแท้ 100%


วันนี้ (28 ธ.ค.) นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจจับกุมนายมงคลเดช ศูนย์จันทร์ อายุ 21 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายประดิษฐ์ ปะวะภูตา หรือเล็ก นาดูน ผู้ต้องหาโจรกรรมวัตถุโบราณ 91 รายการ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่นว่าขณะนี้สามารถติดตามโบราณวัตถุกลับคืนมาได้ทั้งหมด 89 รายการ เหลือเพียงพระพิมพ์ดินเผานาดูน 2 รายการ โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามคืน เพราะทราบมาว่าได้ถูกขายไปให้กับบุคคลอื่นแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถติดตามคืนได้ในเร็วๆ นี้ แต่หากยังไม่ได้คืน กรมศิลปากรก็ต้องออกประกาศแจ้งเตือนการครอบครองโบราณวัตถุ เพื่อให้บุคคลที่ถือครองนำมาคืน มิฉะนั้นมีความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พ.ศ.2504

นายเกรียงไกรกล่าวต่อไปว่า โบราณวัตถุ 89 รายการที่ได้คืนมานั้น ตนได้รับการรายงานว่า มี 3 รายการที่ชำรุด ซึ่งต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซมให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ส่วนกรณีที่มีมติและข้อเรียกร้องจากคณะกรรมการกองทุนพัฒนาและอนุรักษ์พระธาตุนาดูน และคณะสงฆ์วัดพระธาตุนาดูน จ.มหาสารคาม ทั้ง 5 ข้อ ได้แก่ 1.ดำเนินการฟ้องร้องศาลปกครองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีกับตน ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้อง 2.การย้ายผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ ขอนแก่น 3.ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีให้เร่งดำเนินคดี 4.ให้แต่งตั้งคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบนิติวิทยาศาสตร์วัตถุโบราณนครจำปาศรี ซึ่งเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ เนื่องจากสันนิษฐานว่าโบราณวัตถุเป็นของปลอม และ 5.ขอโบราณวัตถุทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์นครจำปาศรีแทน ซึ่งตนมองว่าข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อนั้นทุกฝ่ายสามารถเสนอได้ แต่ยืนยันว่ากรมศิลปากรได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่หากทุกฝ่ายยังไม่สบายใจก็พร้อมให้มีการพิสูจน์

“การยื่นฟ้องศาลปกครองเป็นสิทธิที่ทุกฝ่ายทำได้ แต่ยืนยันว่าได้ทำหน้าที่ครบสมบูรณ์แล้ว และการไล่ ผอ.พิพิธภัณฑ์ฯ ขอนแก่นนั้น ตอนนี้กรมศิลปากรได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้วว่ามีคนของพิพิธภัณฑ์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเกี่ยวข้องจะมีการลงโทษทางวินัยทันที และยืนยันว่าโบราณวัตถุที่จัดแสดงทั้งหมดเป็นของจริง และหากจะย้ายไปเก็บรักษาที่อื่นต้องมีประชุมหารือว่าสถานที่จัดแสดงนั้นมีมาตรการความปลอดภัยและความพร้อมที่จะดูแลสมบัติชาติหรือไม่ ที่สำคัญผู้ที่จะขอไปจัดแสดงต้องทำหนังสือมายังกรมศิลปากร เพราะโบราณวัตถุดังกล่าวมีการขึ้นทะเบียนและเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของแก่นมานานแล้ว” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น