เชียงราย- ขบวนการค้ายาบ้าเชียงรายโหด 2 วันยิงตาย 2 รายซ้อน หวั่นเป็นสายให้ตำรวจ
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (22 พ.ย.) ร.ต.อ.ธวัช สิงห์ชัย ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตรกรรมที่ถนนภายในหมู่บ้านจะคือ หมู่ 10 ต.ห้วยชมพู อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาสูง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม ผกก.สภ.เมืองเชียงราย จากนั้นร่วมกับ พ.ต.ท.สมชาย มีอนันต์ รอง ผกก.สส.พ.ต.ต.สรัญรัฐ ชยนนท์ สารวัตรสืบสวน นายแพทย์กันต์ ทองแถม ณ อยุทธยา แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และตำรวจวิทยาการ จ.เชียงราย รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพชาย 1 คนทราบชื่อต่อมาว่านายจะโพ จะคือ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 114 หมู่ 15 หมู่ 15 ต.แม่วาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าละเมาะ สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่หน้าขาจำนวน 4 นัด
นอกจากนี้ พบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน ชื่อว่านายบุญฤทธิ์ แสนชัย อายุ 35 ปีซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านจะคือปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่บ้านจะคือ ถูกยิงเข้าที่ขาซ้ายจำนวน 1 นัด จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์โดยเร่งด่วน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุก็ไม่พบหลักฐานใดๆ มากนักเพราะเป็นป่าเขาและมืด จึงได้เข้าไปสอบปากคำคนในหมู่บ้านรวมทั้ง นายบุญฤทธิ์ ซึ่งยังพอให้การได้
สอบสวนทั้งหมดได้ความว่า ก่อนหน้านี้ ทั้ง นายจะโพ และ นายบุญฤทธิ์ ได้ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปตัดไม้ไผ่ มาทำเป็นยุ้งข้าวช่วงปลายฤดูเกี่ยวข้าว แต่ช่วงหัวค่ำขณะเดินกลับหมู่บ้านได้มีคนร้ายใช้ปืนออกมากราดยิงทั้งคู่ โดยเมื่อนายจะโพถูกยิงจนล้มลง ก็หันมายิงนายบุญฤทธิ์ทำให้เจ้าตัววิ่งหลบหนีแต่ก็ถูกยิงจนล้มลง ก่อนที่คนร้ายจะคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิต แล้วจึงหนีเข้าป่าละเมาะข้างทางไป ทำให้นายบุญฤทธิ์ไปแจ้งชาวบ้านที่ได้ยินเสียงปืน และแจ้งตำรวจให้ไปตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะทราบแล้วว่าใครเป็นฆาตรกรลงมือยิงปืนใส่ทั้ง 2 คนดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อราวเดือน เม.ย.2552 เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมืองร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ได้วิสามัญฆาตรกรรมชาย 1 คน ชื่อว่า นายจะก่า หลังสืบทราบว่าเป็นหนึ่งเครือข่ายของขบวนการค้ายาเสพติด และเมื่อยิงสู้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้มีญาติของนายจะก่า สงสัยว่า นายบุญฤทธิ์ จะเป็นสายแจ้งข่าวให้กับเจ้าหน้าที่จึงขู่จะเอาชีวิตมาแล้ว กระทั่งนายบุญฤทธิ์ออกไปตัดไม้กับนายจะโพ จึงถูกไล่ยิง แต่นายจะโพโชคร้ายเสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปผ่าเอาลูกกระสุนออกมาเป็นหลักฐานและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เพียง 1 วัน ได้มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงนายอนุสรณ์ สิทธิ์แสงฤดี อดีตผู้ใหญ่บ้านม้งเก้าหลัง หมู่ 9 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า จนเสียชีวิตขณะขับขี่รถยนต์จะกลับหมู่บ้าน จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีเข้าป่าไปมาแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกองกำลังผาเมือง ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ต่างๆ ก็สันนิษฐานว่าเกิดจากเรื่องของยาเสพติด
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (22 พ.ย.) ร.ต.อ.ธวัช สิงห์ชัย ร้อยเวร สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งมีเหตุฆาตรกรรมที่ถนนภายในหมู่บ้านจะคือ หมู่ 10 ต.ห้วยชมพู อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขาสูง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม ผกก.สภ.เมืองเชียงราย จากนั้นร่วมกับ พ.ต.ท.สมชาย มีอนันต์ รอง ผกก.สส.พ.ต.ต.สรัญรัฐ ชยนนท์ สารวัตรสืบสวน นายแพทย์กันต์ ทองแถม ณ อยุทธยา แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ และตำรวจวิทยาการ จ.เชียงราย รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบศพชาย 1 คนทราบชื่อต่อมาว่านายจะโพ จะคือ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 114 หมู่ 15 หมู่ 15 ต.แม่วาง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าละเมาะ สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่หน้าขาจำนวน 4 นัด
นอกจากนี้ พบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน ชื่อว่านายบุญฤทธิ์ แสนชัย อายุ 35 ปีซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านจะคือปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่บ้านจะคือ ถูกยิงเข้าที่ขาซ้ายจำนวน 1 นัด จึงช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์โดยเร่งด่วน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจที่เกิดเหตุก็ไม่พบหลักฐานใดๆ มากนักเพราะเป็นป่าเขาและมืด จึงได้เข้าไปสอบปากคำคนในหมู่บ้านรวมทั้ง นายบุญฤทธิ์ ซึ่งยังพอให้การได้
สอบสวนทั้งหมดได้ความว่า ก่อนหน้านี้ ทั้ง นายจะโพ และ นายบุญฤทธิ์ ได้ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปตัดไม้ไผ่ มาทำเป็นยุ้งข้าวช่วงปลายฤดูเกี่ยวข้าว แต่ช่วงหัวค่ำขณะเดินกลับหมู่บ้านได้มีคนร้ายใช้ปืนออกมากราดยิงทั้งคู่ โดยเมื่อนายจะโพถูกยิงจนล้มลง ก็หันมายิงนายบุญฤทธิ์ทำให้เจ้าตัววิ่งหลบหนีแต่ก็ถูกยิงจนล้มลง ก่อนที่คนร้ายจะคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิต แล้วจึงหนีเข้าป่าละเมาะข้างทางไป ทำให้นายบุญฤทธิ์ไปแจ้งชาวบ้านที่ได้ยินเสียงปืน และแจ้งตำรวจให้ไปตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะทราบแล้วว่าใครเป็นฆาตรกรลงมือยิงปืนใส่ทั้ง 2 คนดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้เมื่อราวเดือน เม.ย.2552 เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมืองร่วมกับเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) ได้วิสามัญฆาตรกรรมชาย 1 คน ชื่อว่า นายจะก่า หลังสืบทราบว่าเป็นหนึ่งเครือข่ายของขบวนการค้ายาเสพติด และเมื่อยิงสู้กับเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้มีญาติของนายจะก่า สงสัยว่า นายบุญฤทธิ์ จะเป็นสายแจ้งข่าวให้กับเจ้าหน้าที่จึงขู่จะเอาชีวิตมาแล้ว กระทั่งนายบุญฤทธิ์ออกไปตัดไม้กับนายจะโพ จึงถูกไล่ยิง แต่นายจะโพโชคร้ายเสียชีวิตดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปผ่าเอาลูกกระสุนออกมาเป็นหลักฐานและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ก่อนหน้านี้ เพียง 1 วัน ได้มีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงนายอนุสรณ์ สิทธิ์แสงฤดี อดีตผู้ใหญ่บ้านม้งเก้าหลัง หมู่ 9 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า จนเสียชีวิตขณะขับขี่รถยนต์จะกลับหมู่บ้าน จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีเข้าป่าไปมาแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกองกำลังผาเมือง ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ต่างๆ ก็สันนิษฐานว่าเกิดจากเรื่องของยาเสพติด
