ศูนย์ข่าวศรีราชา - รมช.คมนาคม รุดตรวจสอบปัญหาเรือท่องเที่ยวพัทยา หลังเกิดเหตุเรือสปีดโบตพุ่งชนกันจนทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิต 2 ราย ชี้ มาตรฐานความปลอดภัยทางทะเลเมืองพัทยาต่ำ เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
วันนี้ (2 ธ.ค.) จากกรณีที่เกิดเหตุเรือเร็วสปีดโบต จำนวน 2 ลำ พุ่งชนประสานงากันบริเวณกลางอ่าวพัทยา ห่างจากท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ประมาณ 500 เมตร ซึ่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนกว่า 30 ราย ได้รับบาดเจ็บ โดยในจำนวนนี้มีชาวจีน 2 รายที่เสียชีวิต ซึ่งเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ ที่สำคัญมาตรฐานความปลอดภัย อาทิ การควบคุมการบรรทุกนักท่องเที่ยวเกินอัตราที่กำหนด และการไม่สวมใส่เสื้อชูชีพนั้น ถือว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดความสูญเสียในครั้งนี้
ล่าสุด นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายชลอ คชรัตน์ อธิบดีกรมเจ้าท่า และผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ พร้อมเรียกประชุมผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตัวแทนจากเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทางทะเล ตำรวจน้ำ ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าเมืองพัทยา เข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
นายเกื้อกูล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบนั้นเบื้องต้น คาดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ จึงทำให้ประสพเหตุอย่างรุนแรงซึ่งคงต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่าการขนส่งผู้โดยสารนั้นมีการบรรทุกเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด รวม ถึงไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่รัดกุมโดยเฉพาะในเรื่องของเสื้อชูชีพจนทำให้นักท่องเที่ยวจมน้ำเสียชีวิต
นอกจากนี้ สำหรับเรือโดยสารเอง ก็พบว่าขาดการต่ออนุญาตด้วย ขณะที่การเดินเรือในเขตเมืองพัทยา ซึ่งถือว่ามีเป็นจำนวนมากนั้น ทางเจ้าหน้าที่เองก็ขาดความใส่ใจในการตรวจสอบป้องกันดูแล ซึ่งจากนี้จะได้สั่งการให้ทางกรมเจ้าท่าจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ต่อมา นายเกื้อกูล พร้อมคณะได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรง พยาบาลพัทยาเมโมเรียล ซึ่งเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยทั้งสิ้น 15 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยได้กล่าวขอโทษถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมมอบหมายให้เมืองพัทยาเข้ามาช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่