เชียงราย – เวทีคู่ขนานหางแดงเชียงรายสุดกร่อย สุดท้ายเหลือคนร่วมหรอมแหรมแค่ 10 คน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงรายแจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งแตกแขนงออกเป็นหลายกลุ่มหลังจากเกิดปัญหาความขัดแย้งกันอย่างหนักจนทำให้เกิดกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยที่มีมวลชนไม่มากนัก ได้มีการจัดเวทีคู่ขนาดกับเวทีคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ โดยใช้ชื่องานว่างานรำลึกรัฐธรรมนูญครบรอบ 77 ปี ณ บริเวณลานเอนกประสงค์ ชุมชนเกาะทอง เทศบาลนครเชียงราย ติดกับแม่น้ำกก
โดยภายในงานมีการจัดเป็นเวทีปราศรัยและฉายภายเชื่อมตรงกับเวทีที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้งานดังกล่าวมีการจำหน่ายบัตรให้กับผู้ที่ต้องการเข้าไปร่วมงานด้วยในราคาใบละ 100 บาท เพื่อระดมทุนช่วยเหลือแกนนำที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ อันเป็นผลมาจากการกระทำที่ผ่านมาโดยเฉพาะคดีหมิ่นเบื้องสูง คดีปิดถนนในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม พบว่าการจัดเวทีครั้งนี้ผู้เดินทางไปร่วมต่างเป็นคนหน้าเดิมๆ ที่เป็นแกนนำกลุ่มย่อยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแม่งานคือนายนายจิรโชติ อุ่นนะ ,นายณรงค์ ทิพย์นวล ,นายสมสิน สอนดา แกนนำจากกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 ,นายสมชัย แสงทอง ,นายธวัชชัย ทองนาค ,นายอรรถกร กันทไชย แกนนำจากกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย ,นายศรีนวล นวลหงส์ แกนนำกลุ่มเสียงประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเชียงราย ,นายออด สุขตะโก และ น.ส.เกษนีย์ ชื่นชมแกนนำกลุ่มเชียงราย 49 ,นายณรรนวัฒน์ ปิ่นเพชรไพศาล ,นางจันทนีย์ ยศบุญสูง ,น.ส.พัชรกร อินต๊ะก้อน แกนนำกลุ่มเสื้อแดงจาก อ.แม่ลาว ,น.ส.พุทธชาด โกฏแก้ว จากกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และนายถวัลย์ ชมพูวิเศษ กลุ่มแดงอิสระ รวมทั้งมวลชนที่เข้าร่วมรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 50 คนจนเก้าอี้ว่างเปล่าเป็นจำนวนมาก
และหลังจากเริ่มงานตั้งแต่ช่วงหัวค่ำเป็นต้นไป ปรากฏว่าช่วงที่กำลังเตรียมเวทีอยู่นั้นได้เกิดกระแสไฟฟ้าขัดข้องและช๊อตขึ้นจนมีกลุ่มควันด้านหลังเวที ส่งผลทำให้บริเวณงานมืดสนิทเพราะไม่มีกระแสไฟส่องเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
กระทั่งเมื่อมีการซ่อมระบบไฟฟ้าแล้วเสร็จจึงได้มีการเชื่อมเวทีกับกรุงเทพฯ และฉายภาพการโฟนอินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนำคนเสื้อแดงจุดเทียนชัยถวายพระพรและร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชาจากนั้นแกนนำคนเสื้อแดงดังกล่าวได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยและสลับกับการร้องเพลงเพื่อปลุกเร้าบรรยากาศ โดยมีการสนับสนุนด้านดาวเทียมถ่ายทอดจากนายเรืองฤทธิ์ กาซ้อน เจ้าของร้านเชียงรายโซล่าเซลล์ ต.บ้านดู่ อ.เมือง
แต่ยิ่งดึกคนก็ยิ่งลุกหายไปจนทำให้เหลือมวลชนในช่วงท้ายในเวลาประมาณ 4 ทุ่มเพียงแค่ 10 คน จนต้องปิดงานไปโดยปริยาย