ศูนย์ข่าวศรีราชา - โลมาหัวบาตรเสียชีวิตเกยตื้น เกาะลอยศรีราชา ด้าน ม.บูรพา ชี้อาจเกิดจากคลื่นทะเลแปรปวนในช่วงนี้หรืออาจป่วยตาย โดยจะต้องผ่าพิสูจน์อีกครั้ง
วันนี้ (1 ต.ค.) บริเวณสะพานท่าเทียบเรือเกาะลอยศรีราชา จังหวัดชลบุรี ชาวประมงพบปลาโลมาหัวบาตรลอยเสียชีวิตบริเวณริมทะเลเกาะลอย โดยเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองศรีราชา และชาวประมงได้ช่วยกันนำตัวขึ้นมาไว้พบฝั่ง เพื่อรอเจ้าหน้าที่จากสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา มาตรวจสอบสอบถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครังนี้ เนื่องจากเป็นสัตว์อนุรักษ์และสัตว์หวงห้ามที่ใกล้จะสูญพันธุ์แล้ว ในขณะนี้จึงต้องทำการตรวจสอบถึงสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้อย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลในการค้นคว้าศึกษาวิจัยต่อไปในอนาคต
น.ส.รติมา ครุวรรณเจริญ นักวิทยาศาสตร์หน่วยสัตว์มีกระดูกสันหลังในทะเล สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า ปลาที่เสียชีวิตครั้งนี้ คือ ปลาโลมาเพศเมีย พันธุ์อิรวดี หรือพันธุ์หัวบาตร อายุประมาณ 5 ปี ความยาวประมาณ 1.50 เมตร น้ำหนักประมาณ 300-400 กก. โดยเสียชีวิตมาแล้วกว่า 3 วัน เนื่องจากลำไส้แตกและผิวหนังเริ่มลอกออกจากลำตัว
สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ ในเบื้องต้นตั้งไว้ 2 กรณี คือ ปัญหาคลื่นลมแรงในช่วงเกิดพายุกิสนาก็เป็นไปได้ เนื่องจากคลื่นลมแรงมาก ทำให้ปลาโลมาไม่สามารถว่ายต้านคลื่นลม จนไปชนหรือกระแทรกของแข็งจนเสียชีวิต เพราะจากการตรวจสอบร่างกายภายนอก พบรอยช้ำตามลำตัวหลายแห่ง เช่น ที่บริเวณส่วนหัว ที่ปลายหาง และลำตัวบางแห่ง ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุเสียชีวิตในครั้งนี้
นอกจากนั้นอาจเกิดจากป่วยหรือไม่สบายจนน้ำท่วมปวด เนื่องจากที่ผ่านมาเคยพบการเสียชีวิตในลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง อย่างไรก็ตามจะต้องดำเนินการผ่าศพพิสูจน์ถึงการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะมีเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรทางทะเล มาร่วมผ่าพิสูจน์ด้วย เพื่อความชัดเจน
นายสุวิชาณ ช่วยชาติ ชาวประมงบริเวณเกาะลอย-เกาะสีชัง กล่าวว่า ปลาโลมาตัวนี้ คาดว่าเป็นปลาโลมาฝูงเดียวที่ชาวประมงหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเกาะสีชังอย่างแน่นอน เพราะจะมีปลาโลมาลักษณะดังกล่าว 2-3 ตัวที่จะว่ายและกระโดดเล่นน้ำเมื่อมีเรือโดยสารวิ่งไปเกาะสีชัง สร้างความสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก และเมื่อเสียชีวิตไป 1 ตัว ฝูงที่มีเหลืออีก 1-2 ตัวนั้นไม่รู้ว่าจะกล้ามากระโดดเล่นให้เห็นอีกหรือไม่
การเสียชีวิตในครั้งนี้คาดว่าน่าจะเกิดจากคลื่นลมแรงในช่วงนี้อย่างแน่นอน เพราะคลื่นลมแรงมาก ประกอบกับน้ำทะเลก็มีสีดำคล้ำทำให้ปลาโลมามองไม่เห็นจนอาจจะไปกระแทกหรือชนกับโขดหินจนทำให้เสียชีวิตก็เป็นได้ เพราะจากการดูตามร่างกายแล้วไม่พบร่องรอยถูกของมีคมหรือใบพัดจากเรือฟัน