xs
xsm
sm
md
lg

ลาวห้ามนำเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้า-อุปกรณ์แพทย์ใช้แล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มุกดาหาร- ส.ป.ป.ลาว ประกาศห้ามนำเข้าเด็ดขาดสินค้ามือสอง ประเภทเครื่องจักร เครื่องทอผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้แล้วและเครื่องมือหาปลาที่ทำให้ปลาตายทันที เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน-รักษาสิ่งแวดล้อม เชื่อไม่กระทบยอดส่งออกของไทย

นายเฉลิมพล พงศ์ฉบับนภา อัครราชทูตที่ปรึกษา ฝ่ายการพาณิชย์ ประจำสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ส.ป.ป.ลาว) เปิดเผยว่า กรมการนำเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ส.ป.ป.ลาว ได้ออกประกาศฉบับใหม่เกี่ยวกับรายการสินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้าและส่งออก ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2552 และจะมีผลบังคับใช้ภายหลัง 90 วัน นับแต่ได้มีการลงนามในประกาศฉบับนี้

ประกาศฉบับใหม่นี้ ได้แบ่งกลุ่มสินค้าออกเป็น 4 กลุ่ม คือ (1) สินค้าที่ห้ามนำเข้า มี 8 รายการ จากเดิมที่มี 5 รายการ (2) สินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้ามี 18 รายการ จากเดิมที่มี 25 รายการ (3) สินค้าที่ห้ามส่งออก มี 4 รายการ จากเดิมที่กำหนดไว้มี 9 รายการ และ(4) สินค้าที่ต้องขออนุญาตส่งออก มี 9 รายการ จากเดิมมี 7 รายการ

สำหรับสินค้าที่ห้ามนำเข้าไปยัง ส.ป.ป.ลาว ได้ถอดรายการสินค้าประเภทสิ่งพิมพ์จำหน่าย และเครื่องเล่นเกม ไปอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ต้องขออนุญาตนำเข้า เท่ากับว่า การเข้มงวดของกระทรวงแถลงข่าวและวัฒนธรรมมีการผ่อนคลายยืดหยุ่นมากขึ้นไม่เหมือนในอดีต แต่สินค้าที่ห้ามนำเข้าจะไปให้ความสำคัญ เพิ่มรายการประเภทสินค้ามือสอง (ที่ใช้แล้ว) ที่เป็นเครื่องจักร เครื่องทอผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้แล้ว ตลอดจนเครื่องมือหาปลาที่ทำให้ปลาตายทันที เข้ามาไว้ในกลุ่มสินค้าที่ห้ามนำเข้าโดยเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องสุขภาพของประชาชนและเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ในด้านกลุ่มสินค้าที่ห้ามการส่งออก จะห้ามการส่งออกไม้ซุงและไม้แปรรูปทุกชนิด และได้ถอดรายการขี้ค้างคาวที่เดิมห้ามการส่งออก ไปอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ต้องขออนุญาตส่งออกแทน ส่วนผลิตภัณฑ์ไม้สำเร็จรูป และไม้ซุงไม้แปรูปที่ได้มาจากสวนปลูก สามารถส่งออกได้เพียงแต่ต้องขออนุญาตส่งออก

นายเฉลิมพล กล่าวต่อไปว่า การจัดกลุ่มสินค้าตามประกาศฉบับใหม่นี้ ได้จัดประเภทโดยอ้างเหตุผลเพื่อความสงบและความมั่นคงของชาติ การรักษาสิ่งแวดล้อมและแหล่งทรัพยากร การปกป้องสุขภาพของคน การควบคุมการนำเข้าแบบผิดกฎหมาย การฉ้อโกงหลอกลวงและปลอมแปลง ความปลอดภัยของประชาชน และการปกป้องจริยธรรมของประชาชน

ถือได้ว่าเป็นการยกระดับให้ระบบการค้าระหว่างประเทศมีความสะดวกลื่นไหล ตามระบบเศรษฐกิจกลไกตลาด และสภาพความเป็นจริงมากขึ้น เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการของไทยที่ทำการค้ากับ ส.ป.ป.ลาว และจะทำให้การค้าบริเวณชายแดนไทย-ส.ป.ป.ลาว มีปริมาณการค้าที่เพิ่มขึ้น

นายเฉลิมพล ระบุอีกว่า ในขณะนี้มีผู้ประกอบการของไทยบางราย ที่สนใจเข้าไปลงทุนทำปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้วัตถุดิบจากขี้ค้างคาว เพราะใน ส.ป.ป.ลาว มีถ้ำที่เป็นแหล่งขี้ค้างคาวจำนวนมากในหลายๆ แขวง ดังนั้น ถึงแม้ ส.ป.ป.ลาว จะจัดขี้ค้างคาวเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตส่งออกก็ตาม แต่ควรจะต้องหารือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยเสียก่อน เพราะอาจจะเข้าข่ายเป็นสิ่งต้องห้ามตามพระราชบัญญัติกักพืช ที่ต้องมีการเข้มงวดในการนำเข้า มีการระมัดระวังด้านโรคระบาด และเป็นอันตรายต่อการเกษตรของประเทศ

นายเฉลิมพล กล่าวอีกว่า เมื่อสถานการณ์ในปัจจุบันมีผู้สนใจที่จะผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากมูลสัตว์ในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีกันมากขึ้น ทางที่ดีก็ควรไปปรึกษาหารือกับกรมวิชาการเกษตร ว่ามีขั้นตอนการดำเนินการอย่างไร เพราะในอนาคตอาจจะมีมาตรการตรวจโรคพืชและสัตว์ตามด่านพรหมแดนไทย-ส.ป.ป.ลาว ก็เป็นได้
กำลังโหลดความคิดเห็น