ลำปาง – มูลนิธิขาเทียมฯ เชื่ออีกไม่นานโม่ตาลาจะใช้ขาเทียมได้อย่างปกติ หลังพบว่าพังโม่ตาลายอมรับและใช้ขาเทียมมากขึ้นตามลำดับ ทั้งเวลายืนและนอน
รายงานข่าวจากจังหวัดลำปาง แจ้งว่า รศ.นพ.เทอดชัย ชีวะเกตุ เลขาธิการมูลนิธิขาเทียมแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยด้วยนายบุญอยู่ ทิพยะ ผู้อำนวยการฝ่ายค้นคว้าวิจัยและประดิษฐ์และผลิต รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิขาเทียมแห่งประเทศไทย ในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เข้าทำการแก้ไขขาเทียมให้กับพังโม่ตาลา ซึ่งเป็นช้างที่อยู่ในความดูแลโรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง หลังจากได้เข้าแก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อสิงหาคม 52 ที่ผ่านมา
ล่าสุดพบว่าขาเทียมที่ใส่ให้หลวม เนื่องจากพังโม่ตาลา มักจะดึงออก ทำให้ต้องแก้ไขโดยเพิ่มตัวล็อคด้านข้างให้ขาเทียมกระชับมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ช้างเดินได้สะดวก ส่วนการใช้งานพบว่าโม่ตาลาสามารถใช้ขาเทียมได้นานมากขึ้นนั้นหมายความว่า ช้างเริ่มยอมรับการใช้ขาเทียมมากขึ้นตามลำดับแล้ว ขณะเดียวกันต้องเพิ่มระดับขาเทียมของโม่ชะขึ้น เนื่องจากพังโม่ชะ สูงขึ้นประมาณ 2 เซนติเมตร อย่างอื่นก็เรียบร้อยดีทุกอย่าง
น.สพ.ปรีชา พวงคำ ผอ.โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร เปิดเผยว่า จากที่ได้ทดลองใส่ขาเทียมที่จัดทำขึ้น และมีการแก้ไขเป็นระยะ จะเห็นการพัฒนาการใช้ขาเทียมของโม่ตาลาว่า ณ ปัจจุบัน พังโม่ตาลา จะใช้ขาเทียมนานมากขึ้น คือ จากเดิมจะให้ใส่เฉพาะเวลายืนประมาณ 2-3 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันโม่ตาลาสามารถใส่ขาเทียมได้ทั้งเวลานอนและยืน รวมประมาณ 10 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีและเป็นที่น่าพอใจ
myh'ouh เนื่องจากช้างยอมรับขาเทียมยอมเดิน ยอมลงน้ำหนักมากขึ้น และใช้เวลาในการยืนนานกว่าเดิมนั้นก็หมายความว่าช้างยืนด้วยขาเทียมมากขึ้น ทำให้ช้างไม่เมื่อยทำให้ยืนได้นาน อย่างไรก็ตามช้างก็คงยังจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกระยะกว่าจะใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งก็จะคอยประสานงานกับทางมูลนิธิขาเทียมฯโดยตลอด เพื่อแก้ไขให้ใช้งานได้ 100%
ด้าน รศ.นพ.เทอดชัย ชีวะเกตุ เลขาธิการมูลนิธิขาเทียมแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า เท่าที่ดูการใส่ขาเทียมของช้าง ลักษณะของขา เบ้า และเท้าอยู่ในแนวที่ถูกต้อง แต่การบิดหมุนของบริเวณข้อเท้าส่วนที่เป็นแท่นยาง เห็นว่าแรงกดเบี้ยวไป จึงจะต้องปรับให้ตรงกับการรับน้ำหนักของช้าง แต่เวลาก้าวเท้าช้างยังไม่กล้าลงน้ำหนักมากนัก จึงต้องแก้ไขส่วนนี้และทดลองให้ช้างใส่ขาเทียมใหม่และสังเกตดูการลงน้ำหนักของช้าง คงต้องรอดูสักระยะหนึ่งคงจะเข้าที่เข้าทาง หากกลับมาติดตามผลอีกหนึ่งเดือนข้างหน้าเชื่อว่าจะเห็นช้างสามารถเดินด้วยขาเทียมได้ดีขึ้น
