xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านกาฬสินธุ์เล็งทำพิธีศักดิ์สิทธิ์เรียกพระพิมพ์พันปีคืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ใบเสมาหิน เมืองฟ้าแดดสงยาง
กาฬสินธุ์-ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งดูแลเข้มเข้มวัตถุโบราณเมืองฟ้าแดดสงยาง จุดค้นพบพระพิมพ์ 1.3 พันปีที่ถูกขโมยจากพิพิธภัณฑ์ขอนแก่น ชาวบ้านบ่นเสียใจ รู้งี้เก็บไว้ที่วัดในหมู่บ้านดีกว่า วอนนำโบราณวัตถุกลับมาไว้แหล่งค้นพบ พร้อมเตรียมทำพิธีศักดิ์สิทธิ์ทวงพระทั้งหมดกลับคืน



วันนี้(12ธ.ค.)ที่วัดโพธิ์ชัยเสมาราม ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่เมืองโบราณฟ้าแดดสงยาง เพื่อตรวจสอบวัตถุโบราณที่เหลือในพิพิธภัณฑ์เมืองฟ้าแดดสงยาง ที่ตั้งอยู่ภายในวัด หลังจากที่มีการโจรกรรมวัตถุโบราณอายุนับพันปี 91 รายการไปจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ซึ่งหนึ่งในวัตถุโบราณที่ถูกโจรกรรมไปนั้นมีพระสำริดจากเมืองฟ้าแดดสงยางหายไปด้วย โดยมีพระอธิการสานิตย์ วราโภ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยเสมาราม และชาวบ้านได้ร่วมให้ข้อมูล

นายวิโรจน์ กล่าวว่า มรดกของคนกาฬสินธุ์ที่ถูกโจรกรรมไปคือพระสำริดที่ถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ.2522 ที่บริเวณคูเมืองฟ้าแดดสงยาง ที่ปัจจุบันคือ ต.หนองแปน อ.กมลาไสย โดยพระสำริดที่ถูกโจรกรรมไปนั้นมีความงดงามมาก เป็นพระที่บ่งบอกได้ว่าในพื้นที่แห่งนี้พระพุทธศาสนา นิกายมหายาน มีความเจริญมากเพียงใด ที่พบจากพระพุทธรูปสำริด พระพิมพ์ดินเผา ใบเสมา และพระธาตุยาคู ทั้งหมดมีอายุกว่า 1,300 ปี

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องดำเนินการคือการเฝ้าระวังการขโมยวัตถุโบราณออกจากพื้นที่ไป เพราะตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงจำหลักใบเสมา ที่จำหลักเล่าเรื่องพุทธชาดก โดยเป็นฝีมือของกลุ่มช่างพื้นถิ่นที่มีความสวยงามมาก เพราะในอดีตใบเสมาที่มีความงดงาม แต่ถึงแม้ขนาดใหญ่ยังถูกขโมยออกจากพื้นที่ไปเช่นกัน

นายวิโรจน์ได้ขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้ความสำคัญและช่วยกันดูแลรักษาสมบัติและมรดกพวกนี้ไว้เพราะคุณค่าทางเงินทองวัดไม่ได้กับคุณค่าทางจิตใจ นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังประธานชมรมพระเครื่อง จ.กาฬสินธุ์ ให้ช่วยตรวจดูการตลาดเช่าพระในพื้นที่ หากพบว่ามีการเช่าพระหรือการแลกเปลี่ยนพระที่คาดว่าน่าจะเป็นสิ่งของที่หายไปต้องช่วยแจ้งมายังจังหวัดเพื่อเข้าทำการตรวจสอบ ส่วนในพื้นที่ได้กำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและตำรวจได้กวดขันมากยิ่งขึ้น

นายลี คชคีรี อายุ 62 ปี ชาวบ้าน ต.หนองแปน กล่าวว่า พระที่ถูกค้นพบและนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่นนั้น ตนเองเป็นคนหนึ่งที่ได้เข้าไปรับจ้างในการขุดค้นร่วมกับกรมศิลปากร เมื่อขุดค้นพบแล้วก็ไม่กล้าเก็บไว้เป็นของตนเอง เพราะเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่กลับรู้สึกเสียใจที่มันได้หายไปจากที่เก็บรักษา

“เราเองก็มองว่าตรงจุดนั้นจะเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีกว่าที่เราชาวบ้านจะทำได้ ถ้ารู้ว่ามันจะหายไปแบบนี้คงจะขอเก็บรักษาไว้ที่วัดดีกว่า แต่ก็อยากให้คนที่เอาไปมาเก็บรักษาไว้ที่เดิมไม่อยากให้มันหายไปจนดูแล้วเสียใจมาก ๆ”นายลีกล่าว

ด้านพระอธิการสานิตย์ วราโภ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัยเสมาราม กล่าวว่า ตอนนี้สิ่งที่เหลืออยู่ในพื้นที่ก็มีใบเสมาที่มีความสวยงาม และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และทางพระพุทธศาสนา ส่วนมรดกที่สูญหายไปตอนนี้นอกจากรู้สึกเสียดายอย่างมากแล้ว สิ่งหนึ่งที่อยากวิงวอนไปถึงผู้ก่อเหตุคืออยากให้เอากลับมาไว้ที่เดิม อยากให้คิดว่ามีเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่หาไม่ได้แล้ว ถ้าไปตกอยู่ในมือใครคนใดคนหนึ่งแล้วเอาเป็นทรัพย์สินของตนเองมันไม่ถูกต้อง เพราะทุกอย่างมันเป็นสมบัติของทุกคนในชาติ

วันเดียวกัน ผู้ช่วยศาตราจารย์ ชัยชนะ แสงสว่าง อาจารย์จากภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มิหาวิทยาลัย ได้นำคณะลงพื้นที่เมืองฟ้าแดดสงยาง ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นปรึกษาหารือกับประชาชนครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการของจ.กาฬสินธุ์ที่ต้องการปรับปรุงพัฒนาและอนุรักษ์เพื่อเป็นจุดท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของ จ.กาฬสินธุ์ โดยมีการจัดขึ้นบริเวณลานอเนกประสงค์ เขตอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ศิลปกรรม จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมีประชาชนกว่า 300 คนร่วมรับฟังและนำเสนอความคิดเห็น

ในการรับฟังความคิดเห็นและหารือปรึกษา ประชาชนที่เข้าร่วมได้แสดงทัศนเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมที่สูญหายไปจากพิพิธภัณฑ์ฯ ขอนแก่น ซึ่งประชาชนมีความกังวลเนื่องจากเป็นสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ อยากให้นำกลับเอาคืนมาให้ได้และนอกจากนั้นยังมีความต้องการที่จะนำมาเก็บรักษาไว้ที่จุดค้นพบและจุดกำเนิดคือที่พระธาตุยาคู หรือเมืองฟ้าแดดสงยางในอดีต ซึ่งสถานที่ในปัจจุบันคือ ต.หนองแปน อ.กมลาไสย

นอกจากนี้ทางแกนนำชาวบ้านยังเตรียมทำพิธีศักดิ์สิทธิ์เพื่อทวงพระทั้งหมดกลับคืนมาตามความเชื่อ และความเคารพที่มีต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผีบรรพบุรุษเมืองฟ้าแดดสงยาง โดยจะทำพิธีที่บริเวณพระธาตุยาคู ต.หนองแปน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ชัยชนะ แสงสว่าง กล่าวว่า พระที่สูญหายไปนับเป็นพระที่มีความงดงามมาก มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์สูงสุด โดยเฉพาะพระพิมพ์ดินเผา และพระสำริดฟ้าแดดสงยาง เพราะมีความสมบูรณ์ถือเป็นแหล่งกำเนิดของพระในประเทศไทยและแถบภาคอีสาน เนื่องจากการรับต่ออารยธรรมด้านความเชื่อในการนับถือพระเถร พระผู้ใหญ่

ในช่วงของการลงพื้นที่หลายสิบปีได้พบเห็นพระพิมพ์เหล่านั้นจำนวนมาก ซึ่งมีความงดงามมาก ไม่ว่าจะเป็นพระปางมารวิชัย ปางสมาธิ โดยเฉพาะพิมพ์พระเมืองฟ้าแดด นับเป็นวัตถุโบราณชิ้นเอกที่หาไม่ได้แล้วในโลกนี้ เพราะเป็นฝีมือที่งดงามมีความผสมผสานระหว่างฝีมือของช่างพื้นเมืองท้องถิ่นกับอิทธิพลที่ได้รับสืบเนื่องมาจากศิลปะสมัยทวาราวดี ที่มีอายุเก่าแก่นานกว่า 1,300 ปี

ส่วนการโจรกรรมวัตถุโบรารณเหล่านี้ ตั้งประเด็นไว้ว่า กลุ่มที่เอาไปกล่มแรกน่าจะเป็นมือปืนรับจ้าง หรือแก๊งลักขโมย และกลุ่มที่สองคือกลุ่มที่เป็นเอเยนต์ค้าวัตถุโบราณโดยตรง

ส่วนเหตุผลที่เจาะจงให้ขโมยพระจากพระธาตุนาดูนและเมืองฟ้าแดดนั้น เนื่องจากพระจากทั้งสองแหล่งมีอายุไล่เลี่ยกันและถือเป็นต้นกำเนิดของพระพพุทธรูป พระพิมพ์ของไทย เพราะเป็นพระที่ได้รับอิทธิพลจากการก่อสร้างมาจากพระพุทธศาสนาในลัทธินิกายมหายาน
กำลังโหลดความคิดเห็น