อุดรธานี - ศาลแขวงอุดรธานีและสำนักระงับข้อพิพาท ร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา จัดโครงการไกล่เกี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดี สำหรับผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้รุ่นปี 2542-2548 เพื่อลดปริมาณคดีศาลและค่าใช้จ่ายติดตามหนี้
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.52 ที่ผ่านมา ที่บริเวณหน้าศาลแขวงอุดรธานี นายปกรณ์ สุวรรณพรหมา อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงาน ภาค 4 เป็นประธานในการเปิดจัดโครงการไกล่เกี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดี ประจำปีงบประมาณ 2553
นางสุภาพ เกษเกษม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงอุดรธานี กล่าวถึงวัตถุประสงค์จากการดำเนินงานโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาก่อนฟ้องคดี ตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ในหลายจังหวัดทั่วประเทศนั้นมีผู้กู้เข้าโครงการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจำนวนมาก และสามารถตกลงยุติข้อพิพาทได้มากกว่าร้อยละ 90 ซึ่งสร้างความพอใจให้แก่ทุกฝ่ายเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ข้อตกลงทั้งสองฝ่ายเป็นไปด้วยความสมัครใจก็จะลดปริมาณคดีที่จะเข้าสู่ศาลได้อีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันก็จะเกิดประโยชน์กับผู้กู้จะไม่ต้องถูกดำเนินคดี และทาง กยศ.ก็สามารถนำเงินที่ได้ไปใช้ประโยชน์แก่ผู้กู้รายอื่น
นายธาดา มาร์ติน ผู้จัดการกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เปิดเผยว่า ทางกองทุนฯได้รับความร่วมมือจากสำนักงานยุติธรรม ศาลแขวง และศาลจังหวัดต่างๆ จัดให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องดำเนินคดีขึ้นเป็นปีที่ 6 เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ที่ค้างชำระหนี้ 5 งวดขึ้นไป ที่ผ่านมามีจำนวนผู้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจากทั่วประเทศถูกบอกเลิกสัญญาและจะถูกฟ้องคดีจำนวน148,613 ราย และในปี 2553 นี้มีผู้กู้ยืมจากทั่วประเทศถูกบอกเลิกสัญญาจำนวน 161,739 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านมา 13,126 ราย คิดเป็นมูลค่าที่ชำระประมาณ 15,824 ล้านบาทเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 58,788 ราย มูลหนี้ค้างชำระประมาณ 4,654 ล้านบาท ซึ่งหากมีการนำคดียื่นฟ้องต่อศาลกองทุนฯ ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี แต่ถ้ามีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก็สามารถลดค้าใช้จ่ายในการดำเนินคดีลงได้
สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไข 2 กรณีคือทำคำร้องขอชำระหนี้ที่ค้างทั้งหมด หรือทำสัญญาประนีประนอมยอมความนอกศาล ทั้งนี้เพื่อให้ผู้กู้ยืมทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของเงินกองทุนฯ ที่ได้มาจากภาษีของประชาชน ซึ่งทางรัฐบาลใช้หมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษาที่ยากจนให้มีโอกาศทางการศึกษาโดยเท่าเทียมกัน ซึ่งเงินที่ผู้กู้ยืมรุ่นพี่ที่นำมาชำระก็จะส่งผลต่อไปให้กับผู้กู้ยิมรุ่นน้องได้มีโอกาสนำเงินที่กู้ไปใช้ในการศึกษาต่อไป