ศูนย์ข่าวนครราชสีมา – ฮือฮา ! คู่บ่าวสาววัยดึกโคราชได้ฤกษ์วันเด็ก จัดพิธีวิวาห์ชื่นมื่น เผยเจ้าบ่าววัย 72 ปี บวชนาน 23 พรรษาเพิ่งสึกก่อนเบียด ส่วนเจ้าสาวเป็นแม่หม้ายลูก 3 วัย 69 ปี ระบุสินสอดกว่า 2 ล้านทั้งเรือนหอ-รถเก๋งป้ายแดงและเงินสดในบัญชีธนาคาร เตรียมฮันนีมูนชายหาดจอมทอง เขื่อนลำมูลบน อ.เสิงสางโคราช เจ้าสาวเผยประทับใจความเสมอต้นเสมอปลายของเจ้าบ่าว จึงตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ในบั้นปลายชีวิตร่วมกัน
วันนี้ ( 9 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่หมู่บ้านกฤติยา เลขที่ 177 หมู่10 บ.หนองไผ่พัฒนา ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีการจัดพิธีวิวาห์คู่รักวัยดึกขึ้น ระหว่างเจ้าบ่าว นายเวชยันต์ รุมพล หรือ “หนู” หรือ อาจารย์เวช อายุ 72 ปี อดีตพระครูสอนปริยัติธรรม กรมการศาสนา วัดปอแดง ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา กับ เจ้าสาว คือ นางเตือนใจ กองทรัพย์ หรือ “นิด” อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 10 บ้านหนองไผ่พัฒนา ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น แขกเหรื่อทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก โดยแขกส่วนใหญ่จะเป็นวัยใกล้เคียงกับคู่บ่าวสาว ซึ่งมีการจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสที่ศาลาเจริญศรี โต๊ะจีนรวม 45 โต๊ะโดยมี พ.ท.พิเชษฐ์ แข็งขัน อดีตข้าราชการทหาร ค่ายสุรนารีกองทัพภาคที่ 2 เป็นประธานในพิธีคล้องพวงมาลัยและอวยพรคู่บ่าวสาว
สำหรับเจ้าสาววันนี้ แต่งชุดสวยสีชมพู เสื้อลายฉลุดอกกุหลาบแขนสามส่วน กระโปรงยาวสีชมพูสดใส หน้าตาสดชื่นยิ้มแย้มแจ่มใส่ คอยต้อนรับแขกเหรื่อที่เดินทางมาร่วมงาน ขณะเจ้าบ่าวสวมวิกผมอยู่ในชุดสูทสากล ยืนเคียงข้างคอยต้อนรับแขกด้วยใบหน้าที่สดใส
นายเวชยันต์ รุมพล เจ้าบ่าว วัย 72 ปี เปิดใจว่า ตนเคยบวชเป็นพระมา 23 พรรษา โดยจำวัดอยู่ที่วัดปอแดง ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 11 พรรษา และ วัดซับก้านเหลือง ต.ครบุรีใต้ อ.ครบุรี 12 พรรษา เพิ่งลาสิกขาบทออกมาเมื่อวันที่ 2 ม.ค. ที่ผ่านมา เพราะตัดสินใจที่จะร่วมเรียงเคียงหมอนกับเจ้าสาว จึงสึกออกมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน โดยได้รู้จักกับเจ้าสาวคุณเตือนใจ ครั้งแรกเมื่อ 13 ปีก่อน เพราะพี่สาวของคุณเตือนใจได้ไปทำการรักษาอาการป่วยด้วยยาสมุนไพรกับตน และคุณเตือนใจก็มีอาการป่วย ไม่อยากผ่าตัดจึงตามมารักษา ซึ่งได้ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ได้พบหมอเทวดาก็ได้พบจริงๆ คือตน จึงได้ทำการรักษาด้วยยาสมุนไพรให้กับคุณเตือนใจจนหายไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล โดยขณะที่จำพรรษาอยู่ที่วัดปอแดง คุณเตือนใจก็ไปทำบุญตักบาตรเป็นประจำทุกปี ในงานประจำปีที่ทางวัดปอแดงจัดขึ้นจึงได้พบกันอยู่บ่อย ๆ
สำหรับสาเหตุที่เราสองคนตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ซึ่งเป็นวันเสาร์ตรงกับวันเด็กแห่งชาติ เพราะวันนี้ฤกษ์ดีเป็นวันมงคล และเราสองคนเกิดวันเสาร์ทั้งคู่ทุกอย่างลงตัวจึงตัดสินใจแต่งงานกันวันนี้
“การแต่งงานครั้งนี้อยากจะให้เป็นตัวอย่างที่แก่เยาวชนคนรุ่นใหม่และต้องการสืบทอดจารีตประเพณีอันดีงามของไทยไว้ โดยคนรักกันจะใช้ชีวิตร่วมกันต้องเข้าพิธีแต่งงานกันให้ถูกต้องตามหลักประเพณีไทย ไม่ใช่หนีตามกันไป อยากให้ลูกหลานได้นำสิ่งดี ๆ เหล่านี้ไปเป็นตัวอย่าง” นายเวชยันต์ กล่าว
นายเวชยันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนสินสอดทองหมั้นไม่มีอะไรมาก ได้ซื้อรถยนต์เก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ป้ายแดง ให้เจ้าสาว 1 คันพร้อมเงินสดตัวเลข 6 หลักในบัญชีธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งฝ่ายเจ้าสาวก็ยกบ้านพร้อมที่ดินตกแต่งทาสีชมพูทั้งหลังเป็นเรือนหอของเรา 2 คน รวมค่าสินสอดประมาณ 2 ล้านบาท และตกลงกันว่าจะไปฮันนีมูนที่หาดจอมทอง เขื่อนลำมูลบน อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม ถือว่าเป็นทะเลแห่งที่ราบสูงโคราช ส่วนทายาทคงไม่มีเพราะอายุมากแล้ว แต่เราจะดูแลกันและกันไปตลอดชีวิต จนถือไม้เท้ายอดทอง กระบองยอดเพชร
ด้าน นางเตือนใจ กองทรัพย์ เจ้าสาว วัย 69 ปี เปิดเผยด้วยใบหน้าเบิกบาน ว่า ตนมีอาชีพทำธุรกิจส่วนตัวและค้าขาย อดีตเคยเข้าประกวดได้รับตำแหน่งเป็น นางงามวัดบึง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เคยแต่งงานมีลูก 3 คน เป็นชาย 1 คนรับราชการเป็นทหารอากาศอยู่ดอนเมือง กรุงเทพฯ ส่วนคนที่ 2 เป็นผู้หญิง ทำธุรกิจส่วนตัว และ คนที่ 3 เป็นผู้หญิงเป็นอาจารย์สอนโรงเรียนบุญวัฒนานครราชสีมา ประทับใจเจ้าบ่าวมากตรงที่คอยดูแลเราอย่างดีที่สุด จนเกิดความไว้วางใจ เกิดความอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้กัน
“ทุกปีในวันปีใหม่เราจะติดต่อกันอยู่เป็นประจำและมอบของขวัญปีใหม่พร้อมคำอวยพรให้ทุกครั้ง โดยไม่มีการว่างเว้นแม้แต่ครั้งเดียว เขาทำแบบนี้เสมอต้นเสมอปลายตลอดเวลาที่คบหากัน 13 ปี จึงทำให้เราประทับใจมาก ส่วนตัวมีความคิดว่า คนเราเงินตราไม่สำคัญเท่าไหร่ น้ำใจเป็นสิ่งสำคัญกว่า จึงเอ่ยปากว่า เราสองคนมาดูแลกันเถอะ เพราะเราสองคนก็อายุมากแล้ว จึงตัดสินใจแต่งงานกันในวันนี้” นางเตือนใจ กล่าว
ขณะที่ นางชุลีภรณ์ จันณรงค์ อาจารย์โรงเรียนบุญวัฒนา ลูกสาวคนเล็กของนางเตือนใจ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพยายามกีดกันทั้งคู่มาโดยตลอด รวมถึงคนอื่น ๆ ที่เข้ามาสนิทสนมกับแม่ เพราะไม่อยากให้แม่แต่งงานใหม่อายุมากแล้ว แต่ที่สุดเราก็ได้รู้ว่า แม่คงเหงาและต้องการเพื่อนเพราะลูกมีครอบครัวไปหมดแล้ว อีกอย่างแม่เป็นผู้หญิงแกร่ง และเก่งดูแลลูก ๆ มาเพียงลำพังตั้งแต่ลูกยังเด็กอายุ 7-8 ขวบ หลังแม่แยกทางกับคุณพ่อ ฉะนั้นจึงคิดว่าแม่คงเลือกคนที่เหมาะสมและดีพอที่จะดูแลแม่ได้ วันนี้ก็ยินดีด้วย และพวกเราลูก ๆ ก็ยังเฝ้าดูแลแม่ไปตลอดแม้จะมีคู่แล้วก็ตาม เราก็ไม่ทอดทิ้ง ลูกสาวกล่าว