น่าน – ม็อบเกษตรกรข้าวโพดเมืองน่านขยายแนวรบกดดันรัฐช่วยด่วน เตรียมเดินหน้าปิดเส้นทางเชื่อมทุกทางเพิ่ม ด้านผู้ว่าฯน่านเปิดเจรจาแล้วไม่เป็นผล หลังนำแนวทางแก้ปัญหาจาก ส.ส.พปช.ภาคเหนือที่เสนอขอเงินรัฐ 4.2 พันล้าน รับจำนำกิโลละ 6 บาท แจ้งต่อแกนนำเกษตรกรแล้ว แต่เกษตรกรรับไม่ได้
สถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มสมาพันธ์เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จังหวัดน่าน ที่รวมตัวเรียกร้องมาตรการช่วยเหลือราคาข้าวโพดตกต่ำ ยืดเยื้อจากหน้าศาลากลางตั้งแต่ 20 ต.ค.51 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะลุกลามบานปลายมากยิ่งขึ้นในวันที่ 21 ต.ค.51 ที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนมาปิดถนนบริเวณด่านห้วยน้ำอุ่น อ.เวียงสา จ.น่าน ซึ่งเป็นจุดเส้นทางผ่านไปยังจังหวัดแพร่ ทำให้ผู้ที่ต้องใช้เส้นทางดังกล่าว ทั้งรถทัวร์และรถบรรทุกต่างๆ รวมทั้งผู้ที่จะเดินทางไปยังจังหวัดแพร่ และจังหวัดอื่นๆ ได้รับผลกระทบอย่างมาก ซึ่งประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปนอกจังหวัดน่านต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทาง 1091 ถนนน่าน-บ้านหลวง ทำให้เสียเวลาในการเดินทางมากยิ่งขึ้น
ล่าสุด วันนี้ (22 ต.ค.) กลุ่มเกษตรกรมีแผนที่จะแยกกำลังส่วนหนึ่งไปปิดถนนสาย 1091 ที่เป็นทางเชื่อมน่าน-พะเยา อีกเส้นทางหนึ่งด้วย ซึ่งจะทำให้เส้นทางสายหลักเข้า-ออกจังหวัดน่านถูกปิดหมด
การชุมนุมของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเมืองน่านครั้งนี้ได้ใช้เครื่องขยายเสียงในการเรียกร้องมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางด้านสมาพันธ์ฯ ได้ยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ คือ
1.ให้คณะรัฐมนตรี อนุมัติวงเงินงบกลางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
2.ให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติกำหนดราคารับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ด้วยการแทรกแซงตลาดและรับจำนำราคาข้าวโพดในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน 2552 ในราคากิโลกรัมละ 10 บาท
3.ให้คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลและตรวจสอบการรับจำนำข้าวโพดใน จ.น่าน โดยให้มีตัวแทนเกษตรกรจากสมาพันธ์ฯ จำนวน 15 คน เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย 4.ให้ ครม.พิจารณาออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร และสนับสนุนส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่เขตป่า เป็นต้นว่า อาชีพรักษาป่า
และ 5.ขอให้ยกเลิกคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ห้ามกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าประกันตัวผู้ต้องหาคดีป่าไม้ที่ดิน
ตลอดเวลาของการชุมนุม ตัวแทนแต่ละพื้นที่ผลัดกันไฮด์ปาร์กถึงความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร และยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้ซึ่งเป็นการเรียกร้องครั้งที่ 4 แล้วและไม่เคยได้รับการแก้ไข เป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจริง ไม่ได้มีเกมการเมืองหนุนอยู่เบื้องหลัง และยืนยันจะปักหลักเรียกร้องความช่วยเหลือต่อไปให้ถึงที่สุดจนกว่ารัฐบาลจะยอมนำเรื่องปัญหาข้าวโพดเข้าสู่คณะรัฐมนตรี
ด้าน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ซึ่งประสานกับทาง ส.ส.ทั้ง 3 เขตของจังหวัดน่าน ได้เข้าเจรจากับทางแกนนำผู้ชุมนุม โดยชี้แจงว่าขณะนี้ได้รับการประสานข้อมูลจากนายชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.พรรคพลังประชาชน เขต 2 จังหวัดน่าน โดย ส.ส.ทั้ง 3 เขต ของจังหวัดน่านได้ประชุมหารือร่วมกับ ส.ส.ทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ถึงกรณีปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรและได้ผลักดันให้เข้าสู่ ครม.แล้ว แต่ต้องใช้เวลาในการพิจารณา
เบื้องต้นเสนองบประมาณในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดจำนวน 4,200 ล้านบาท โดยรับจำนำข้าวโพดในราคากิโลกรัมละ 6 บาท ซึ่งหากว่าเรื่องนี้ไม่ถูกนำเข้าสู่การพิจารณาใน ครม.ทางกลุ่ม ส.ส.17 จังหวัดภาคเหนือ จะเป็นผู้นำกลุ่มเกษตรกรไปชุมนุมเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐบาลเอง อย่างไรก็ตาม ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมมั่นใจว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือแน่นอน แต่ต้องสลายการชุมนุมไปก่อน เนื่องจากมีประชาชนได้รับผลกระทบจากการปิดถนน และทำให้กระทบต่อภาพลักษณ์และการท่องเที่ยวของจังหวัดน่านด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางด้านแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมหลังรับทราบการชี้แจงแล้ว ไม่เห็นด้วยกับราคารับจำนำ กิโลกรัมละ 6 บาท เนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจังหวัดน่าน สามารถปลูกได้ปีละครั้ง และยังต้องแบกรับราคาปุ๋ยและค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น และยืนยันจะไม่สลายการชุมนุมพร้อมปักหลักเรียกร้อง
โดยทางจังหวัดน่าน ได้หารือกับทางตำรวจภูธรจังหวัดน่านแล้ว หากมีการปิดถนนทุกเส้นทางเข้าออกจริงก็ไม่สามารถบังคับได้ เพราะเป็นสิทธิของกลุ่มผู้ชุมนุม และจะต้องใช้มาตรการกฎระเบียบจราจรดำเนินคดีในฐานกีดขวางทางจราจร เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางสัญจรได้