ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ไชยวัฒน์” อดีต รมว.อุตฯ ชี้จับตาแผนชั่วเบื้องหลังม็อบใหญ่เสื้อแดง 10 ธ.ค. สร้างเหตุวุ่นวายก่อวินาศกรรมกลางกรุงและบางจังหวัดในยามวิกาลป่วนชาติหวังลักไก่ก่อรัฐประหาร เผยมีข่าวระบุชัด “นช.แม้ว” ดอดเข้าปักหลักประเทศเพื่อนบ้านใกล้ไทยบัญชาการยกสุดท้ายเดิมพันคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านด้วยตัวเอง แนะรัฐบาลบังคับใช้ กม.จริงจังจับกุม-ถอนประกันแกนนำแดงถ่อยทั้งหมด เหตุมีเจตนาประสงค์ร้ายต่อชาติบ้านเมืองชัดเจน ไม่สามารถอ้างสิทธิเสรีภาพการเคลื่อนไหวตาม “รธน.” ได้
วันนี้ (5 ธ.ค.) นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีการนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้แม้ว่าจะไม่เป็นที่พอใจคนไทยเนื่องจากเป็นเดือนแห่งความสุขก็ตาม แต่เนื่องจากเวลามีเหลือน้อยก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษชายหนีคดีอยู่ต่างประเทศ จึงต้องออกมาเคลื่อนไหวเป็นยกสุดท้าย
นายไชยวัฒน์คาดว่า การชุมนุมครั้งนี้จะก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้น โดยเฉพาะในยามวิกาลอาจมีการก่อวินาศกรรมขึ้น เพื่อสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้และจะทำให้เกิดรัฐประหารลักไก่ขึ้นได้ ตามขั้นตอนที่วางไว้ ซึ่งหากการก่อรัฐประหารลักไก่ไม่สอดคล้องกับความรู้สึกของประชาชนคนส่วนใหญ่ ก็จะขยายผลบานปลายได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่แกนนำคนเสื้อแดงคิดที่จะกระทำการในครั้งนี้ และมีเหตุการณ์หลายอย่างที่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นแน่นอน ฉะนั้นจึงไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติบ้านเมืองนัก
“ต้องยอมรับว่าล่าสุดขณะนี้ผู้นำกลุ่มเสื้อแดงอย่างนักโทษชายทักษิณ เข้ามาปักหลักอยู่ในพื้นที่บ้านใกล้เรือนเคียงกับประเทศไทยแล้วและเป็นข่าวที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งสอดรับกับช่วงที่มีการก่อเหตุความไม่สงบขึ้นเมื่อช่วงเดือน เมษายน 2552 ที่ผ่านมา นักโทษชายทักษิณ ก็เข้ามาบัญชาการอยู่ในพื้นที่บ้านใกล้เรือนเคียงเหมือนกัน ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนจะต้องจับตาดูและหากพบความผิดปกติให้แจ้งไปยังรัฐบาลทันที” นายไชยวัฒน์กล่าว
นายไชยวัฒน์กล่าวอีกว่า การเลื่อนการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงมาหลายครั้ง โดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่ประกาศว่าจะมีการชุมนุมเมื่อวันที่ 28-29 พ.ย.ที่ผ่านมา นั้นเบื้องหลังเชื่อว่าเนื่องมาจากการประสานคนในกองทัพไม่เข้าเป้า แต่การประสานกับฝ่ายตำรวจเข้าเป้าหมดแล้ว ฉะนั้นจึงไม่เชื่อว่ากลุ่มคนที่ 3 หรือมือที่ 3 จะมาก่อเหตุวุ่นวายหรือก่อเหตุวินาศกรรมแต่จะเป็นฝีมือของฝ่ายที่กระทำการก่อการชุมนุมนั่นแหละ เพราะประเทศไทยไม่เคยมีมือที่สาม มีแค่มือที่หนึ่ง และ สอง เท่านั้นคือ เป็นมือฝ่ายคนครองอำนาจ กับ มือฝ่ายคนแย่งอำนาจแค่นี้ และก็ออกมาป้ายสี ใส่ไข่กันไปมาเท่านั้น
ฉะนั้นจึงน่าเชื่อว่า หากมีการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเกิดขึ้นในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ มีโอกาสที่จะเกิดความวุ่นวายรุนแรงและเกิดการก่อวินาศกรรมในพื้นที่กรุงเทพฯ และในบางจังหวัดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นใจอย่างแน่นอน และคาดว่าจะมีคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมครั้งนี้ประมาณ 2-3 หมื่นคน ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่มากนัก เพียงแค่ทำให้มีคนมาชุมนุมอยู่บนท้องถนน และ เตรียมคนอีกกลุ่มหนึ่งไปก่อวินาศกรรมในมุมมืด
“การชุมนุมของคนเสื้อแดงครั้งนี้ถือเป็นยกสุดท้ายเพราะหมากบังคับ ซึ่งเป็นยกสุดท้ายทั้งฝ่ายช่วงชิงอำนาจและฝ่ายครองอำนาจ จากการประเมินของผมมองว่าเรื่องยุบสภาฯ ไม่ใช่คำตอบอีกแล้ว เพราะไม่ทันเวลาสำหรับฝ่ายช่วงชิงอำนาจเพราะเขาต้องการเงิน 7.6 หมื่นล้านกลับคืนไป ซึ่งเจ้าตัวออกข่าวมาเป็นระยะ ๆ ว่าขอคืนแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น จากเมื่อก่อนให้ 2.6 หมื่นล้านไม่พอไม่สามารถล็อบบี้ได้ จึงต้องเพิ่มเงินอีก 1.2 หมื่นล้านหรือครึ่งหนึ่ง ก็ทำให้เป็นตัวเลขที่น่าสนใจของฝ่ายแนวร่วมจึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงประเทศไทย” นายไชยวัฒน์กล่าว
สำหรับทางออกและแนวทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในตอนนี้ คือ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพราะเป็นช่วงเวลามหามงคลไม่สามารถประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงได้ แต่เท่าที่ดูรัฐบาลไม่ค่อยจัดการปัญหาอะไรอย่างจริงจัง ทำให้สถานการณ์บ้านเมืองไม่นิ่งมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา และหากจะแก้ไขปัญหานี้ให้เด็ดขาด ได้ต้องรวบตัวแกนนำหลัก ๆ คนเสื้อแดงไว้ทั้งหมดหรือถอนประกันในคดีต่างๆ แล้วความวุ่นวายก็จะไม่เกิดขึ้น และเขาไม่สามารถอ้างสิทธิเสรีภาพในการเคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญได้ เพราะเจตนารมณ์ชัดเจนว่าไม่ประสงค์ดีต่อชาติบ้านเมือง จะให้สิทธิเสรีภาพพวกนี้ไม่ได้ ต้องจับกุมหรือถอนประกันอย่างเดียว
นายไชยวัฒน์ยังกล่าวถึงบทบาทของทหารในสถานการณ์วิกฤตของชาติบ้านเมืองในขณะนี้ว่า ส่วนของทหารนั้น สามารถแปรความได้อย่างนี้คือ ถ้าทหารไม่ออกมาพูดอะไรเลยแสดงว่าพร้อมรับ ถ้าทหารพูดบ่อยๆ แสดงว่าไม่พร้อม และวันนี้ทหารก็ไม่พูดอะไรเลย ซึ่งจะสังเกตได้ว่า ทหารที่เขามีอำนาจเขาจะไม่พูด ส่วนทหารที่พูดมากพวกนี้จะไม่มีอำนาจโดยเฉพาะ เสธ.ตัวดีไม่มีอะไร พูดมากเฉยๆ เป็นนายพลลอยๆ
ฉะนั้น จึงคิดว่าทหารตอนนี้รอจังหวะ สำหรับประชาชนต้องช่วยกันออกมาปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าให้ทหารก่อรัฐประหารเกิดขึ้นได้ และให้ทหารมีอำนาจและปฏิบัติหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญที่วางไว้เท่านั้น เพราะการรัฐประหารไม่มีประโยชน์อะไร
ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีทหารพรานเข้ามาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น คิดว่า มีส่วนน้อย แต่ที่ตนได้ข่าวมา อาจมีทหารกัมพูชาเข้าตามแนวชายแดนมาสวมชุดทหารพรานแล้วเข้ามาก่อวินาศกรรมก็เป็นได้ จึงอยากให้ประชาชนช่วยกันจับตามองให้ดี