ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผวจ.ชลบุรี เข้าประชุมร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงและหอยแมลงภู่ 9 คนเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อน พร้อมขอเวลาตรวจสอบหาสาเหตุหอยตายถ้าพบว่าเป็นน้ำทะเลปนเปื้อนสารพิษก็จะให้ชลประทานไปตรวจสอบสถานที่ปล่อยน้ำ ถ้ามาจากจังหวัดใกล้เคียงจะให้กระทรวงมหาดไทยไปตรวจสอบ
วันนี้ (2 ต.ค.52) เวลา 14.00 น. นายประมวล เอมเปีย ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ พาตัวแทนผู้เลี้ยงหอยแครงหอยแมลงภู่ 9 คน ของทั้ง 8 ตำบลในอ่าวเมืองชลบุรี ที่หอยตายเรียบกว่า 4, 000 ไร่ทะเล ที่ได้รับความเสียหายนับ 1,000 ล้านบาทเข้าพบนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการชลบุรี ที่ศาลากลางจังหวัดฯ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ประมงจังหวัดชลบุรี สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา นายอำเภอเมืองชลบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยให้ช่วยเหลือแก้ไข เรื่องที่โรงงานต่างๆ ในเขต จ.สมุทรปราการ และ จ.ฉะเชิงเทรา ปล่อยสารพิษลงสู่ทะเลอ่าวไทยแล้วไหลมาทางทะเลอ่าวเมืองชลบุรีจนหอยตายหมด
โดยนายเสนีย์ ได้รับปากด้วยการให้ตัวแทนชาวประมง และผู้ประกอบการเลี้ยงหอยตั้งกรรมการขึ้นมา 5 คนเพื่อร่วมกับทางจังหวัดชลบุรี สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา และกรมประมงจังหวัดชลบุรี เป็นผู้ตรวจสอบหาสาเหตุของหอยตายในครั้งนี้ ถ้าพบเกิดจากน้ำเสีย ก็จะให้ชลประทานจังหวัดชลบุรีไปตรวจสอบว่า โรงงานไหนปล่อยสารพิษออกมา แต่ถ้าพบว่าเป็นโรงงานจากจังหวัดใกล้เคียง ตนก็จะส่งเรื่องไปให้กระทรวงมหาดไทยไปแก้ไข
จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี และผู้ร่วมประชุมทั้งหมดเดินทางไปยังบริเวณสะพานใหม่เลียบชายทะเล ปากซอยเกรียงไกรยุค ต.มะขามหย่ง อ.เมือง จ.ชลบุรี ที่ชาวประมงผู้เลี้ยงหอยที่นำหอยตายที่เก็บขึ้นมาจากทะเลมากองปิดถนนทั้ง 2 ฟากถนน โดยมีนายสำเภา วงษ์บุปผา ประธานชุมชนไกรเกรียงยุคผู้เลี้ยงหอย เป็นตัวแทนยื่นหนังสือให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เพื่อให้ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ นายเสนีย์ ได้รับปากว่าจะเร่งตรวจสอบและแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ ทำให้ผู้เลี้ยงหอยพอใจ จึงยอมเปิดทางด้วยนำรถแบ็คโฮตักเอาหอยที่มาวางกองออกแล้วเปิดทางตามปกติ และแยกย้ายกันกลับ เพื่อรอผลการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ดร.แววตา ทองระอา หัวหน้าฝ่ายวิจัย สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ม.บูรพา กล่าวว่า กรณีหลังจากที่ตนและคณะมาตรวจสอบนำทะเลเมื่อวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่าอ๊อกซิเจนในน้ำมีปริมาณน้อยต่ำกว่าปกติ ทำให้สัตว์ทะเล กุ้งหอยปูปลาตามชายฝั่งทะเล ไม่สามารถจะดำรงชีพอยู่ได้ จึงล้มตาย ตามปรากฎการณ์ธรรมชาติ หรือปรากฎการณ์ขี้ปลาวาฬ
เนื่องมาจากช่วงปลายฤดูฝน ฝนจะตกลงมามาก ทำให้น้ำในแม่น้ำลำคลองสายใหญ่ ๆ คือ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง จะเอิ่งล้นตลิ่ง ปริมาณน้ำมาก ทำให้น้ำไหลบ่าชะล้างเอาสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งของดีและของเสียลงสู่แม่น้ำ แล้วน้ำก็จะไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย แล้วไหลมาทางอ่าวเมืองชลบุรี ซึ่งจะกลายเป็นอาหารชั้นดีของแพลงก์ตอนและสาหร่ายใต้ทะเล ทำให้แพลงตอนและสาหร่ายเจริญเติบโตรวดเร็วกว่าปกติ แล้วก็แย่งใช้ออกซิเจนในทะเล โดยเฉพาะช่วงกลางคืน แพลงตอนและสาหร่ายจะไม่ผลิตออกซิเจนออกมา ทำให้อ๊อกซิเจนต่ำกว่า มาตรฐานปกติ ทำให้สัตว์ทะเล กุ้งหอยปูปลา ตามชายฝั่งทะเลตายหมดมากกว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องปัญหาน้ำเสียก็ยังไม่ทิ้งจะการเร่งตรวจสอบโดยเร็วที่สุดต่อไป