มทภ.2 เสนอ “จัดเวทีสาธารณะ-รุกทำความเข้าใจ” แก้ ปห.ชาวบ้านยึดป่าดงใหญ่

บุรีรัมย์ - แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่บุรีรัมย์ ติดตามเร่งแก้ปัญหาชาวบ้านบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ ยืนยันใช้แนวทางเจรจากับชาวบ้านที่บุกรุก พร้อมเสนอ 2 แนวทางแก้ไข คือ จัดเวทีสาธารณะ และ ส่งจนท.ทำความเข้าใจชาวบ้าน ทั้งที่เดือดร้อนไม่มีที่ทำกินจริงและบางส่วนที่ไม่ได้เดือดร้อน พร้อมสกัดชาวบ้านไม่ให้บุกรุกป่าตัดต้นไม้เพิ่ม

วันนี้ ( 6 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 (กอ.รมน.ภาค 2 ) พร้อมคณะ ได้เดินทางมาร่วมประชุมหารือกับ นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ นายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัด พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกรมป่าไม้

ทั้งนี้ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ของชาวบ้านผู้เรียกร้องขอที่ทำกิน หลังจากที่มีการพยายามเรียกร้องขอเช่าที่ทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงใหญ่จำนวน 9 แปลงพื้นที่กว่า 22,000 ไร่ ที่บริษัทเอกชนหมดสัญญาสัมปทานเช่าของกลุ่มชาวบ้านหลายกลุ่มยืดเยื้อมานาน

การประชุมในครั้งนี้ ทางแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ขอความร่วมมือกับทางจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานต่างๆ ที่ดูแลอยู่ ได้ตรึงกำลังไม่ให้ชาวบ้านทั้งกลุ่มเก่า และใหม่ เข้าไปบุกรุกป่าเพิ่มเติม โดยให้ใช้การประนีประนอม ที่ไม่ก่อให้เกิดความรุนแรง พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปชี้แจงชาวบ้าน ถึงความจำเป็น และผลกระทบในการบุกรุกพื้นที่ป่าดังกล่าวที่จะตามมาในภายหลัง โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง

พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ได้ประชุมร่วมกับอธิบดีกรมป่าไม้ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันหามาตรการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ป่าดงใหญ่ และการเรียกร้องที่ทำกินของชาวบ้าน โดยมติที่ประชุม ได้เสนอการแก้ไขปัญหาร่วมกัน 2 แนวทาง คือ จัดให้มีการทำเวทีสาธารณะ ขึ้น เพื่อชี้แจงชาวบ้านให้เข้าใจถึงนโยบายของภาครัฐ ในวันที่ 27 พ.ย. นี้

และแนวทางที่ 2 จัดกำลังเจ้าหน้าที่ลงไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ ขอร้องอย่าได้บุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งตัดไม้ทำลายป่าด้วย

ทั้งนี้ ยืนยันจะใช้การเจรจาทำความเข้าใจเป็นหลัก ไม่มีการใช้ความรุนแรง โดยจากการรายงานข้อมูลยอมรับว่า มีชาวบ้านทั้งกลุ่มที่เดือดร้อนไม่มีที่ทำกินจริง และกลุ่มที่ไม่ได้เดือดร้อน ดังนั้น จึงได้สั่งการให้คัดกรองชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนที่แท้จริงก่อน

อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องวางมาตรการสกัดกั้นเพื่อไม่ให้ชาวบ้านมีการบุกรุกเข้ายึดพื้นที่ป่าดงใหญ่เพิ่มอีก โดยประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่และใกล้เคียงเข้ามาดูแล หากไม่เพียงสามารถร้องขอมายัง กอ.รมน.จังหวัด และทาง กอ.รมน.ภาค 2 เพื่อมาช่วยในการควบคุมสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้