ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “บุญจง” มท.2 รุดพบกลุ่มเกษตรกรปลูกมันฯ โคราชรับข้อเรียกร้องเร่งผลักดันแก้ไขปัญหาหวั่นประท้วงปิดถนน ย้ำไม่สกัดเกณฑ์กลุ่มเสื้อแดงเข้ากรุงชุมนุมปิดล้อมสภาฯวันแถลงนโยบาย 29-30 ธ.ค.นี้ ชี้เป็นสิทธิเสรีภาพของปชช. แต่ต้องอยู่ในกรอบกติกากฎหมาย คาดมีผู้ชุมนุมจำนวนมาก เชื่อไม่รุนแรงบานปลายซ้ำรอย 7 ตุลาทมิฬ เผยรอประเมินสถานการณ์ขั้นสุดท้ายอีกครั้ง
วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) เดินทางมารับฟังปัญหาข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ อ.หนองบุญมาก ที่ประสบปัญหาราคาตกต่ำและเข้าร่วมโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2551/2552 โดยมีเกษตรกร เข้าร่วมกว่า 500 คน ทั้งนี้เพื่อเร่งหาทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร ป้องกันการชุมนุมประท้วงปิดถนนสร้างความวุ่นวายเกิดขึ้น
โดยกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาโครงการแทรกแซงตลาดมันฯ ปี 2551/2552 ด้วยการเพิ่มปริมาณรับจำนำมันฯ จาก 5 ล้านตันเป็น 10 ล้านตันทั่วประเทศ และเพิ่มจุดรับซื้อมันฯ ให้เพียงพอ ผู้ประกอบการลานมัน และโรงแป้งมันที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องไม่ปฏิเสธการรับมันสำปะหลังจากเกษตรกร รวมถึงให้จัดคิวการส่งมอบมันฯ และ เร่งรัดการดำเนินงานของ องค์การคลังสินค้า (อคส.) และ ธนาคารเพื่อการเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรรวดเร็วมากขึ้น
รวมทั้งเสนอให้แก้ไขปัญหาผลผลิตมันฯ ตกต่ำ ทั้งด้านการปรับปรุงบำรุงดิน การส่งเสริมพันธุ์มันฯที่มีคุณภาพและช่วยเหลือลดต้นทุนด้านปัจจัยการผลิต ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย ยากำจัดวัชพืช และสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตรราคาถูก พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลผลักดันออก พ.ร.บ.มันสำปะหลังเพื่อจัดตั้งกองทุนขึ้นมาพัฒนามันสำปะหลังทั้งระบบในระยะยาวเช่นเดียวกับ ยางพารา และ อ้อย
นอกจากนี้เกษตรกรยังเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์ ที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย รวมถึงปัญหาน้ำท่วม ฝนแล้งที่รัฐบาลต้องหามาตรการรองรับและให้การช่วยเหลือเกษตรกรให้รวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจากเกษตรกรไว้ทั้งหมดแล้ว และจะนำเสนอต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาแก้ไขปัญหาให้แก่เกษตรกรฯ อย่างเร่งด่วนต่อไปหลังเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายและรัฐบาลสามารถเดินหน้าบริหารประเทศได้อย่างเต็มรูปแบบ แต่ได้ขอร้องให้เกษตรกรอย่าได้ชุมนุมประท้วงด้วยการปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเด็ดขาด เพราะปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้เพียงแต่ให้โอกาสรัฐบาลได้มีเวลาทำงานเท่านั้น หรือ หากจะมีการชุมนุมก็ควรใช้สถานที่ที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น
นายบุญจง กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบาย 29-30 ธ.ค.นี้ว่า จากรายงานล่าสุดพบการเคลื่อนไหวมวลชนในหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และ ภาคอีสาน แต่ไม่ได้จับตาจังหวัดใดเป็นพิเศษ เพราะทางผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดดูแลการเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางไปร่วมชุมนุมที่หน้ารัฐสภาในวันดังกล่าวจำนวนมากพอสมควร แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงบานปลายเกิดขึ้นเหมือนวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน เพียงแต่ให้อยู่ในกติกาของกฎหมายบ้านเมือง ฉะนั้นการที่ประชาชนจะเดินทางมาชุมนุมที่หน้ารัฐสภานั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก ถือเป็นเรื่องปกติ และเชื่อว่าพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาไม่ว่าจะใส่เสื้อสีอะไรทุกคนเป็นคนไทย และอยากเห็นบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ซึ่งตนในฐานะที่ดูแลกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายนี้ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดให้เข้าไปดูแลสอดส่องเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้ประชาชนเดินทางมาชุมนุมด้วยความสะดวกสบาย มิได้ไปสกัดกั้น หรือปิดกั้นไม่ให้ประชาชนไปแสดงออกแต่อย่างใด และเชื่อว่าในวันดังกล่าวจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นอย่างแน่นอน
ต่อข้อถามหากมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้นในวันดังกล่าว ทางรัฐบาลได้เตรียมแผนรองรับไว้อย่างไรหรือไม่ นายบุญจง กล่าวว่า ในวันดังกล่าวฝ่ายรัฐบาลจะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง หากมีเหตุรุนแรงหรือวุ่นวายเกิดขึ้นจริง ก็อาจจะมีการย้ายที่ประชุมหรือเลื่อนการประชุมออกไปก็ได้ เพราะเราไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในวันดังกล่าวว่าจะออกมาอย่างไร แต่ตอนนี้กำหนดการทุกอย่างยังเหมือนเดิมทุกประการไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
