กาฬสินธุ์- จังหวัดกาฬสินธุ์ขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณจำนวนมากในเขตอำเภอคำม่วง ซึ่งนักโบราณคดีระบุว่าเป็นโครงกระดูกที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี และอยู่ในยุคสมัยของยุคเหล็กหรือบ้านเชียงตอนปลาย ขณะที่ทางจังหวัดเตรียมทำการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างเต็มที่
วันนี้ (6 พ.ย.) นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายเลิศบุศย์ กองทอง นายอำเภอคำม่วง ผู้บริหาร อบต.นาทัน และนักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 10 จังหวัดร้อยเอ็ด ได้เปิดเผยผลการขุดค้นโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ที่ได้พบในพื้นที่นาของนายหนู บุรีขันธ์ ชาวบ้านโนนค้อ หมู่ที่ 14 เมื่อช่วงต้นปี 2551 ที่ผ่านมา โดยองค์การบริหารส่วนตำบลนาทัน ได้จัดสรรงบประมาณ ให้กลุ่มนักโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 10 จังหวัดร้อยเอ็ด เข้ามาทำการเปิดหลุมและขุดค้นอย่างจริงจังเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา
ผลจากการพิสูจน์หลักฐานทางโบราณคดี พบว่า ภาชนะเครื่องปั้นดินเผา อุปกรณ์การเกษตรที่พบรวมไปถึงการจัดวางหลุมศพโครงกระดูก เป็นการขุดค้นพบแหล่งโบราณคดีในยุคเหล็กหรือในยุคบ้านเชียงตอนปลายที่มีอายุก่อนประวัติศาสตร์ไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี และนับเป็นการค้นพบแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ซึ่งการเปิดหลุมที่มีขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 3 เมตร นักโบราณคดีได้พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณถึง 5 โครง
ส่วนใหญ่จะมีความสมบูรณ์มากถึง 50% และการพบเครื่องปั่นดินเผา เครื่องประดับ อีกทั้งการจัดวางแนวของศพภายในหลุมยังบ่งบอกได้ถึงฐานะและความเชื่อของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์อีกด้วย
น.ส.พิมพ์นารา กิจโชติประเสริฐ์ นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 10 จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า หลังจากที่มีการพบโครงกระดูก ภาชนะดินเผาบางส่วนเมื่อประมาณต้นปี 2551 ทางอบต.นาทัน ได้จัดสรรงบประมาณให้นักโบราณคดีเข้าไปดำเนินการขุดค้น โดยได้ทำการเปิดหลุมขุดค้นเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2552 จนถึงปัจจุบันที่นับว่ามีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเปิดหลุมที่มีขนาด กว้าง 3 เมตร ยาว 3 เมตร ถือว่าเป็นหลุมที่มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เคยทำงานมา แต่ปรากฏการขุดพบที่น่าพอใจ
ทั้งนี้ เนื่องจากได้พบทั้งโครงกระดูกมนุษย์มากถึง 5 โครง มีความสมบูรณ์มากถึง 50 % และรวมไปถึงภาชนะทั้งเครื่องมือ เครื่องใช้ และเครื่องปั่นดินเผา ซึ่งทำให้เรารู้ได้ทันทีว่า บริเวณที่ขุดค้นพบแห่งนี้เคยมีกลุ่มคนได้เข้ามาอาศัยอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์
“โครงกระดูกที่พบอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ยังมีการแบ่งชนชั้น โดยโครงกระดูกที่หนึ่ง มีการค้นพบทั้งเครื่องสัมฤทธิ์และภาชนะดินเผา ส่วนอีกสี่โครงจะไม่พบเครื่องสัมฤทธิ์หรือภาชนะดินเผา แต่จะมีเพียงการวางผังเพื่อฝังศพที่จะเป็นระเบียบที่จะไม่มีการฝังทับซ้อนกัน และเชื่อได้ว่าบริเวณแห่งนี้ กลุ่มมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์จะเป็นกลุ่มคนที่มีอาชีพด้านการกสิกรรม เนื่องจากการตั้งบ้านเรือนยังจะมีลำธารน้ำที่สื่อให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ต่อไปในอดีต” น.ส.พิมพ์นารากล่าว
น.ส.พิมพ์นารา กล่าวต่อว่า ในจุดที่ค้นพบยังมีความเชื่อว่า บริเวณพื้นที่แห่งนี้จะมีหลักฐานทางโบราณคดีอีกเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าบริเวณที่ดินแห่งนี้ในอดีตอย่างจะเคยเป็นสุสานของมนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็เป็นได้
ด้าน นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การค้นพบดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ เพราะแต่เดิมสำหรับอำเภอคำม่วง ก็จะมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการอพยพของกลุ่มชาติพันธุ์ชาวผู้ไทยที่มีอายุประมาณ 200 ปี แต่หลังจากที่ได้ค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีชิ้นนี้ จึงทำให้เชื่อได้ทันทีว่า บริเวณพื้นที่แห่งนี้ เคยมีมนุษย์เข้ามาอาศัยอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นยุคเหล็กอายุถึง 2,000 ปี ซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็จะเร่งทำการส่งเสริมประชาสัมพันธ์ในทุกด้าน
โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวที่ถือว่าสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในโลกดึกดำบรรพ์ วันนี้ พูดได้เลยว่า หากนักท่องเที่ยวมากาฬสินธุ์ จะได้เที่ยวถึง 3 ยุค คือ 1.ในยุคจูราสสิกปาร์ค หรือไดโนเสาร์ 2.ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่อำเภอคำม่วง และ 3.ยุคในประวัติศาสตร์ก็ยังมีโบราณสถานที่สำคัญอีกมากมาย
ในเบื้องต้นก็จะให้ทางนายอำเภอร่วมกับ อบต.นาทันดำเนินการจัดให้มีการทัศนะศึกษาร่วมกับวัฒนธรรมอำเภอ เพื่อเป็นตัวเลือกและให้ความรู้ด้านการท่องเที่ยวต่อไป