เกษตรกรอีสานใต้กว่าพันคน บุกชุมนุม“ชายแดนเขมร”ร้องรัฐจัดสรรเข้าทำกิน

สุรินทร์ - เกษตรกรกลุ่มสภาปชช. 4 ภาค จาก 3 จว.อีสานใต้ กว่า 1,200 คน เข้าชุมนุมใหญ่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่ป่าถาวรแห่งชาติ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เพื่อแสดงเจตนารมณ์และรวบรวมข้อมูลปัญหาพร้อมแต่งตั้งตัวแทนระดับอำเภอ-จังหวัด เรียกร้องรัฐบาลจัดสรรพื้นที่ว่างเปล่า ป่าเสื่อมโทรมตามแนวชายแดนให้ปชช.ยากจนไร้ที่ดิน เข้าทำกินและเป็นกันชนป้องกันเขมรรุกล้ำแผ่นดินไทย ยันไม่นำมวลชนเข้าชุมนุมกดดันรัฐบาลร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เขายายเที่ยง พรุ่งนี้ (11 ม.ค.) แน่นอน



วันนี้ (10 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ที่บริเวณพื้นที่ป่าถาวรแห่งชาติ ห้วยสำราญ (ตามมติ ครม.2536) บ.โอทะลัน ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ได้มีเกษตรกรกลุ่มสภาเครือข่ายประชาชนภาคอีสาน (สอส.) ของ สภาประชาชน 4 ภาค จาก จ.สุรินทร์, บุรีรัมย์ และ ศรีสะเกษ กว่า 1,200 คน นำโดย นายประพาส โงกสูงเนิน ประธานสอส. แกนนำสภาประชาชน 4 ภาค และ นายเสวย แรงกล้า ชาวบ้านโอทะลัน อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ เดินทางเข้าร่วมชุมนุมพร้อมทำการคัดเลือกตัวแทนของแต่ละอำเภอและจังหวัด เพื่อรวบรวมข้อมูลปัญหาเรื่องที่ดินทำกินยื่นขอเรียกร้องต่อให้รัฐบาล ได้จัดหาพื้นที่ว่างเปล่าและป่าเสื่อมโทรม ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในแต่ละจังหวัดมาจัดสรรให้แก่ประชาชนที่ยังไม่มีที่ดินทำกิน

ทั้งนี้เมื่อปลายเดือน ต.ค. ปีที่ผ่านมา เกษตรกรกลุ่มดังกล่าวได้รวมตัวที่วัดเขาโต๊ะ บ.ไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อลงชื่อสมาชิกไร้ที่ทำกินกว่า 7 หมื่นคน จาก 7 จังหวัด ประกอบด้วย จ.จันทบุรี,ตราด,สระแก้ว,บุรีรัมย์,สุรินทร์,ศรีสะเกษ และ อุบลราชธานี เรียกร้องให้รัฐบาลจัดสรรที่ดินว่างเปล่า ที่ป่าเสื่อมโทรม บริเวณพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา นำมาจัดสรรให้ประชาชนฐานะยากจน และไม่มีที่ดินทำกิน ได้เข้าไปทำประโยชน์ทำการเกษตรปลูกพืชผัก มันสำปะลัง และยางพารา เพื่อสร้างรายได้แก้ไขปัญหาความยากจน

อีกทั้งยังเป็นการปลูกต้นไม้สร้างป่าตามแนวชายแดน เป็นแนวกันชนสร้างความมั่นคงป้องกันการรุกล้ำเขตแดน หรือการบุกรุกเข้ายึดครองแผ่นดินไทยของประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนอีกด้วย ซึ่งสมาชิกสภาเครือข่าย ทั้ง 2 เครือข่ายได้มีการทำหนังเสนอไปยังกองทัพบก และหน่วยงานกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แล้ว แต่ล่าสุดยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ในวันนี้จึงมีการรวมตัวของประชาชนสมาชิกทั้ง 2 เครือข่าย เพื่อคัดเลือกตัวแทน ประชาชน ในการเดินทางไปเจรจาเรียกร้องกับรัฐบาลต่อไป โดยจะมีการปักหลัก เข้าอยู่ในป่าถาวรแห่งชาติห้วยสำราญ บ.โอทะลัน แห่งนี้ไปจนถึงพรุ่งนี้ (11 ม.ค.) และ ยืนยันว่าจะไม่มีการนำสมาชิกเดินทางไปร่วมชุมนุม กดดันรัฐบาลกับกลุ่มคนเสื้อแดง ที่เขายายเที่ยง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน

นายประภาส โงกสูงเนิน ประธานสอส. และแกนนำสภาประชาชน 4 ภาค กล่าวว่า วัตถุประสงค์หลักในการเคลื่อนไหวของ สอส.และสภาประชาชน 4 ภาค ในครั้งนี้ ต้องการที่จะดำเนินการสรรหา จัดตั้งคณะกรรมการระดับอำเภอ ซึ่งเป็นสมาชิกของ สอส.จากทุกอำเภอที่มาชุมนุมในครั้งนี้ โดยการคัดเลือกตัวแทนจากอำเภอต่าง ๆ อำเภอละ 2 คน จากนั้นจะนำรายชื่อตัวแทนของแต่ละอำเภอเสนอไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ และเสนอไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้นายกรัฐมนตรี รับเรื่องเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือแต่งตั้งคณะทำงานและจัดหาหน่วยงานรับผิดชอบ เข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่เป็นสมาชิก สอส.ที่ต้องการที่ทำกิน

นอกจากนี้ได้ให้แกนนำกลุ่มของแต่ละจังหวัดได้ไปดำเนินการจัดหาพื้นที่ ซึ่งเป็นป่าเสื่อมโทรมตามบริเวณชายแดนภายในบริเวณจังหวัดของตน เพื่อที่คณะกรรมการ สอส.จะได้เข้าไปดำเนินการช่วยเหลือสมาชิกที่ต้องการที่ทำกินต่อไป

“อีกทั้งยังเป็นการพิสูจน์ตัวเองว่า สอส.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของ กลุ่มคนเสื้อแดงนปช.ที่เขายายเที่ยง เนื่องจากขณะนี้มีข่าวว่ากลุ่มเราจะนำ มวลชนเดินทางไปร่วมชุมนุมกับกลุ่ม นปช.ที่เขายายเที่ยง ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้น กลุ่มมวลชนของพวกเรา จะปักหลักอยู่ในพื้นที่ บ.โอทะลัน จนถึงวันพรุ่งนี้ (11 ม.ค.) จึงจะสลายการชุมนุม” นายประภาส กล่าว