เอเอฟพี - อิทธิพลของไต้ฝุ่น “เมอโลร์” ซึ่งพัดถล่มหมู่เกาะสำคัญของญี่ปุ่นในวันนี้ (8) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ราย นอกจากนั้นยังพังทลายบ้านอาคารเรือน ทำให้ต้นไม้หักโค่น และสร้างความหวั่นวิตกว่าเกิดแผ่นดินถล่มตามมา
ไต้ฝุ่นเมอโลร์ ซึ่งมีกำลังลมสูงสุด 198 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดทะลุทะลวงทั่วภาคกลางของญี่ปุ่น ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่น โดยถือเป็นพายุลูกแรกของประเทศที่พัดขึ้นฝั่งนับตั้งแต่ปี 2007 สำนักอุตุนิยมวิทยารายงาน
ไต้ฝุ่นเมอโลว์ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรง ส่งผลให้หลังคาบ้านเรือนหลุดปลิวว่อน, ผนังอาคารเสียหาย, ต้นไม้หักโค่นปิดกั้นถนนและรางรถไฟทางภาคกลางของญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม พายุลูกนี้อ่อนกำลังลงเล็กน้อย ขณะพัดถล่มหมู่เกาะฮอนชู “แต่ยังคงมีอิทธิพลรุนแรง” ทาเคโอะ ทานากะ นักพยากรณ์อากาศของสำนักงานอุตุนิยมวิยาญี่ปุ่นคาดการณ์
“ลมพายุกระโชกแรงและฝนตกหนัก ประชาชนควรระมัดระวังเหตุแผ่นดินถล่ม” นักพยากรณ์อากาศกำชับ
สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเตือนด้วยว่า หลายพื้นที่ของญี่ปุ่น อาทิ กรุงโตเกียว และเมืองโอซากา ศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ มีความเสี่ยงสูงว่าจะเกิดแผ่นดินถล่ม ขณะที่ไต้ฝุ่นเมอโลร์พัดผ่าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นรายงานว่า คนส่งหนังสือพิมพ์วัย 54 ปี รายหนึ่งเสียชีวิตที่จังหวัดวากายามะ หลังขับจักรยานยนต์พุ่งชนต้นไม้ที่หักโค่นลงมา
ที่จังหวัดไซตามะ ทางภาคเหนือของโตเกียว ชายวัย 69 ปี รายหนึ่งเสียชีวิตเนื่องจากถูกต้นไม้ล้มทับ
เอ็นเอชเค บรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 27 รายจากพายุลมกระโชกและฝนตกหนักทั่วประเทศ โดยมีประชาชนหลายพันอพยพมาอยู่ศูนย์ช่วยเหลือฉุกเฉิน
ขณะเดียวกัน สายการบินต่างๆ ต้องยกเลิกเที่ยวบินราว 330 เที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินในประเทศ ส่วนบริการรถไฟต้องหยุดดำเนินการชั่วคราว
ด้านโตโยต้า มอเตอร์ ค่ายยานยนต์ยักษใหญ่ประกาศระงับการผลิตที่โรงงานผลิตในประเทศทั้ง 12 แห่งวันนี้ (8)