กาญจนบุรี - รอง ผวจ.กาญจน์ พร้อมป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี นำเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดบุกค้นเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี พบผู้ต้องขังเสพยาเสพติดมีฉี่ม่วง 5 ราย
เมื่อเวลา 06.20 น. วันนี้ (25 พ.ย.) นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เอาชนะยาเสพติดจังหวัดกาญจนบุรี (ศตส.จ.กจ.) และนายสิทธิชัย เผ่าพันธุ์ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี และเลขานุการฝ่ายอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เอาชนะยาเสพติดจังหวัดกาญจนบุรี (ศตส.จ.กจ.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี และกำลังทหารจากหน่วย ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9, ตร.สภ.เมืองกาญจนบุรี, ตร.กก.ตชด.ที่ 13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) และ เจ้าหน้าที่ ศตส.จ.กาญจนบุรี กว่า 100 นาย พร้อมเครื่องสแกนตรวจหายาเสพติด GT-200 จำนวน 9 เครื่องได้สนธิกำลังกับนายประทีป กันภัยเพื่อน ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมเข้าตรวจค้นหาของผิดกฎหมายในเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นนักโทษจำนวน 1,500 กว่าคน โดยให้ทุกคนผ่านเครื่องสแกน พบมีนักโทษเครื่องตรวจหาสารเสพติด GT-200 มีปฏิกิริยาชี้ว่าต้องสงสัยมีสารเสพติด จำนวน 52 คน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจปัสสาวะพบว่ามีฉี่สี่ม่วงจำนวน 5 คน โดยเจ้าหน้าที่จึงทำค้นตามโรงเรือนโรงนอนต่างๆไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย และไม่พบสารเสพติดในเรือนจำแต่อย่างใด
นายชัยวัฒน์เปิดเผยเกี่ยวกับการเข้าตรวจค้นเรือนจำในครั้งนี้ว่า การตรวจค้นเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรีในครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติการร่วมที่ทาง ศตส.จ.กาญจนบุรีร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผนป้องกันปราบปรามยาเสพติดในเรืองจำและในวันนี้เข้าค้นพบแค่ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำจำนวนทั้งสิ้น 1,500 คนได้ถูกคัดเลือกให้เข้าตรวจสอบโดยใช้เครื่องสแกน GT-200ตรวจเบื้องต้น โดยเครื่องสแกนสามารถตรวจพบมีผู้ต้องสงสัยจำนวน 52 คน จึงนำตัวมาตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและหากพบมีปัสสาวะสีม่วง 5 คน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ก็จะส่งตัวอย่างปัสสาวะของนักโทษทั้ง 5 รายนี้ไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ จ.สมุทรสงคราม เพื่อตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง หากพบว่ามีสารเสพติดอยู่ก็จะดำเนินคดีต่อผู้ต้องขังทั้งสองนายในข้อหาเสพสารเสพติดประเภท1 (ยาบ้า) เพื่อขอเพิ่มโทษตามกฎหมายต่อไป
ส่วนช่องทางที่น่าเชื่อว่ายาเสพติดเข้ามาในเรือนจำน่าจะเข้ามาทางญาติที่มาเยี่ยมนักโทษลักลอบซุกซ่อนมากับของเยี่ยม ซึ่งทางเรือนจำจะเข้มงวดกวดขันตรวจสอบต่อไปและนักโทษที่พบฉี่สีม่วงเป็นนักโทษใหม่ที่เพิ่งเข้ามาคุมขังในเรือนจำแห่งนี้
เมื่อเวลา 06.20 น. วันนี้ (25 พ.ย.) นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เอาชนะยาเสพติดจังหวัดกาญจนบุรี (ศตส.จ.กจ.) และนายสิทธิชัย เผ่าพันธุ์ ป้องกันจังหวัดกาญจนบุรี และเลขานุการฝ่ายอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เอาชนะยาเสพติดจังหวัดกาญจนบุรี (ศตส.จ.กจ.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี และกำลังทหารจากหน่วย ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9, ตร.สภ.เมืองกาญจนบุรี, ตร.กก.ตชด.ที่ 13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) และ เจ้าหน้าที่ ศตส.จ.กาญจนบุรี กว่า 100 นาย พร้อมเครื่องสแกนตรวจหายาเสพติด GT-200 จำนวน 9 เครื่องได้สนธิกำลังกับนายประทีป กันภัยเพื่อน ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมเข้าตรวจค้นหาของผิดกฎหมายในเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นนักโทษจำนวน 1,500 กว่าคน โดยให้ทุกคนผ่านเครื่องสแกน พบมีนักโทษเครื่องตรวจหาสารเสพติด GT-200 มีปฏิกิริยาชี้ว่าต้องสงสัยมีสารเสพติด จำนวน 52 คน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจปัสสาวะพบว่ามีฉี่สี่ม่วงจำนวน 5 คน โดยเจ้าหน้าที่จึงทำค้นตามโรงเรือนโรงนอนต่างๆไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย และไม่พบสารเสพติดในเรือนจำแต่อย่างใด
นายชัยวัฒน์เปิดเผยเกี่ยวกับการเข้าตรวจค้นเรือนจำในครั้งนี้ว่า การตรวจค้นเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรีในครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติการร่วมที่ทาง ศตส.จ.กาญจนบุรีร่วมกับส่วนที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามแผนป้องกันปราบปรามยาเสพติดในเรืองจำและในวันนี้เข้าค้นพบแค่ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำจำนวนทั้งสิ้น 1,500 คนได้ถูกคัดเลือกให้เข้าตรวจสอบโดยใช้เครื่องสแกน GT-200ตรวจเบื้องต้น โดยเครื่องสแกนสามารถตรวจพบมีผู้ต้องสงสัยจำนวน 52 คน จึงนำตัวมาตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดและหากพบมีปัสสาวะสีม่วง 5 คน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ก็จะส่งตัวอย่างปัสสาวะของนักโทษทั้ง 5 รายนี้ไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ จ.สมุทรสงคราม เพื่อตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง หากพบว่ามีสารเสพติดอยู่ก็จะดำเนินคดีต่อผู้ต้องขังทั้งสองนายในข้อหาเสพสารเสพติดประเภท1 (ยาบ้า) เพื่อขอเพิ่มโทษตามกฎหมายต่อไป
ส่วนช่องทางที่น่าเชื่อว่ายาเสพติดเข้ามาในเรือนจำน่าจะเข้ามาทางญาติที่มาเยี่ยมนักโทษลักลอบซุกซ่อนมากับของเยี่ยม ซึ่งทางเรือนจำจะเข้มงวดกวดขันตรวจสอบต่อไปและนักโทษที่พบฉี่สีม่วงเป็นนักโทษใหม่ที่เพิ่งเข้ามาคุมขังในเรือนจำแห่งนี้
