“หลวงปู่จันทร์แรม” เกจิดังบุรีรัมย์ พระนักปฏิบัติสาย “หลวงปู่มั่น” มรณภาพ

บุรีรัมย์ - “หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ” พระเกจิอาจารย์ดังบุรีรัมย์ พระนักปฏิบัติธรรมสาย “หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” มรณภาพแล้วอย่างสงบด้วยโรคหัวใจ หลังเข้ารักษาที่ห้องไอซียู รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ นาน 10 วัน ขณะสำนักพระราชวังเตรียมพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พรุ่งนี้ (9 ธ.ค.)

วันนี้ (8 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 11.00 น. นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยส่วนราชการ และศิษยานุศิษย์ เข้ากราบศพ พระครูเขมคุณโสภณ หรือหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ เจ้าอาวาสวัดระหานเกาะแก้วธุดงคสถาน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ที่ได้มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อเวลา 01.20 น.วันนี้ หลังจากได้เข้ารับการรักษาอาการอาพาตด้วยโรคหัวใจที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ได้ทำพิธีเคลื่อนศพออกจากห้องไอซียู โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ในวันนี้ เวลา 12.30 น. นำโดยพระราชปริยัติกวี เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่จันทร์แรม และศิษย์ยานุศิษย์ ได้ร่วมกันเคลื่อนศพหลวงปู่จันทร์แรม ไปที่วัดระหานเกาะแก้วธุดงคสถาน อ.บ้านด่าน

นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ นางสนองพระโอษฐ์ที่ถวายงานรับใช้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่าในวันพรุ่งนี้(9 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ ได้พระราชทานให้สำนักพระราชวัง นำพวงหรีดพระราชทาน และน้ำหลวงอาบศพ แก่หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ ที่วัดระหานเกาะแก้วธุดงคสถาน

ด้าน แม่ชีฉวี โป๊ะไธสง หัวหน้าแม่ชีวัดระหานเกาะแก้วธุดงคสถาน บอกว่า หลวงปู่จันทร์แรม มีอาการอาพาตด้วยโรคหัวใจ มานานกว่า 6 ปีแล้ว กระทั่งเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 29 พ.ย.2552 ขณะที่หลวงปู่จันทร์แรม กำลังฉันท์ข้าวต้มอยู่ และฉันท์หมดถ้วยแล้ว เกิดสลบล้มฟุบลงกับพื้น หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ พระเณรและลูกศิษย์ที่อยู่บริเวณนั้นต่างตกใจ และช่วยกันรีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนบุรีรัมย์

เมื่อมาถึงโรงพยาบาลเอกชนบุรีรัมย์ แพทย์และพยาบาล รีบช่วยกันปั๊มหัวใจกระทั่งหลวงปู่จันทร์แรม หัวใจทำงานอีกครั้ง แต่หลวงปู่จันทร์แรมยังไม่รู้สึกตัว คณะแพทย์ของโรงพยาบาลเอกชนฯ จึงได้นำหลวงปู่ส่งไปรักษาต่อที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ในตอนเย็นของวันเดียวกัน เนื่องจากทางโรงพยาบาลเอกชนฯไม่มีเครื่องมือและแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคหัวใจโดยตรง

แม่ชีฉวีกล่าวต่อว่า เมื่อแพทย์ส่งตัวมารักษาต่อที่ห้องไอซียู รพ.บุรีรัมย์ หลวงปู่จันทร์แรม มีสภาพเหมือนคนนอนหลับ และไม่รู้สึกตัว โดยแพทย์ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจ และให้น้ำเกลือ รวมทั้งให้เป็นอาหารเหลวโดยระบบสายยาง กระทั่งเวลา 01.20 น. หลวงปู่จันทร์แรมได้มรณภาพลงอย่างสงบ สร้างความโศกเศร้าให้แก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก ซึ่งแพทย์ได้ลงความเห็นการมรณภาพของหลวงปู่จันทร์แรมครั้งนี้ว่าเกิดจากเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจที่มีจำนวน 4 เส้นได้ตีบตันเหลือเพียงเส้นเดียว และเส้นเลือดหล่อเลี้ยงหัวใจไม่ส่งเลือดไปเลี้ยงสมอง ทำให้มรณภาพในที่สุด

สำหรับ “หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ” หรือ “พระครูเขมคุณโสภณ” มีนามเดิมว่า จันทร์ นามสกุล ร้อยตะคุ เกิดเมื่อวันจันทร์ แรม 6 ค่ำ เดือน 5 ปีจอ ตรงกับวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2465 ที่บ้าน ปะหลาน ต.ปะหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เป็นบุตรของ นายอ่อนสี และ นางแก้ว ร้อยตะคุ มีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 8 คน โดยหลวงปู่จันทร์แรม เป็นบุตรคนที่ 5 ได้เริ่มบวชบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อ พ.ศ.2482 ณ วัดสระทองนพคุณ อ.พยัคฆภูมิพิสัย ขณะนั้นมีอายุได้ 17 ปี มีพระครูจันทรศรีธรคุณ เจ้าคณะอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย (ขณะนั้น) เป็นพระอุปัชฌาย์

ต่อมาได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อปี พ.ศ.2488 ที่พัทธสีมาวัดบูรพาราม อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยมี พระครูรัตนาวิสุทธิ์ (หลวงปู่ดุล อตุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ มี พระครูคุณสารสัมบัน (หลวงปู่โชติ คุณสัมปันโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และได้รับฉายาว่า “เขมสิริ” ขณะที่หลวงปู่จันทร์แรม มีอายุได้ 23 ปีเต็ม

ทั้งนี้ หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ นับเป็นพระนักปฏิบัติธรรม สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และมีความเชี่ยวชาญในการนั่งวิปัสสนากรรมฐานเป็นอย่างดียิ่ง มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของศิษย์ยานุศิษย์มากมาย ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักธุรกิจ พ่อค้าและประชาชน ทั่วไปทั่วทุกภาคของประเทศ และต่างประเทศ มีกิจนิมนต์ไม่เคยขาด หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ มีอายุ 87 ปี 203 วัน

จึงขอเชิญชวนให้ศิษย์ยานุศิษย์ ได้มากราบศพและร่วมประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลโดยพร้อมเพรียงกัน ที่วัดระหานเกาะแก้วธุดงคสถาน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์