ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านชุมชนสะพานปลานาเกลือลุกฮือต้านการรื้อถอนอาคารของเมืองพัทยา หลังเป็นคดียืดเยื้อกันมานาน พร้อมกันนี้ได้วอนขอความเห็นใจเนื่องจากอยู่อาศัยกันมากว่าครึ่งศตวรรษ
วันนี้ (18 พ.ย.) ภายในชุมชนสะพานปลา ซ.นาเกลือ 12 ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา นำกำลังเข้าทำการรื้อถอนอาคารสิ่งก่อสร้างที่ปลูกสร้างรุกล้ำที่สาธารณะเมืองพัทยา ซึ่งถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พุทธศักราช 2522 โดยกรณีดังกล่าวมีปัญหายืดเยื้อกันมาเป็นเวลานานจนมีการฟ้อง ร้องต่อศาล จนกระทั่งล่าสุดศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาให้ทำการรื้อถอนอาคารดังกล่าวจำ นวน 8 ราย เมื่อวันที่ 29 กันยายน พุทธศักราช 2549 ที่ผ่านมา
นายชุติพน กมลนารถ เลขานุการนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า เมืองพัทยาจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเพราะมีการรุกล้ำที่สาธารณะจริง แม้ว่าชาวบ้านจะอ้างสิทธิ์ว่าครอบครองมาก่อนเป็นเวลานาน จึงมีการนำเรื่องฟ้องร้องต่อศาลซึ่งปัจจุบันศาลเองก็มีคำพิพากษาชี้ขาดให้รื้อถอนไปแล้ว และหากเมืองพัทยายังคงปล่อยทิ้งไว้ ก็จะถือว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติไปด้วย
อย่างไรก็ตาม จากการเข้าปฏิบัติงานนั้นพบว่ามีชาวบ้านส่วนหนึ่งไม่ยินยอม โดยทำการตั้งแนวกำแพงสกัดกั้นไม่ให้เจ้าหน้าที่ของเมืองพัทยาเข้าทำการรื้อถอน จนเกิดการปะทะกันเล็กน้อยแต่ไม่มีการใช้กำลังกันแต่อย่างใด และเมื่อเกิดปัญหาขึ้นเมืองพัทยาก็ได้ถอนกำลังออกมาก่อนเพราะเกรงจะเกิดเหตุบานปลายและรุนแรงขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมืองพัทยาได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บางละมุงว่าไม่สามารถเข้าทำการรื้อถอนได้ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นายโกมินทร์ โพธิ์ทอง อายุ 73 ปี อาชีพชาวประมง หนึ่งในคู่กรณีกล่าวว่า จับจองพื้นที่นี้อยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 หรือ 50 ปีมาแล้ว และอยู่อาศัยมาก่อนใช้บังคับพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และก่อนการจัดตั้งเมืองพัทยาเสียอีก ดังนั้น หากจะเข้ามาดำเนินการรื้อถอนจะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ไร้ที่อยู่อาศัย จึงร้องขอให้เมืองพัทยาพิจารณาถึงมนุษยธรรมบ้าง