เชียงราย – นรข.เขตเชียงราย ตรวจยึดยาสูบเถื่อนกว่า 50 ตันมูลค่ากว่า 2.5 ล้านบาท ขณะถูกลำเลียงขึ้นฝั่งน้ำโขง แต่ได้แค่ของกลาง ขณะที่กลุ่มแรงงานรับจ้างขนไหวตัวทันโดดลงเรือหนีออกกลางแม่น้ำก่อน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (5 ม.ค.) ขณะที่ทหารเรือจากสถานีเรือเชียงของ สังกัดหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย นำโดยนาวาโทแมนรัตน์ บุญสวัสดิ์ รักษาการ ผบ.หมู่เรือที่ 7 นรข.เขตเชียงราย และหัวหน้าสถานีเรือเชียงของ ร่วมกับสถานีตำรวจน้ำ 2 กก.11 กก.ตำรวจน้ำ ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่จุดผ่อนปรนบ้านห้วยลึก ต.ม่วงยาย อ.เวียงแก่น ชายแดนไทย-สปป.ลาว ซึ่งติดกับแม่น้ำโขง ได้พบคนกลุ่มใหญ่ช่วยกันลำเลียงกระสอบบรรจุสินค้าขึ้นจากเรือกาบ ซึ่งเป็นเรือยนต์ในแม่น้ำโขงขนาดยาว 15 เมตร กว้าง 1.5 เมตร จำนวน 2 ลำ ขึ้นมาวางบนริมฝั่งใกล้กับจุดผ่อนปรน
เจ้าหน้าที่ทหารเรือและตำรวจน้ำ จึงรอให้มีการขนส่งจนหมด จากนั้นได้เข้าไปตรวจสอบว่าสินค้าทั้งหมด มีการขออนุญาตนำเข้าและขนย้ายผ่านทางด่านศุลกากรแล้วหรือไม่ แต่ปรากฏว่า ชายฉกรรจ์หลายคนซึ่งขนกระสอบสินค้าดังกล่าวกลับตกใจ เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าไปตรวจสอบ จนพากันหลบหนีวิ่งขึ้นเรือกาบ ก่อนติดเครื่องยนต์หลบหนีลงไปกลางแม่น้ำโขงอย่างรวดเร็วเหลือเอาไว้เพียงกระสอบสินค้าทั้งหมด
เจ้าหน้าที่จึงได้เปิดตรวจสอบปรากฏว่า ทั้งหมดเป็นใบยาสูบแห้งที่อบเรียบร้อยแล้ว จำนวน 430 กระสอบ รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 50 ตัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสินค้าใบยาสูบแห้งปรากฏว่าไม่มีใบกำกับสินค้ารวมทั้งไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ จึงได้ตรวจยึดเอาไว้เนื่องจากเป็นของกลางที่เกิดจากการกระทำผิดกฎหมายศุลกากร
เรืออากาศโทแมนรัตน์ กล่าวว่า เดิมเจ้าหน้าที่สืบทราบมาก่อนแล้วว่าเมื่อราว 2-3 วันก่อน จะมีขบวนการค้าสินค้าผิดกฎหมายลักลอบนำเข้าใบยาสูบอบแห้งเพื่อนำไปจำหน่ายยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงได้ทำการตรวจสอบตลาดแนวชายแดนในเขตรับผิดชอบ แต่ไม่พบการกระทำความผิด กระทั่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งกำลังไปดักซุ่มอยู่บริเวณจุดผ่อนปรนในจุดที่กลุ่มขบวนการไม่สามารถสังเกตเห็น เมื่อขนสินค้าขึ้นมาไว้บนฝั่งเสร็จจึงได้เข้าตรวจยึด
สำหรับของกลางทั้งหมดที่ตรวจยึดได้นั้นได้มีการสอบถามไปยังศุลกากรแล้วทราบว่า มีการซื้อขายกันกิโลกรัมละ 50 บาท ดังนั้นของกลางทั้งหมดจึงมีมูลค่าประมาณ 2.5 ล้านบาท
เรืออากาศโทแมนรัตน์ กล่าวว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้เคยตรวจยึดของกลางในลักษณะเดียวกันได้ที่จุดผ่อนปรนบ้านแจ๋มป๋อง ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น จำนวนประมาณ 10 ตันมาแล้ว การตรวจยึดได้กว่า 50 ตันครั้งนี้จึงถือว่าสามารถตรวจยึดได้มากที่สุดในรอบปี ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนเพื่อติดตามหาตัวกลุ่มขบวนการและผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป