ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ประจักษ์” รมช.คมนาคม เปิดเดินรถโดยสารเส้นทางระหว่างประเทศเที่ยวปฐมฤกษ์ โคราช-เวียงจันทน์ ส.ป.ป.ลาว รับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 เผยรถวิ่งวันละ 1 เที่ยว โดยไม่จอดรับผู้โดยสารรายทาง ค่าโดยสาร 320 บาท หรือ 86,100 กีบ ใช้เวลาวิ่งรถ 7 ชั่วโมง ระยะทาง 382 กม. เผยอำนวยความสะดวกการเดินทางของ ปชช.ส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจ 2 ประเทศ พร้อมเตรียมเปิดเดินรถโดยสารสาย นครราชสีมา-เวียดนาม
วันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมา แห่งที่ 2 ถ.มิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดเดินรถโดยสารประจำทางเที่ยวปฐมฤกษ์ เส้นทางระหว่างประเทศสายที่ 6 จังหวัดนครราชสีมา-นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ส.ป.ป.ลาว) เพื่อรองรับประชาชนเดินทางไปชมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25
โดยมี นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด( บขส.), นายควง วงษ์เบญจรัตน์ ประธานชมรมผู้ประกอบการรถโดยสารโคราช, นายชาญวิทย์ วสยางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายภิรมย์ พลวิเศษ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และ นายวัฒนา พัทรชนม์ ขนส่งจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งมีผู้ที่โดยสารที่เดินทางในเที่ยวปฐมฤกษ์ทั้งชาวไทย-ชาวต่างชาติ, เจ้าหน้าที่ขนส่ง และผู้ประกอบการรถโดยสารในจังหวัดนครราชสีมาร่วมพิธีเปิดกว่า 200 คน
สำหรับเส้นทางเดินรถระหว่างประเทศ สายที่ 6 นครราชสีมา-นครหลวงเวียงจันทน์ นั้น ใช้เส้นทาง ถนนมิตรภาพ จาก จ.นครราชสีมา-ขอนแก่น-อุดรธานี-หนองคาย ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ข้ามแม่น้ำโขง ไปยัง นครหลวงเวียงจันทน์ ส.ป.ป.ลาว รวมระยะทาง 382 กิโลเมตร (กม.) อัตราค่าโดยสารที่นั่งละ 320 บาท หรือ 86,100 กีบ
นายประจักษ์ แก้วกล้าหาญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เส้นทางระหว่างประเทศสายนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหน่วยงานทั้งสองประเทศ คือ กระทรวงคมนาคม แห่งราชอาณาจักรไทย และกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่เห็นชอบร่วมกันให้เกิดการเดินรถโดยสารครั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านพี่เมืองน้องให้สามารถเดินทางไปมาได้อย่างสะดวกสบายและประหยัด รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศด้วย
ทั้งนี้ มอบหมายให้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคมของไทย และ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ ของ ส.ป.ป.ลาว เป็นผู้ประกอบการเปิดเดินรถระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามกรอบแนวคิดของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 ด้านการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ซึ่งรัฐบาลมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงของโครงข่ายคมนาคมขนส่ง และเป็นประตูสู่ความร่วมทางเศรษฐกิจแห่งภูมิภาคเอเชีย
สำหรับ จ.นครราชสีมา ถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางบกของภาคอีสานที่มีความพร้อมสามารถรองรับประชาชนที่จะเดินทางไปยังภาคต่างๆได้สะดวกรวดเร็ว จึงเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินรถจากประเทศไทยไปยัง เวียงจันทน์ โดยประชาชนสามารถเดินทางได้ทุกวัน คือ ขาไป 1 เที่ยว และ มีรถขากลับมาจากเวียงจันทน์อีก 1 เที่ยวต่อวันเช่นกัน โดยไม่แวะรับผู้โดยสารรายทาง ซึ่งต่อไปจะมีการเปิดเส้นทางเดินรถจากนครราชสีมา-ประเทศเวียดนาม
“ในอนาคตอาจมีความเป็นไปได้ว่าภาคอีสานอาจจะมีรถไฟความเร็วสูง เส้นทางจาก กทม.- นครราชสีมา ต่อไปยัง อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา-จ.ขอนแก่น-จ. อุดรธานี และ จ.หนองคาย ตรงนี้เป็นเรื่องที่กระทรวงคมนาคมจะพิจารณาดำเนินการต่อไป” นายประจักษ์ กล่าว
ด้าน นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า บขส.เปิดเดินรถโดยสารประจำทางระหว่างประเทศ เส้นทางที่ 6 นครราชสีมา-นครหลวงเวียงจันทน์ นี้ วันละ 1 เที่ยว ด้วยรถโดยสารปรับอากาศชั้น 2 จำนวน 45 ที่นั่ง ไม่มีสุขภัณฑ์ ออกจากต้นทาง จ.นครราชสีมา เวลา 07.30 น.ทุกวัน และ ทาง ส.ป.ป.ลาว ก็ออกจากต้นทางเวียงจันทน์ในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นการเดินรถสวนกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง
ส่วนการเดินทางไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ ผู้โดยสารที่เป็นคนไทยสามารถถือหนังสือเดินทาง (Passport) เข้า-ออก สปป.ลาวได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า และสามารถอยู่ใน ส.ป.ป.ลาว ได้ 30 วัน
“เส้นทางนี้เราเปิดเดินรถโดยสารประจำทางแบบถาวรเลย เพียงแต่พอดีมาเปิดเดินรถตรงกับการจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่ ส.ป.ป.ลาว เป็นเจ้าภาพ เพื่อสอดรับการเดินทางของประชาชนที่จะเดินทางไปชมกีฬาซีเกมส์เท่านั้น ส่วนค่าโดยสารมีข้อตกลงว่าฝั่งสปป.ลาว เก็บเป็นเงินกีบ ฝั่งไทยก็เก็บเป็นเงินไทย ซึ่งนอกจากเส้นทางนครราชสีมา-เวียงจันทน์ แล้ว เรายังมีเส้นทางรองรับสายหลักไว้อีก เช่น หนองคาย-เวียงจันทน์, อุดรธานี-เวียนจันทน์ และ ขอนแก่น-เวียงจันทน์” นายวุฒิชาติ กล่าว
นายวุฒิชาติ กล่าว สำหรับพนักงานขับรถโดยสารสายนครราชสีมา-เวียงจันทน์ นั้น ได้คัดสรรพนักงานขับรถที่มีประสบการณ์ทำงานค่อนข้างสูง เพราะการขับรถในประเทศไทยกับ ส.ป.ป.ลาวไม่เหมือนกันต้องใช้พนักงานขับที่มีประสบการณ์ และได้เข้าไปทดลองขับในเส้นทางดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในอนาคตคงต้องมีการปรับปรุงข้อตกลงบางข้อ เช่น เรื่องการห้ามจอด อาจทำให้ผู้โดยสารไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถ อาจเมื่อยล้าในการเดินทาง และรถโดยสารไม่มีห้องสุขา ฉะนั้น เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ผู้โดยสาร เรากำลังดูเรื่องจุดจอด เพื่อได้แวะผ่อนคลายอิริยาบถ และเข้าห้องสุขาได้ด้วย แต่แน่นอนเราจะไม่อนุญาตให้รับคนโดยสารระหว่างทางเด็ดขาด