กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจนบุรีเรียกประชุมด่วนเตือนภัย 2 เขื่อนใหญ่ในเมืองกาญจน์ ปล่อยน้ำทำไฟฟ้าชดเชยระบบไฟฟ้า หลังเกิดเหตุฉุกเฉินของแหล่งผลิตก๊าซ เยตากุล ประเทศพม่า ซึ่งทำให้แหล่งผลิตก๊าซดังกล่าวไม่สามารถส่งก๊าซมาให้ประเทศไทยได้
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (21 ธ.ค.) นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เรียกประชุมด่วนที่ห้องประชุม มณีเมืองกาญจน์ ศาลากลางจังหวัดชั้น 2 โดยมีนายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายไชโย ฤทธิรงค์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี นายปรีชา ศรีน้อย ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ นายจรัญ อนันทคุณ หัวหน้ากองเดินเครื่องเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ นายพิพัฒน์ ศังขะฤกษ์ ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
นายเริงศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เกิดเหตุฉุกเฉินของแหล่งผลิตก๊าซ เยตากุล ประเทศพม่า ซึ่งทำให้แหล่งผลิตก๊าซดังกล่าวไม่สามารถส่งก๊าซมาให้ประเทศไทยได้ ซึ่งทางศูนย์ควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า (กฟผ.) ได้สั่งการมายังเขื่อนวชิราลงกร อ.ทองผาภูมิ และเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ ให้ปล่อยปล่อยกระแสน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าที่ขาดหายไป ซึ่งการที่ทั้ง 2 เขื่อนจำเป็นต้องปล่อยกระแสน้ำครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบใดๆ กับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณ 2 ฝั่งแม่น้ำ
“หลังจากทราบว่าจะมีการปล่อยกระแสน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ในครั้งนี้ ได้แจ้งไปยัง องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นให้ทราบแล้ว และให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนที่เคยได้รับผลกระทบ จากการปล่อยน้ำ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาให้ทราบล่วงหน้าแล้ว ซึ่งการปล่อยกระแสน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในครั้งนี้ ทั้ง 2 เขื่อนจะเริ่มปล่อยน้ำตั้งแต่ เวลา 00.00 น.ของวันที่ 22 ธ.ค.2552 จนถึงวันที่ 10 ม.ค.2552 รวมเวลา 21 วัน และจะปล่อยกระแสไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง” ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีกล่าว
นายจรัญ อนันทคุณ หัวหน้ากองเดินเครื่องเขื่อนวชิราลงกรณ์ เปิดเผยว่า “ทางเขื่อนวชิราลงกรณ มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 3 เครื่อง ซึ่งแต่ละเครื่องสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 100 เมกะวัต รวมทั้งสิ้น 300 เมกะวัต ซึ่งจะทำการปล่อยน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าทั้ง 3 เครื่อง โดยจะเริ่มปล่อยน้ำตั้งแต่ เวลา 24.00 น.ของคืนนี้ โดยจะปล่อยน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงวันที่ 10 ม.ค.2553”
หัวหน้ากองเดินเครื่องเขื่อน วชิราลงกรณ เปิดเผยต่อว่า “ปัจจุบันเขื่อนวชิราลงกรณ ปล่อยกระแสน้ำวันละ 12 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งครั้งนี้ทางเขื่อนจะปล่อยน้ำเพิ่มเป็น 35 ล้านลบ.ม.ต่อวัน ส่วนจุดที่วัดระดับน้ำที่มีความลึกในปัจจุบันตลอดเส้นทางการเดินของน้ำของลำน้ำแควน้อยคือที่ บริเวณบ้านลิ่นถิ่นอำเภอทองผาภูมิ จะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 2.16 เมตร และที่บริเวณบ้านแก่งหลวง ต.เกาะสำโรง อ.เมืองจะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นประมาณ 1.70 เมตร ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ตามบริเวณริมแม่น้ำแต่อย่างใด”
ส่วน นายปรีชา ศรีน้อย ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ กล่าวว่า “ทางเขื่อนมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 5 เครื่อง ซึ่งจะทำการปล่อยกระแสน้ำจำนวน 2 เครื่อง ปัจจุบันเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ทำการปล่อยกระแสน้ำวันละ 10 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งในครั้งนี้จะทำการปล่อยกระแสน้ำเพิ่มเป็น 20 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันที่ 22 ธ.ค.บริเวณท่าน้ำตำบลหนองบัว ปัจจุบันมีปริมาณน้ำสูง 23.60 เมตร จะมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 26.325 เมตร เพิ่มขึ้น 2.72 เมตร ซึ่งเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมานั้น ทางเขื่อนได้ปล่อยน้ำฉุกเฉิน เนื่องจากเกิดภาวะฉุกเฉินเช่นกัน
แต่ครั้งนี้เกิดปัญหาน้อยกว่ามาก โดยบริเวณดังกล่าวน้ำเคยท่วมสูง 28.64 เมตร แต่ครั้งนี้น้ำจะสูง 26.325 เมตร ซึ่งจะสูงน้อยกว่าครั้งที่แล้วประมาณ 3.32 เมตร ซึ่งจะไม่ทำให้ประชาชน หรือร้านค้า และรีสอร์ทต่างๆ ที่เคยได้รับผลกระทบในครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด”
ด้าน นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รอง ผวจ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นประธ่านแก้ไขปัญหาภัยพิบัติจากอุทกภัยน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ไหลบ่าเข้าท่วมที่ทำกินชาวบ้านเมื่อครั้งก่อนได้กล่าวว่า “หลังจากได้รับทราบข้อมูลการปล่อยปริมาณน้ำในครั้งนี้ของทั้ง 2 เขื่อน ประกอบกับช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูแล้ง ปริมาณน้ำในแม่น้ำแควใหญ่ และแม่น้ำแควน้อยมีปริมาณน้ำไม่มากนัก และถ้าหากว่าทั้ง 2 เขื่อนปล่อยน้ำในครั้งนี้ น่าจะเป็นผลดีต่อเกษตรกร ชาวไร่ชาวนา เนื่องจากขณะที่กระแสน้ำไหลลงมา ก็จะมีเขื่อน แม่กลอง อ.ท่าม่วงเป็นที่รองรับ ซึ่งจะสามารถระบายน้ำไปตามครองชลประทานได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตามก็อยากฝากเตือนประชาชนที่มี เครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งไว้ตามริมฝั่งแม่น้ำให้เก็บขึ้นมาไว้บนที่สูง”