กาฬสินธุ์ - พระมหาเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) ควบเก๋งหนีเที่ยวราตรี สุดซวยขับรถชนร้านขายไก่ย่างริมถนน ตำรวจเข้าตรวจเรื่องจึงแดงขึ้น ด้านรองเจ้าคณะจังหวัดและประชาชนร้องให้จับสิกขาบท เหตุทำความเสื่อมเสียให้กับพุทธศาสนา
วันนี้ (11 ม.ค.) พระราชศีลโสภิต หรือหลวงพ่อหนูอินทร์ เกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนนำเอกสารบันทึกประจำวันของตำรวจร้องเรียนผู้สื่อข่าว เพื่อเรียกร้องให้พระผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการสิกขาบทพระมหาวีระชัย วชิโร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) วัดกลางพระอารามหลวง ชื่อจริงว่านายวีระชัย ศรีหาพล อายุ 31 ปี หลังจากถอดผ้าเหลือง แอบขับรถเก๋งหนีเที่ยวในเวลากลางคืนกับผู้หญิง และขับไปชนกับร้านไก่ย่าง ซึ่งการกระทำดังกล่าวผิดกฎระเบียบของสงฆ์ แต่กลับไม่ถูกลงโทษตามกฎของสงฆ์
พระราชศีลโสภิต หรือหลวงพ่อหนูอินทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากพุทธศาสนิกชนหลายคนว่า มีพระมหารูปหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นพระมหาวีระชัย วชิโร มีตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) วัดกลางพระอารามหลวง ได้กระทำพฤติกรรมออกนอกลู่นอกทางไม่เหมาะสมกับการเป็นพระภิกษุสงฆ์ จึงได้ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งปรากฏว่าเรื่องการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสมของพระมหาวีระชัยมีความเป็นจริง
พระราชศีลโสภิต กล่าวต่อว่า จึงได้ประสานยังตำรวจสภ.ยางตลาดเพื่อสอบถามความจริงและขอเอกสารหลักฐานบันทึกประจำวันที่เกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวน จึงทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.55 น.วันที่ 29 กรกฎาคม 2552 พระมหาวีระชัย ได้สวมชุดลำรองขับรถเก๋งยี่ห้อเชฟโลเลต สีบร์อน ทะเบียน กค194 กาฬสินธุ์ ไปเกิดอุบัติเหตุชนกับร้านขายไก่ย่างริมถนนสายยางตลาด-โพนทอง กม.ที่ 1 อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุพ.ต.ท.เทพบดินทร์ ทรงหอม พนักงานสอบสวนและตำรวจสภ.ยางตลาดเข้าตรวจสอบก็พบพระมหาวีระชัยแต่งกายอยู่ในชุดลำรอง เหมือนกับประชาชนทั่วไป อยู่ในอาการเมาสุรา และภายในรถยังมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งมาด้วย ทั้งนี้ช่วงเกิดเหตุตำรวจไม่ทราบว่าพระมหาวีระชัยอยู่ระหว่างการบวชเป็นพระ เพราะใช้ชื่อจริงว่านายวีระพล ศรีหาพล ตำรวจจึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทหรือหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ เปรียบเทียบปรับก่อนปล่อยตัวไป จากนั้นภายหลังจึงเดินทางมารับสารภาพว่าเป็นคนขับรถคันดังกล่าว
พระราชศีลโสภิต กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้สอบถามไปยังพระมหาวีระชัย ซึ่งก็ได้รับคำตอบ โดยการแก้ตัวว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำ ส่วนเอกสารต่างๆมีผู้ทำขึ้น เพื่อกลั่นแกล้ง และพยายามพูดคุยปรึกษากับพระผู้ใหญ่ในจังหวัดกาฬสินธุ์และส่วนกลาง เพื่อที่จะดำเนินการกับพระมหาวีระชัย เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้เสื่อมเสียพระพุทธศาสนา
จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับการดำเนินการใดๆจากผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงพระผู้ใหญ่ที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพระมหาวีระชัย
ด้านนายประมูล มหิพันธุ์ อายุ 53 ปี พุทธศาสนิกชน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรุงเทพมหานครแล้ว ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งคาดว่าน่าจะสรุปเรื่องได้อีกไม่นาน ทั้งนี้สาเหตุที่นำเรื่องไปร้องเรียน เพราะเห็นว่าการกระทำของพระมหาวีระชัยถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ถอดผ้าเหลืองแล้วขับรถไปเที่ยว
โดยมีผู้หญิงไปด้วย อีกทั้งยังมีอาการเมาสุรา เมื่อถอดผ้าเหลือไปแล้วต้องหมดจากการเป็นพระตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ปัจจุบันกลับนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้องภายในวัดกลางทราบว่าผู้พระผู้ใหญ่และพระมหาวีระชัยนั้นเดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร
วันนี้ (11 ม.ค.) พระราชศีลโสภิต หรือหลวงพ่อหนูอินทร์ เกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคอีสาน เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนนำเอกสารบันทึกประจำวันของตำรวจร้องเรียนผู้สื่อข่าว เพื่อเรียกร้องให้พระผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการสิกขาบทพระมหาวีระชัย วชิโร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) วัดกลางพระอารามหลวง ชื่อจริงว่านายวีระชัย ศรีหาพล อายุ 31 ปี หลังจากถอดผ้าเหลือง แอบขับรถเก๋งหนีเที่ยวในเวลากลางคืนกับผู้หญิง และขับไปชนกับร้านไก่ย่าง ซึ่งการกระทำดังกล่าวผิดกฎระเบียบของสงฆ์ แต่กลับไม่ถูกลงโทษตามกฎของสงฆ์
พระราชศีลโสภิต หรือหลวงพ่อหนูอินทร์ เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธมงคล ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะรองเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากพุทธศาสนิกชนหลายคนว่า มีพระมหารูปหนึ่ง ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นพระมหาวีระชัย วชิโร มีตำแหน่งเป็นเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (มหานิกาย) วัดกลางพระอารามหลวง ได้กระทำพฤติกรรมออกนอกลู่นอกทางไม่เหมาะสมกับการเป็นพระภิกษุสงฆ์ จึงได้ร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งปรากฏว่าเรื่องการประพฤติตนที่ไม่เหมาะสมของพระมหาวีระชัยมีความเป็นจริง
พระราชศีลโสภิต กล่าวต่อว่า จึงได้ประสานยังตำรวจสภ.ยางตลาดเพื่อสอบถามความจริงและขอเอกสารหลักฐานบันทึกประจำวันที่เกี่ยวข้องกับพนักงานสอบสวน จึงทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.55 น.วันที่ 29 กรกฎาคม 2552 พระมหาวีระชัย ได้สวมชุดลำรองขับรถเก๋งยี่ห้อเชฟโลเลต สีบร์อน ทะเบียน กค194 กาฬสินธุ์ ไปเกิดอุบัติเหตุชนกับร้านขายไก่ย่างริมถนนสายยางตลาด-โพนทอง กม.ที่ 1 อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุพ.ต.ท.เทพบดินทร์ ทรงหอม พนักงานสอบสวนและตำรวจสภ.ยางตลาดเข้าตรวจสอบก็พบพระมหาวีระชัยแต่งกายอยู่ในชุดลำรอง เหมือนกับประชาชนทั่วไป อยู่ในอาการเมาสุรา และภายในรถยังมีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งมาด้วย ทั้งนี้ช่วงเกิดเหตุตำรวจไม่ทราบว่าพระมหาวีระชัยอยู่ระหว่างการบวชเป็นพระ เพราะใช้ชื่อจริงว่านายวีระพล ศรีหาพล ตำรวจจึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทหรือหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ เปรียบเทียบปรับก่อนปล่อยตัวไป จากนั้นภายหลังจึงเดินทางมารับสารภาพว่าเป็นคนขับรถคันดังกล่าว
พระราชศีลโสภิต กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้สอบถามไปยังพระมหาวีระชัย ซึ่งก็ได้รับคำตอบ โดยการแก้ตัวว่าไม่ได้เป็นผู้กระทำ ส่วนเอกสารต่างๆมีผู้ทำขึ้น เพื่อกลั่นแกล้ง และพยายามพูดคุยปรึกษากับพระผู้ใหญ่ในจังหวัดกาฬสินธุ์และส่วนกลาง เพื่อที่จะดำเนินการกับพระมหาวีระชัย เพราะเรื่องดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ทำให้เสื่อมเสียพระพุทธศาสนา
จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับการดำเนินการใดๆจากผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงพระผู้ใหญ่ที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของพระมหาวีระชัย
ด้านนายประมูล มหิพันธุ์ อายุ 53 ปี พุทธศาสนิกชน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรุงเทพมหานครแล้ว ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งคาดว่าน่าจะสรุปเรื่องได้อีกไม่นาน ทั้งนี้สาเหตุที่นำเรื่องไปร้องเรียน เพราะเห็นว่าการกระทำของพระมหาวีระชัยถือว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ถอดผ้าเหลืองแล้วขับรถไปเที่ยว
โดยมีผู้หญิงไปด้วย อีกทั้งยังมีอาการเมาสุรา เมื่อถอดผ้าเหลือไปแล้วต้องหมดจากการเป็นพระตั้งแต่วันนั้นแล้ว แต่ปัจจุบันกลับนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยังผู้เกี่ยวข้องภายในวัดกลางทราบว่าผู้พระผู้ใหญ่และพระมหาวีระชัยนั้นเดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร