ระนอง - วัยรุ่นระนองเขม่นกันในผับ หลังเช็คบิลขับรถฝ่าสายฝนไล่ยิงกัน แต่รถที่ถูกไล่แหกโค้งตกข้างทาง มือปืนขับรถจักรยานยนต์ตามมาเห็นรถยี่ห้อ และสีเดียวกันจอดติดไฟแดงอยู่ จึงยิงปืนใส่ทันที ซวยกระสุนปืนถูกแม่ค้าปลาตายคาที่
เมื่อเช่วงเช้ามืดวันนี้ (4 พ.ย.) พ.ต.ท.มาโนชญ์ บุญสม สารวัตรเวร สภ.เมืองระนอง ได้รับแจ้งเหตุมีรถแหกโค้งถนนเพชรเกษม หน้าโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร และมีผู้ถูกยิงที่บริเวณ 3 แยกไฟแดง หน้าโรงแรมระนองการ์เด้น ม.1 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผกก.สภ.เมืองระนอง พ.ต.ท.สงกรานต์ เพชรน้อย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ชัยสิทธิ์ สิทธิชัย รอง ผกก.ปป. พ.ต.ท.โชคดี มาบางยาง สว.สส. และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์
ที่เกิดเหตุรถแหกโค้งพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บท-3286 ชุมพร ในสภาพชนต้นไม้ริมทางเท้าหักโค่น 1 ต้น ไปตกอยู่ข้างทาง หน้าโรงเรียนพิชัยรัตนาคาร ส่วนคนเจ็บมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลระนองแล้ว ส่วนรถอีกคันที่รับแจ้งว่าถูกยิงที่บริเวณสามแยก ทราบว่า ได้ขับพาคนเจ็บไปส่งที่โรงพยาบาลระนองแล้วเช่นกัน จึงตามไปตรวจสอบ
จากการสอบสวนผู้ที่นั่งมากับรถหมายเลขทะเบียน บท-3286 ชุมพร ทราบว่า มาด้วยกัน 4 คน ประกอบด้วย นายณัฐพงษ์ บำรุงแก้ว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 ม.1 ต.เชี่ยวเหลียง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ซึ่งเป็นคนขับ น.ส.ชลรัตน์ เวชกุล อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.1 ต.กะเปอร์ อ.กะเปอร์ นายวุธิพงษ์ สิทธิเดช อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/3 ม.1 ต.เชี่ยวเหลียง และนายธวัธ สิทธิเดช อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 174 ม.3 ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
โดยก่อนเกิดเหตุทั้งหมดนั่งดื่มสุรากันที่ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง ริมถนนเพชรเกษมห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งผับแห่งนี้เป็น 1 ใน 2 ผับดัง ที่เปิดตั้งแต่ 20.00 น ยันเช้าของอีกวัน กลุ่มผู้บาดเจ็บไม่ทราบว่า ไปทำอะไรให้กับวัยรุ่นทั้ง 2 คน ไม่พอใจ พอออกมาจากร้านขึ้นรถ และขับออกมา วันรุ่นทั้ง 2 คน ได้ขับรถไล่ตามแล้วยิงปืนใส่
ทางด้านข้างแค็ปด้านซ้ายกระสุนถูก น.ส.ชลรัตน์ เข้าที่แขนซ้าย ได้รับบาดเจ็บ ด้วยความตกใจนายณัฐพงษ์ จึงขับรถหนีสุดชีวิต แต่ฝนตกหนักถนนลื่น จึงทำให้รถเสียหลักแหกโค้งตกลงข้างทาง จนมีคนเข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล
ส่วนรถอีกคันที่ถูกยิงใส่ คือ รถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน บง-6729 ระนอง มีนายจำเริญ ศรีมงคล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206/38 ม.1 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง เป็นคนขับ ส่วนผู้เสียชีวิต คือ ภรรยาของนายจำเริญ ชื่อ นางกัลยา ศรีมงคล อายุ 38 ปี
นายจำเริญ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ตนขับรถคู่ชีพบรรทุกปลาน้ำจืดแล้วพาภรรยาไปเติมน้ำมันที่ปั๊ม เพื่อจะนำปลาไปขายที่ตลาดระนองธานี ขณะรถติดสัญญาณไฟแดงอยู่ที่สามแยกหน้าโรงแรมระนองการ์เด้น จู่ ๆ มีวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักยานยนต์มาเทียบข้าง แล้วชักปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงเข้าใส่ด้านที่ภรรยานั่ง แล้วขับรถหลบหนีไปทันที ตนจะขับรถไล่ตามแต่ภรรยาบอกว่า เจ็บปวดมากจึงต้องพาภรรยาไปที่โรงพยาบาลก่อน แต่ภรรยาทนพาบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
เนื่องจากกระสุนปืนเข้าทางด้านราวนมซ้ายตัดขั้วหัวใจ ถึงตอนนี้ยังมึนงงอยู่กับเหตุการณ์ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะตนไม่เคยไปมีเรื่องกับใครมาก่อน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบติดตามจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพื่อจะได้กระจ่าง
จากการสอบสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุยิงกันนั้นกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 4 คน ได้นั่งดื่มสุราในร้านผับดังแห่งหนึ่ง ตั้งแต่ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะไปเขม่นกับวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ในร้านด้วยกัน จนกระทั่งใกล้รุ่งสางของอีกวัน เมื่อกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 4 คน ได้เช็คบิลแล้วออกจากร้าน เพื่อกลับบ้านที่อำเภอกะเปอร์
เมื่อทั้งหมดขึ้นไปนั่งบนรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงินหมายเลข บท-3286 ชุมพร ได้มีวัยรุ่นอีกกลุ่มหนึ่งได้ยิงปืนเข้าใส่ นายณัฐพงษ์จึงได้ขับรถ เพื่อหลบหนี แต่คนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์ไล่ตาม เพื่อยิงซ้ำทั้ง ๆ ที่ฝนกำลังตกหนัก แต่รถกระบะได้แหกโค้งพลิกคว่ำลงข้างทาง ทำให้คนร้ายมองไม่เห็น
แต่กลับไปเห็นรถอีกคัน คือ รถกระบะอีซูซุ สีเงิน หมายเลขทะเบียน บง-6729 ระนอง ที่มีลักษณะสีและยี่ห้อเดียวกัน จอดติดสัญญาณไฟจราจรอยู่ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่รถคันแรกแหกโค้งประมาณ 200 เมตร แต่อาจจะด้วยความมึนเมาไม่ได้สังเกต เมื่อเหตุรถกระบะทีมีลักษณะเดียวกับคันที่ตัวเองไล่ตามจอดอยู่
จึงตรงเข้าไปยิงใส่ทันที โดยไม่ได้ดูว่าเป็นรถคนละคันกัน แล้วขับหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวนกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกไล่ยิง ถึงสาเหตุที่แท้จริงและนำเจ้าของผับและพนักงานในผับมาสอบสวนเพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.