กาฬสินธุ์ - ชาวนากุ้งที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เร่งจับกุ้งก้ามกรามจำหน่าย หวั่นน็อกตาย เพราะไม่มีน้ำเปลี่ยนถ่าย เนื่องจากเขื่อนลำปาวจะทำการหยุดส่งน้ำเป็นเวลา 1 เดือน ถึงแม้ราคากุ้งก้ามกรามจะตกต่ำเพียงกิโลกรัมละ 140 บาทก็ตาม
นายดารา เสนาดี ชาวนากุ้งตำบลบัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่าในช่วงฤดูกาลเกี่ยวปีนี้ เขื่อนลำปาวมีกำหนดจะงดปล่อยน้ำเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.-20 ธ.ค.เพื่อให้เกษตรกรที่ปลูกข้าว ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างเต็มที่ ที่จะส่งผลกระทบด้านลบต่อชาวนากุ้ง ที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามเป็นจำนวนมาก โดยอาศัยน้ำจากชลประทานเขื่อนลำปาว
สำหรับเปลี่ยนถ่ายในบ่อเลี้ยงกุ้งทุกสัปดาห์ เมื่อเขื่อนลำปาวปิดน้ำ ก็จะทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ ไม่มีน้ำเปลี่ยนถ่าย ทำให้น้ำในบ่อกุ้งเกิดการเน่าเสีย ประกอบกับสภาพอากาศในช่วงปลายฤดูฝนต้นฤดูหนาวที่มักจะวิปริตแปรปรวน เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝนตก และหนาวเย็นในเวลากลางคืน เมื่อไม่มีน้ำเปลี่ยนถ่าย ก็จะเป็นสาเหตุทำให้กุ้งน็อคตายอย่างฉับพลัน
นายดารา กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการป้องกันปัญหากุ้งน็อคตาย เกิดความเสียหายเป็นมูลค่ามหาศาลเหมือนทุกปีที่ผ่านมา ตนกับเพื่อนชาวนากุ้งหลายราย จึงได้เร่งจับกุ้งจำหน่าย ทำให้ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา แต่เดิมจำหน่ายที่ปากบ่อราคากิโลกรัมละ 150 บาท แต่ในช่วงที่จับกุ้งหนีวิกฤตเขื่อนลำปาวปิดน้ำ จำเป็นต้องจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 140 บาท ซึ่งก็ยังดีกว่าที่จะเสี่ยงเลี้ยงต่อไป เพราะอาจจะน็อคตายทั้งบ่อ จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 70 บาท ที่จะทำให้ขาดทุนมากกว่านี้
“มันเป็นหนทางสุดท้ายที่จะทำให้ขาดทุนน้อยที่สุด เพราะราคากุ้งก้ามกรามที่เป็นกุ้งน้ำจืดนอกจากจะราคาตกต่ำมากในรอบ 10 ปี แล้วยังประสบปัญหาภัยธรรมชาติจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอีกทั้ง โครงการส่งน้ำลำปาวยังไม่เอื้อประโยชน์ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามอย่างเต็มร้อยจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหากับเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ อย่างมาก”