ตาก - หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4-ป่าไม้ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับมือป้องกัน-ปราบปราม และรักษาทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ป่าชายแดน ไทย-พม่า และป่าไม้ในโครงการพระราชดำริฯ หลังถูกนายทุนลอบตัดไม้ส่งข้ามฝั่งเมยผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ส่งกลับขายไทยอีกทอด
วันนี้ (13 พ.ย.) พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด และนายสมศักดิ์ เร่งเพียร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 (ตาก) ได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้ ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กว่า 30 คน ที่ห้องประชุม ฉก.ร.4 อ.แม่สอด จ.ตาก
ตามบันทึกข้อตกลงร่วมระหว่างกองทัพบกกับกระทรวงทรัพย์ เพื่อให้หน่วยงานที่พื้นที่ร่วมมือในการป้องกัน-รักษา ทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ในพื้นที่ป่าชายแดนไทย-พม่า และป่าในโครงการพระราชดำริฯ ที่ป่าขะเนจื้อ ต.ขะเนจื้อ อ.แม่ระมาด จ.ตาก
พ.อ.ผดุง กล่าวว่า ป่าขะเนจื้อ เป็นป่าไม้ในโครงการพระราชดำริ มีสภาพสมบูรณ์ มีไม้สักจำนวนมาก แต่ถูกลักลอบตัดทำลายและบุกรุก เสียหายจำนวนมาก ถูกกลุ่มขบวนการทำลายชาติ ลักลอบตัด โดยมีปัจจัย 5 ประการ คือ 1.ป่าสมบรูณ์และอยู่ในสภาพภูมิประเทศที่ปกปิดสายตา 2.มีกองกำลังชนกลุ่มน้อยในฝั่งพม่า ร่วมกับนายทุนคนไทย ลักลอบตัดและนำข้ามแม่น้ำเมยไปฝั่งพม่า 3.มีแรงงานพม่าและผู้หลบหนีภัยสงครามมาลักลอบตัดเพื่อเข้าอยู่สร้างเพิงพัก 4.มีการพยายามครอบครองที่ดินโดยบุกรุกกั้นแนวรั้วแสดงความเป็นเจ้าของ และ 5.มีการนำไม้ในพื้นที่ไปสร้างบ้านอำพราง
สถิติในปี 2552 มีการขนย้ายไม้เรือนเก่า ออกจากพื้นที่ คิดเป็นไม้ท่อน 1,168 ท่อน ไม้แปรรูป 1,735 แผ่น และไม้ปีกประมาณ 300 แผ่น
อย่างไรก็ตาม การทำ MOU ของทหารและป่าไม้ ทำให้สถานการณ์การลักลอบตัดไม้และบุกรุกลดน้อยลง
“ไม้ที่ถูกลักลอบตัดจากฝั่งไทย จะถูกชักลากข้ามไปโรงงานทำไม้ฝั่งพม่า ก่อนที่จะนำไปแปรรูป ผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์แล้วส่งกลับมาฝั่งไทยอีกครั้ง ด้วยวิธีการต่าง ๆ ทั้งยังมีการกานไม้ยืนต้นให้ตาย และเผาตอ เพื่อการครอบครองกั้นแนวรั้ว ส่วนใหญ่อยู่บริเวณรอบๆ บ้านห้วยปลากองและดอยเรวา ต่อไปนี้ ทหารและป่าไม้ในพื้นที่จะเร่งดำเนินการกับขบวนการดังกล่าวอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาผืนป่าของชาติและอยู่ในโครงการพระราชดำริ โดยจะดำเนินการและคดีกับผู้บุกรุกและตัดไม้ทำลายป่าอย่างจริงจัง” ผู้บังคับการ ฉก.ร.4 กล่าว