เชียงราย – ยาเสพติดยังคงทะลักเข้าชายแดนเชียงรายอย่างหนัก ชี้จุดเสี่ยงพรมแดนน้ำรวก-น้ำโขง เริ่มแห้งทำให้ขบวนการยานรกขนเข้าไทยได้ง่ายขึ้น แถมองค์กรภาคเอกชนบางแห่งเล่นแง่ ไม่ให้ตรวจสอบสินค้าปลอมปน ทำให้ยาบ้าทะลักเข้าพื้นที่ชั้นในได้ง่ายขึ้น เสนอผู้ว่าฯ ดึงฝ่ายปกครองร่วมตั้งจุดตรวจถนนสายรองทั่วเมืองนับ 100 จุด
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (16 พ.ย.) พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย ได้ระดมกำลังตำรวจในพื้นที่ อ.เมือง เข้าไปตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางอากาศภายในท่าอากาศยานเชียงราย หลังสืบทราบว่าขบวนการค้าสินค้าผิดกฎหมายอาจใช้การขนส่งทางอากาศในการขนส่งสินค้าดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้ตำรวจ ภ.เชียงราย ได้ร่วมกับทหารกองกำลังผาเมือง หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ฝ่ายปกครอง ตำรวจตระเวนชายแดน ฯลฯ ทำการตรวจยึดของกลางยาเสพติดยาบ้าได้เป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันขบวนการค้ายาเสพติดมีการลักลอบนำเข้ายาบ้ามาในปริมาณที่มากกว่าปกติ โดยนำเข้ามาครั้งละนับแสนเม็ด ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ สภ.ที่ประจำอยู่ตามแนวชายแดนได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันออกมาตั้งจุดตรวจจุดสกัดให้เข้มงวดมากขึ้น ควบคู่ไปกับการหาข่าวเพื่อพยายามสกัดกั้นเอาไว้ให้ได้ เนื่องจากชายแดนด้าน จ.เชียงราย เข้าออกง่ายจึงต้องจับตามากเป็นพิเศษโดยเฉพาะด้านที่มีแม่น้ำรวก-แม่น้ำโขง เป็นเขตแดน เพราะน้ำเริ่มแห้งในฤดูหนาวทำให้ข้ามไปมาได้ง่ายมาก
“ล่าสุดได้เสนอไปยังผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัดร่วมกันระหว่างฝ่ายตำรวจกับฝ่ายปกครองให้มากขึ้น โดยเน้นไปยังถนนสายรองเพราะที่ผ่านมาจะสังเกตเห็นว่าจุดที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดของกลางได้เกิดจากการที่กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด พยายามลักลอบขนไปตามถนนสายรองเพื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจตามถนนสายหลัก ทำให้การตรวจยึดตามถนนสายหลักลดลงอย่างมาก โดยจะมีการตั้งจุดตรวจจำนวน 92 แห่งเพื่อสกัดกั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าในบางครั้งเราก็มีอุปสรรคในการทำงานอยู่มากโดยเฉพาะเรื่องเครื่องมือและความร่วมมือกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ส่วนราชการ” พล.ต.ต.ทรงธรรม กล่าว
ผบก.ภ.เชียงราย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาปัญหาเรื่องเครื่องมือ คือ เรายังขาดแคลนเครื่องแสกนที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถตรวจสอบรถขนสินค้าหรือคอนเทนเนอร์ ทำให้ในบางช่วงเราจะพบเห็นอุบัติเหตุรถคอนเทนเนอร์คว่ำในต่างจังหวัดอื่นๆ ที่อยู่ทางใต้ จ.เชียงราย ลงไปและพบว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในรถคันดังกล่าวทั้งๆ ที่ตำรวจเชียงรายได้ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนนี้อย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงที่ขนย้ายยาเสพติดออกจากเชียงรายเราก็ไม่กล้าค้นเพราะซุกซ่อนในสินค้าที่บอบบางเสียหายง่าย เช่น พืชผัก ผลไม้ ฯลฯ หากการข่าวเราไม่ชัดเจนก็อาจจะทำให้สินค้าเสียหายได้
ส่วนความร่วมมือกับหน่วยงานที่ไม่ใช่ทางราชการ พบว่าบางหน่วยมีปัญหามาก เพราะไม่ให้ความร่วมมือจนทำให้การดำเนินการเพื่อตรวจสอบของกลางหรือสกัดกั้นยาเสพติดเป็นไปด้วยความล่าช้า ซึ่งก็คงจะมีการขอความร่วมมือกันตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ในส่วนของหน่วยงานราชการเหมือนกัน ยอมรับว่าได้รับความร่วมมือดีมากทั้งฝ่ายทหาร ศุลกากร ฝ่ายปกครอง ตำรวจตระเวณชายแดน ฯลฯ โดยในช่วงที่ขาดแคลนอุปกรณ์ตรวจสอบที่จำเป็นอยู่นั้นก็จะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ศุลกากร สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ฯลฯ เข้าไปตรวจสอบตั้งแต่ต้นทางในการขนส่งสินค้าตามการข่าวที่ได้รับค่อนข้างชัดเจนไปก่อน หรือไม่ก็ประสานกับศุลกากรนำเครื่องตรวจสอบไปทำการตรวจสอบต่อไป เป็นต้น
ขณะนี้กำลังรอเครื่องตรวจยาเสพติดและวัตถุระเบิดจีที 200 อยู่รวมทั้งเครื่องไม้เครื่องมืออื่นๆ ที่จำเป็น
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจ ภ.เชียงราย ร่วมกับหน่วยงานชายแดนได้ตรวจยึดยาบ้าพร้อมจับกุมคนขนได้หลายราย โดยสามารถยึดของกลางได้ครั้งละ 200,000-300,000 เม็ด ติดต่อกันวันต่อวัน ซึ่งตามขั้นตอนนอกจากจะต้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดแล้วยังจะต้องมีการลำเลียงของกลางทั้งหมด ส่งไปยังกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบของกลาง
ที่ผ่านมาจึงมีการขนส่งทางรถยนต์ซึ่งสิ้นเปลืองงบประมาณมาก และต้องใช้กำลังพลสิ้นเปลืองไปโดยเปล่าประโยชน์ รวมทั้งกำลังพลที่ใช้ก็ต้องพักผ่อนหลังปฏิบัติงานแล้วเสร็จเพราะต้องใช้เวลาในการขนส่งกว่า 1-2 วัน ทั้งยังเสี่ยงต่อความปลอดภัยด้วย ดังนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ ภ.เชียงราย จึงได้ขอความร่วมมือกับสายการบินไทยในการขนลำเลียงยาเสพติดไปยังกรุงเทพฯ แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยอ้างว่าทางสายการบินไม่รับขนส่งสินค้าที่ผิดกฎหมาย ทำให้ตำรวจต้องมีการขนส่งทางรถยนต์เหมือนเดิม
