พิษณุโลก - บสย.ส่ง “คลินิกค้ำประกันสินเชื่อ” เดินสายคุยผู้ประกอบการรายย่อยภาคเหนือตอนล่าง เปิดแนวรุกทางการเงิน เลิกค่าธรรมเนียม 1.75% จนถึงสิ้นปีกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลยอดค้ำประกันสินเชื่อพุ่งกว่า 11,000 ล้านบาท แก้ปัญหาลูกค้ารายย่อยไม่เคยได้รับการเหลียวแลจากแบงก์
วันนี้ (19 พ.ย.) ที่โรงแรมอัมรินทน์ลากูน จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พร้อมกับนักธุรกิจในภาคเหนือตอนล่าง 9 จังหวัด ประมาณ 70-80 คน หมุนเวียนพบปะพูดคุยปรึกษาปัญหาการลงทุน ตามโครงการ “คลินิกค้ำประกันสินเชื่อ” หลังจากที่ บสย.ลงนามกับธนาคารพาณิชย์ทั้ง 16 แห่งเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2552 เดินเครื่องปลดภาระค่าธรรมเนียม 1.75 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนที่ บสย.รับผิดชอบ(เพิ่มจากสถาบันการเงิน) ในการค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อย ตามโครงการรัฐบาลค้ำประกัน 3 หมื่นล้านบาท
นายอนุสรณ์ เอมกมล ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า บสย.ได้จัดคลินิก บสย.เพื่อพบปะกับผู้ประกอบการโดยตรง หลังดำเนินการจัดคลินิกในภาคอีสานและภาคใต้มาแล้ว ซึ่งครั้งที่ 5 นี้ เป็นการพบปะกับผู้ประกอบการภาคเหนือตอนล่าง
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า SMEe ไม่ค่อยได้รับอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ทำให้ บสย.จำเป็นต้องออกมาคุยลูกค้า และสถาบันการเงินตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เรียกว่า เข้าถึงลูกค้าโดยตรง ส่งผลให้ยอดค้ำประกัน 10 เดือนแรกของปี 2552 มีมากกว่า 11,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดการค้ำประกันสินเชื่อตลอด 17 ปีที่ก่อตั้ง บสย. มีจำนวนทั้งสิ้น 18,000 ล้านบาท นับว่า เป็นตัวเลขที่สูงมาก คาดว่า ทำให้ระบบสินเชื่อในประเทศสะพัด 4 หมื่นล้านบาท
เขาบอกว่า ในช่วงภาวะเศรษฐกิจปกติ ธนาคารจะทำหน้าที่ปล่อยกู้ให้กับลูกค้า แต่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี แบงก์เข้มงวด ไม่ยอมปล่อยสินเชื่อ แต่รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจการลงทุนในประเทศ กระทรวงการคลังจึงออกมาตรการจูงใจแก่ผู้ประกอบการรายย่อย คือ ยกเว้นค่าธรรมเนียม 1.75 เปอร์เซ็นต์ ฟรีจนถึงสิ้นปีนี้ จากเดิมที่ บสย.จะต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ในส่วนที่บสย.แบกรับภาระความเสี่ยงเพิ่มจากสถาบันการเงิน ขณะที่ปัญหาหนี้เสีย ยังไม่เกิด เพราะโครงการค้ำประกันสินเชื่อเป็นแค่เริ่มต้นเท่านั้น
