xs
xsm
sm
md
lg

แม่ค้าเขมรอ้อนไม่อยากให้ปิดด่าน เผยอยู่เมืองไทยแล้วมีความสุข

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 นางจิษฐา ศิริวชิรภาพ    ผู้ประกอบการจากผู้ค้าในตลาดโรงเกลือ
ศูนย์ข่าวศรีราชา - พ่อค้า-แม่ค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านตราด-สระแก้ว ชี้ธุรกิจชายแดนไม่กระทบในระยะสั้น แต่จะส่งผลระยะยาว หากความขัดแย้งยืดเยื้อ ด้านแม่ค้าเขมรอ้อนรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศไม่อยากให้ปิดด่านเพราะค้าขายเมืองไทยแล้วมีความสุขดี

นายเฉลียว อัมพิน นักธุรกิจด้านขนส่งสินค้าสไปกัมพูชา บริษัท ทวีศักดิ์กิตติยาขนส่ง จำกัด กล่าวว่า ระยะนี้กัมพูชาสั่งสินค้าเข้าไปยังกัมพูชามากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะน้ำตาลทราบ ที่มีความต้องการมาก ที่ผ่านมาทุกปีจะมีบริษัทจะขนส่งน้ำตาลทรายไปส่งลงท่าเรือส่งออกมีมูลค่าสูงถึง 4,000 ล้านบาท ปี 2552 ในปลายปี ที่จะเหลือ 1-2 เดือน ยังมีความต้องการสูงขึ้น แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบอยู่บ้าง เพราะในอนาคตแนวโน้มอาจจะไม่ดีเพราะกัมพูชาอาจจะไปสั่งสินค้าจากประเทศอื่น เช่น เวียดนาม จีน หรือมาเลเซีย ได้เช่นกัน

แหล่งข่าวในวงการนักธุรกิจชายแดนไทย-เขมร กล่าวว่าในขณะนี้การค้าขายแม้จะมีการสั่งสินค้าจากนักธุรกิจในกัมพูชาเป็นไปตามปกติก็จริง แต่ปัญหาก็คือ การส่งสินค้าไปยังกัมพูชาจะทำได้ในจำนวนที่ไม่มากนัก เช่น จากเดิมที่มีการสั่งสินค้าเป็นลอตใหญ่ๆ ก็จะสั่งจำนวนลดลงมา กรณีสินค้า มาม่า 100 ลัง ก็จะสั่งแค่ 20-30 ลัง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องของการสูญเสียในเรื่องการให้เครดิต หากมีปัญหาเกิดขึ้น จะไม่ต้องสูญเสียเงินที่ยังไม่ได้ชำระจากการสั่งสินค้า

ทั้งนี้ เนื่องจากไม่รู้ว่าทั้ง 2 ประเทศจะมีมาตรการในการเข้มงวด หรือจำกัดจำนวนสินค้าเข้าประเทศเมื่อไร การมีปัญหาในลักษระนี้ไม่เกิดผลดีในระยะยาว เพราะทำให้ไม่สามารถที่จะกำหนดเป้าหมายการทำการค้าได้ อีกทั้ง ปัจจุบันรัฐบาลกัมพูชารณรงค์ให้คนกัมพูชาแอนตี้สินค้าจากประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เป็นที่นิยมในหมู่ของชาวกัมพูชา แม้ทางรัฐบาลกัมพูชา จะสามารถสั่งสินค้าทดแทนจากรปะเทศจีน และเวียดนามได้ แต่สินค้าของทั้ง 2 ประเทศจะมีคุณภาพต่ำ และด้อยกว่าประเทศไทย รวมทั้งรสนิยมของชาวกัมพูชานิยมบริโภคสินค้าของไทยมากกว่า

“ผมไม่อยากเห็นความข้ดแย้งระหว่าง 2 ประเทศเป็นไปในระยะยาว เนื่องจากไม่เกิดผลดีต่อการค้าขายระหว่าง 2 ประเทศ แม้ปัจจุบันนี้ ยังมีการสั่งสินค้าจากประเทศไทยอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคสูงขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากหวั่นเกรงว่าทั้ง 2 ประเทศจะปิดชายแดน จึงจำเป็นต้องกักตุนสินค้าบางส่วนไว้ และหากความขัดแย้งยังดำรงอยู่ แนวโน้มอาจะลดลงได้ ที่ผ่านมามูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน อ.คลองใหญ่ มีไม่ต่ำหว่า 15,000 ล้านบาทต่อปี แต่สำหรับผู้ประกอบการค้าชายแดนใน อ.คลองใหญ่ จะมีมูลค่าเพียง 1,000-2,000 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น เนื่องจากหากเป็นล็อตใหญ่ๆ ผู้ผลิตก็จะเป็นผู้ดำเนินการส่งออกเอง”

ด้านนางเพียบ ซุก แม่ค้าร้านของชำชาวกัมพูชา กล่าวว่า ตั้งแต่มีข่าวสถานการณ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชาออกมา คนที่มาจับจ่ายซื้อของมีจำนวนลดลงมาก อาจเป็นเพราะนักท่องได้ดูข่าวที่ออกมาจึงทำให้เกิดความกลัว จึงทำให้ไม่เดินทางมาซื้อสินค้าเหมือนเช่นเคย เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงถึง 80% ทำให้ยอดขายสินค้าลดลง ตนเองก็รู้สึกกลัวเช่นกัน หากเกิดการปิดด่านของทางไทยและกัมพูชา นักท่องเที่ยวก็รู้สึกกลัว แม่ค้าก็กลัวเช่นกัน ต่างฝ่ายรู้สึกกลัว

ด้าน นางซอตัน แม่ค้าขายกระเป๋าชาวกัมพูชา กล่าวว่า ตนเองได้มาค้าขายอยู่ฝั่งไทยเป็นเวลานานถึง 12 ปีแล้ว ขายสินค้าอยู่ที่นี่รู้สึกมีความสุขดี ส่วนในช่วงเวลา 2- 3 วันที่ผ่านมานี้ ไม่มีนักท่องเที่ยวมาสินค้าเหมือนเมื่อก่อน ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะมีนักท่องเที่ยว จากกรุงเทพมหานคร มาซื้อกระเป๋าที่ร้านของตนเองเป็นจำนวนมาก

เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้ยอดขายที่ร้านตกลง รายได้ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน และมีแม่ค้าชาวกัมพูชาบางส่วน กลัวการปิดด่าน จึงปิดร้านกกลับไปอยู่ที่ฝั่งกัมพูชา ตนเองก็รู้สึกกลัวเช่นกันหากมีการปิดด่าน และไม่อยากให้ด่านถูกปิดลง เพราะอยู่ที่ฝั่งไทยแล้วรู้สึกมีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่อยากกลับไปขายของที่กัมพูชาอีก เพราะครอบครัวของตนเองย้ายมาอยู่ฝั่งไทยกันหมด แต่ถ้าหากมีการปิดด่านจริงก็คงต้องขนสินค้ากลับไปขายที่ประเทศกัมพูชา

ด้าน จังหวัดสระแก้ว นางจิษฐา ศิริวชิรภาพ ผู้ประกอบการจากผู้ค้าในตลาดโรงเกลือ เผย ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา ที่มีความขัดแย้งกันส่งผลกระทบการค้าขายเป็นอย่างมาก ทำให้การค้าขายในปัจจุบันลดลง จากที่เคยขายได้วัน 8,000-10,000 บาทต่อวัน แต่หลังจากที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นทำให้การค้าขายได้เพียงวันล่ะ 2000 บาทต่อวัน จึงอยากจะฝากให้รัฐบาลช่วยแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ให้เร็วด้วย ซึ่งทุกวันนี้ผู้ประกอบการค้าทั้งชาวไทย- ชาวกัมพูชา หวาดระแวงกลัวว่าจะมีการปิดด่านเกิดขึ้นด้วย

ด้านนางรัตนา ดวง แม่ค้าชาวกัมพูชาซึ่งเข้ามาประกอบอาชีพขายของใช้อุปโภค-บริโภค เผยว่า หลังจากที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-เขมรนั้น ทำให้รายได้ตกต่ำลงมาก ปกติจะมีคนเข้านร้านวันละเป็น 100 คน แต่ปัจจุบัน เหลือวันละไม่ถึง 10 คน ซึ่งก็ได้พยายามบอกลูกค้าไปว่า ไม่มีเหตุการณ์อะไร ทุกอย่างปกติ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเรื่องระดับประเทศ แต่พวกเราเป็นเพี่ยงประชาชนธรรมาดาเท่านั้น และก็ยังรู้สึกดีๆ กับประเทศไทยเพราะเป็นแหล่งทำมาหากิน จึงไม่อยากให้มีการปิดด่าน
นางรัตนา   ดวง   แม่ค้าชาวกัมพูชา  ซึ่งเข้ามาประกอบอาชีพขายของใช้อุปโภค-บริโภคตลาดโรงเกลือ

กำลังโหลดความคิดเห็น