หนองบัวลำภู - ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู ตรวจสอบการฝึกกองร้อย เตรียมพร้อมควบคุมฝูงชน จำลองเหตุการณ์กลุ่มมวลชนสีม่วงก่อม็อบร่วมพันคนประท้วงต่อต้านแกนนำพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่เดินทางช่วยหาเสียงผู้สมัคร ส.ส.
ที่สนามกีฬา วิทยาลัยเทคนิคหนองบัวลำภู อ.เมืองหนองบัวลำภู นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ร่วมกับ พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.ชัยทัต รุ่งแจ้ง รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.บัญชา เพชรสังข์ รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.วีรวุฒ กิติสิน รองผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ ร่วมตรวจสอบการฝึกกองร้อย ของตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับฝูงชน หากมีการก่อความไม่สงบเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภูได้ตระหนักถึงปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการชุมนุมเรียกร้อง มีการแสดงออกทางการเมืองในรูปแบบของกลุ่มพลังมวลชน ซึ่งในบางครั้งอาจเกิดการกระทบกระทั่งต่อกัน นำไปสู่การใช้ความรุนแรง จนอาจมีผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภูได้เล็งเห็นปัญหาดังกล่าว จึงได้ฝึกทบทวนกองร้อยควบคุมฝูงชน จำนวน 2 กองร้อย เพื่อให้กำลังเจ้าหน้าที่ได้ทบทวนแนวทางการปฏิบัติทั้งทางด้านทฤษฏีและการปฏิบัติ เพื่อให้การดำเนินการป้องกันเหตุการณ์ชุมนุมที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ สามารถควบคุมไม่ให้เกิดสถานการณ์การใช้ความรุนแรง จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน
ทั้งนี้ ได้ทำการสาธิตจำลองสถานการณ์ การปฏิบัติการทางยุทธวิธีกองร้อยควบคุมฝูงชน ด้วยการจัดให้มีการจำลองเหตุการณ์กลุ่มประชาชน ผู้ที่มีแนวความคิดขัดแย้งทางการเมือง(กลุ่มเสื้อสีม่วง) ได้รวมตัวกันเพื่อประทวงการเดินทางมาของผู้นำและแกนนำของพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งมีจุดจะพาว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.ในนามพรรค มาพบปะผู้นำและหัวคะแนนในจังหวัดหนองบัวลำภู โดยใช้โอกาสในการมาตรวจเยี่ยมประชาชนและตรวจสอบการดำเนินการตามโครงการรัฐบาล ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู
กลุ่มเสื้อสีม่วงไม่ต้องการให้พรรคการเมืองนี้ได้รับการเลือกตั้งใน พ.ท.หนองบัวลำภู จึงได้แสดงพลังโดยนัดรวมตัวกันที่ สนามนเรศวร ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับที่ว่าการอำเภอฯ ทางการข่าวทราบว่ากลุ่มดังกล่าวจะใช้ทุกหนทางในการขัดขวางการดำเนินการทางการเมืองของพรรคการเมืองนี้และจะเข้าล้อมผู้นำของพรรคการเมืองเพื่อลดความน่าเชื่อถือทางการเมือง
โดยทราบว่า จะมีผู้มาชุมนุมประมาณ 1,000 คน และยังได้รับข้อมูลว่า ทางพรรคการเมืองดังกล่าว ได้มีผู้สนับสนุนที่จะเดินทางมารอต้อนรับและเป็นแนวกั้นกลุ่มตรงข้ามคาดว่าจะมีจะมี 500 คน ผบ.ศปก. สน. ภจว.หนองบัวลำภู ได้เรียกประชุมทีมบริหารเหตุการณ์ ภจว หนองบัวลำภู และตกลงที่จะไม่กลุ่มคนเสื้อม่วงเคลื่อนที่เข้าไปในบริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองได้ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดการปะทะกันของกลุ่มประชาชน 2 กลุ่มส่วนการชุมนุมตามสิทธิสามารถดำเนินการได้จึงได้สั่งการให้กองร้อยควบคุมฝูงชน ทั้ง 2 กองร้อยดำเนินการตามแผนกรกฎ 52 และขึ้นการบังคับบัญชากับ ผบ.เหตุการณ์
โดยกลุ่มเสื้อม่วงปราศรัยโจมตีกลุ่มการเมืองดังกล่าว เจ้าของพื้นที่ สภ.เมืองได้ส่งชุดจราจร ต่อรองเข้าทำการเจรจา ซึ่งให้ได้ตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าปะปนกับฝูงชนเพื่อหาข้อมูลผลการเจรจาไม่เป็นผล กลุ่มเสื้อสีม่วง ไม่ยอมยืนต้องมีการเคลื่อนที่ให้ได้ เจ้าหน้าที่เจรจาต่อรอง ได้แจ้งข้อมูลที่ได้ เจรจาและข้อมูลที่ได้สืบมาให้กับ ผบ.เหตุการณ์ และเดินทางกับไปยังกองอำนวยเหตุการณ์ ผบ.ร้อย 1 ปจ.สั่งการให้ ผบ.มว.1 ตั้งแถวสกัดกั้นชั้นที่ 1 เรียกเขตห้ามเข้า
โดยมีการใช้แผงกั้น 1 ชั้น กำลังพล 1 มว. และมีการประชาสัมพันธ์ ประชาชนที่มารวมชุมนุมมิให้ตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่ประสงค์ดี แกนนำเสื้อสีม่วงได้เคลื่อนที่เข้าใกล้แนวป้องกันที่ 1 ประชาสัมพันธ์ได้แจ้งและขอร้องให้กลุ่มเสื้อสี่ม่วงหยุดการเคลื่อนที่
แกนนำได้หยุดและปราศรัยต่อรองเพื่อจะเข้าไปในที่ว่าการอำเภอให้ได้แนวป้องกันชั้นที่ 1 ไม่ยอมกลุ่มเสื้อสีม่วงได้ผลักดันเข้ามา ผบ.ร้อย 1 ปจ.ได้สั่งการให้ ผบ.มว.2 และ 3 ตั้งแนวป้องกันชั้นที่ 2 โดยกำลังพล 2 มว. เมื่อตั้งแนวป้องกันชั้นที่ 2 เสร็จกลุ่มเสื้อสีม่วงก็สามารถผลักดันแนวที่ 1 ได้ ผบ. มว. 1 สั่งการ มว. 1 ล่นถอยทางยุทธวิธี โดยไปหนุนซ้อนกับ กองร้อยที่ 1 มว.2 และ 3 กลุ่มเสื้อสีม่วง เคลื่อนตัวเข้าใกล้แนวป้องกันที่ 2 ขณะนี้ประกอบด้วย กองร้อยที่ 1 ทั้ง 3 มว.แกนนำเสื้อสีม่วง ได้ปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลและกล่าวว่าตำรวจไม่วางตัวเป็นกลางรับใช้รัฐบาล โดยไม่ว่าถูกหรือผิด
แกนนำได้เร้าให้มวลชนใช้กำลังฝ่าแนวป้องกันที่ 2 เข้าไปให้ได้ ได้มีการใช่สิ่งของขว้างปาใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่ ร้อย 1 พยายามป้องกันแนวโดยใช่โล่ป้องกัน ผบ.เหตุการณ์ ได้รับแจ้งผลการปฏิบัติจึงได้ตกลงใจ ประกาศสถานการณ์และออกคำสั่งใช้กำลังสลายการชุมนุมใช้มาตรการทางกฎหมายมาบังคับใช้และได้สั่งการณ์ให้กองร้อย ปจ นำเนินการทางยุทธวิธี ผบ. ร้อย 2 เรียกแถว รูปลิ่ม ผบ.มว.1-2 และ 3 ร้อย 2 เรียกรูปขบวนรูปลิ่มส่วนบังคับบัญชาอยู่ด้านหลังลิ่ม ชุดทางยุทธวิธีอยู่ด้านหลัง และเข้าดำเนินการทางยุทธวิธีจนกระทั่งกลุ่มมวลชนสลายและจับกลุ่มแกนนำได้
