พิษณุโลก – กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่พรหมพิรามตามคดีชาวนาถูกโกง 11 ปี แต่ไม่คืบ หลังผ่านกระบวนการจนถึงศาลฎีกา รองปลัดฯบอกถ้าแก้ไขไม่ได้ ถือว่าล้มเหลว
วันนี้ (8 ม.ค.2553) พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรมพร้อมคณะพบปะกับชาวนาม.7 ม.8 ต.ท่าช้าง จำนวน 100 คน 78 ครัวเรือน ที่ขายข้าวเมื่อปี 41 และยังไม่ได้รับเงินขายข้าว 2 ล้านบาท ที่เรื่องผ่านกระบวนการศาลแล้ว แต่ไม่คืบ
การลงพื้นที่กระทรวงยุติธรรมครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากนายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ส.ส.พิษณุโลก ได้นำเข้าอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร และนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฏรได้ทำหนังสือถึง รมต.ยุติธรรม ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งพบว่า ชาวนาขายข้าวแต่ไม่ได้รับเงินร่วม 2 ล้านบาท ตั้งแต่ 11 ปีก่อน
เหตุเกิดเมื่อปี 2541 ชาวนา ต.ท่าช้าง ต.มะตูม อ.พรหมพิราม และ ต.ไผ่ขอดอน อ.เมืองพิษณุโลก จำนวน 78 ราย นำข้าวเปลือกไปขายที่ท่าข้าวพรเทวดา ของนายน้อย ศรีทรง ที่ อ.พรหมพิราม อาชีพรับซื้อข้าวเปลือก ปัญหาเกิดเมื่อนำตั๋วไปขึ้นเงิน แต่ได้รับการปฏิเสธ จึงไปร้องเรียนต่อกำนันและนายอำเภอ กระทั่งมีการไกล่เกลี่ย และนายน้อย ขอชำระด้วยเช็ค 2 ล้านบาท ต่อมาเมื่อนำเช็คไปขึ้นเงิน กลับธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอีก
ชาวนาจึงแจ้งความดำเนินคดีต่อศาลแขวงพิษณุโลก นายน้อย แถลงต่อศาลว่า เป็นการออกเช็คเพื่อประกันเท่านั้น ขณะที่ทนายแก้ต่างว่า ออกเช็คเพราะถูกชาวนาบีบบังคับ ศาลแขวงพิษณุโลกจึงยกฟ้อง ฝ่ายโจทก์อุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์ ยืนตามศาลชั้นต้น คดีถึงที่สุด เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาคดีอาญาถึงที่สุดว่า จำเลยไม่ผิด ในส่วนแพ่งย่อมระงับไปด้วย แต่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฏีกา
พ.ต.ท.ทวี กล่าวว่า ชาวนาถูกโกงไป 11 ปีแล้วไม่ได้อะไร ถ้าให้ความยุติธรรมกับคนไม่ได้ กระทรวงยุติธรรมก็ไม่น่าอยู่ได้ ยอมรับว่า ชาวนาขายข้าวจากการทำนาไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงิน เงินประมาณ 2 ล้านบาท ถ้าแก้ไขไม่ได้ ตนถือว่าเป็นความล้มเหลวของระบบยุติธรรม วันนี้จึงมารับฟังปัญหา เพราะเรื่องยังอยู่ที่ศาลฏีกา
