วอนชาวขอนแก่นดูแลสมบัติชาวอีสาน แนะทบทวนมาตรการป้องกันโจรกรรม

ศูนย์ข่าวขอนแก่น-รองพ่อเมืองขอนแก่น หารือหารือผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯ ขอนแก่น ทบทวนมาตรการป้องกันโจรกรรมสมบัติล้ำค่าชาวอีสาน หลังถูกโจรกรรมไปกว่า 91 รายการ วอนชาวขอนแก่นช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลสมบัติชาติ แนะจัดโซนควบคุมอย่างเข้มงวด



วันนี้ (11ธ.ค.52) เมื่อเวลา 11.00 น. นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุคนร้ายโจรกรรมพระกรุนาดูน อายุกว่าพันปี กว่า 91 ชิ้น เมื่อกลางดึกวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีนางสาวอัจฉรา แข็งสาริกิจ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น ให้ข้อมูล และร่วมกันวางมาตรการป้องกันการโจรกรรมวัตถุโบราณ

นายพยัต ชาญประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ทางจังหวัดขอนแก่นรู้สึกเสียใจ และเสียดายโบราณวัตถุล้ำค่าของชาวอีสาน ทั้ง 91 ชิ้นที่ถูกคนร้ายโจรกรรมไป ของบางอย่างเป็นโบราณวัตถุเพียงชิ้นเดียวที่ตกทอดมาให้คนรุ่นหลังได้ร่วมกันเก็บรักษาไว้ คนร้าย ควรคำนึงถึงจิตใจชาวอีสาน ต้องสูญเสียมรดกตกทอดอันล้ำค่า วันนี้จึงได้หารือกับผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอนแก่น ในการจัดการปรับระดับพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์เพื่อป้องกันความเสี่ยง

ปัจจุบันบริเวณพิพิธภัณฑสถานขอนแก่น มีประชาชนชาวขอนแก่นเข้ามาใช้เป็นสถานที่วิ่ง และเต้นแอโรบิกออกกำลังกาย ตลอดจนเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ในช่วงเช้าและเย็น ดังนั้นจึงแนะนำให้ทางพิพิธภัณฑ์ ปรับพื้นที่เป็น 3 ระดับ คือพื้นที่ชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน

พื้นที่ชั้นใน ควรเป็นพื้นที่หวงห้ามไม่ให้คนภายนอกเข้าเด็ดขาด แม้ว่าทางพิพิธภัณฑ์จะมีเวรยาม แต่เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นเช่นเดียวกับครั้งนี้ โดยผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์จะได้รายงานแนวทางดังกล่าวนำเสนอทางกรมศิลปากรต่อไป เนื่องจากมาตรการการรักษาความปลอดภัย ต้องมีการสั่งการจากกรมศิลปากรโดยตรง

รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ฝากถึงชาวขอนแก่นที่เข้าไปใช้สถานที่พิพิธภัณฑสถานขอนแก่นเพื่อพักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกาย ให้เป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแล ไม่ให้มีคนร้ายเข้าไปขโมยโบราณวัตถุได้ อีกทั้งหากมีมาตรการจัดบริเวณพื้นที่หวงห้าม ก็ขอให้ประชาชนเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้ความร่วมมือเพื่อดูแลทรัพย์สินของชาติร่วมกัน ทั้งนี้ทางจังหวัดขอนแก่น ได้เร่งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามสมบัติชาติกลับคืน โดยเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้

สำหรับโบราณวัตถุที่ถูกโจรกรรมไป 91 รายการ แบ่งเป็น พระพิมพ์ดินเผา กรุพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ถึง 55 รายการ และพระพิมพ์ดินเผา เมืองฟ้าแดดสงยาง จ.กาฬสินธุ์ 12 รายการ, พระพุทธรูปสำริด สมัยทวารวดี ประทับยืน ปางเสด็จจากดาวดึงส์ 11 รายการ, เทวรูปสำริดสมัยลพบุรี 7 รายการ พระโพธิสัตว์สำริด สมัยลพบุรี 5 รายการ และแผ่นทองคำ กรุพระธาตุนาดูน 2 รายการ

ทั้งนี้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่มีความรู้เรื่องโบราณวัตถุเป็นอย่างดี เนื่องจากโบราณวัตถุที่ถูกโจรกรรมส่วนใหญ่ เป็นกลุ่มพระพิมพ์ดินเผา จากพระธาตุนาดูน มีมูลค่าทางโบราณวัตถุสูงยิ่ง โดยไม่สามารถประเมินค่าได้ เนื่องจากเป็นสมบัติชาติที่จะหาไม่ได้อีกแล้ว