เชียงราย - “เทพเทือก” ลงพื้นที่เชียงรายรับทราบสถานการณ์ชายแดนและร่วมแถลงข่าวยึดยาเสพติดล็อตใหญ่ ขณะที่ “เสื้อแดง” โผล่เตรียมขับไล่หลายจุด แต่สุดท้ายเจอตำรวจเอาจริงจนต้องยอมสลายตัว
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (28 ต.ค.) กลุ่มคนเสื้อแดงเกือบทุกกลุ่มใน จ.เชียงราย ต่างมีการเคลื่อนไหวเพื่อไปขับไล่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งมีกำหนดการณ์เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ฐานปฏิบัติการปางหนุน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ชายแดนไทย-พม่า และบนดอยวาวี ต.วาวี อ.แม่สรวย เขตติดต่อเชียงราย-เชียงใหม่ โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการแบ่งกลุ่มกันออกไปชุมนุมตามจุดต่างๆ ตั้งแต่ช่วงสายก่อนที่เครื่องบินของนายสุเทพจะเดินทางไปถึงท่าอากาศยานเชียงรายซึ่งตั้งอยู่ ต.บ้านดุ่ อ.เมือง โดยกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตยนำโดยนายอรรถกร กันทะไชย และนายธวัชชัย ทองนาค กลุ่มเสียงประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำโดยนายศรีนวล นวลหงษ์ และชมรมคนรักทักษิณนำโดย น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม จำนวนประมาณ 20 คน ได้นำรถ 3-4 คันพร้อมรถกระจายเสียงพร้อมป้ายโจมตีนายสุเทพไปชุมนุมกันที่หน้าสนามบิน
ขณะที่ทางตำรวจ ภ.ภาค 5 ได้มีคำสั่งให้รักษาความปลอดภัยให้กับคณะอย่างเข้มงวดทำให้ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ ผบก.ภ.เชียงราย สั่งการให้ พ.ต.อ.จรัญฌิ์ เริงธรรม ผกก.สภ.เมืองเชียงราย นำกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนที่ฝึกซ้อมมาแล้วเป็นอย่างดีพร้อมโล่ รวมทั้งตำรวจตั้งจุดตรวจทำการตั้งจุดตรวจบนถนนเข้าสู่สนามบิน รวมกันกว่า 100 นาย โดยมีการตั้งจุดสกัดเอาไว้ถึงสองชั้นโดยชั้นแรกอยู่ตรงหน้าโรงแรมทีคการ์เด้นสปารีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงปากทางเข้าสนามบินประมาณ 500 เมตร ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งมีจำนวนน้อยติดอยู่ที่จุดสกัดแรก ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กลุ่มคนเสื้อแดงอย่างมาก เนื่องจากต้องการเข้าไปจนถึงหน้าสนามบินเพื่อแสดงพลังให้นายสุเทพที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินไปถึงและขึ้นเฮลิคอปเตอร์ภายในลานบินเพื่อไปยังฐานปฏิบัติการปางหนุนต่อไป
ดังนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนน้อยนิดดังกล่าวจึงได้ใช้ถนนหน้าโรงแรมในการเปิดเครื่องเสียงเพลงปลุกใจ และกล่าวปราศรัยโจมตีรัฐบาลและนายสุเทพอย่างหนัก รวมทั้งพยายามจะขยายขอบเขตการชุมนุมด้วยการลงจากรถและผ่านจุดตรวจไปจนถึงกลุ่มตำรวจชุดควบคุมฝูงชนซึ่งถือโล่รออยู่ โดยทำทีจะเดินไปยังหน้าสนามบินให้ได้แต่ตำรวจก็ไม่ยอมถอย ต่อมา พ.ต.อ.จรัญฌิ์ ได้เข้าไปเจรจาและแจ้งให้ทราบว่าได้รับคำสั่งมาอย่างชัดเจนแล้วว่าห้ามไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าไปถึงสนามบินโดยเด็ดขาด ดังนั้นจึงแจ้งให้เลิกใช้เครื่องเสียงและพากันสลายตัวโดยด่วน ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงกลับมาหารือและเมื่อดูจากจำนวนมวลชนและกำลังตำรวจแล้วแตกต่างกันจึงทำให้ตัดสินสลายการชุมนุมที่หน้าสนามบินดังกล่าวไปที่สุด
รายงานข่าวแจ้งต่อมาว่า สำหรับอีกกลุ่มคือ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย นำโดย น.ส.จีรนันท์ จันทวงษ์ ได้นำคนเสื้อแดงประมาณ 20 คน พร้อมรถเครื่องเสียงไปยังหน้าประตูค่ายเม็งรายมหาราช ซึ่งมีลานเฮลิคอปเตอร์ที่นำคณะนายทหารและสื่อมวลชนเดินทางตามคณะไปยังฐานปฏิบัติการปางหนุน เพราะเข้าใจว่าคณะของนายสุเทพจะเดินทางจากสนามบินเชียงรายไปยังลานเฮลิคอปเตอร์ภายในค่ายเม็งรายมหาราชดังกล่าว โดยกลุ่มนี้ก็ปฏิบัติเหมือนกลุ่มแรกคือมีการขึ้นป้ายและใช้เครื่องเสียงปราศรัยโจมตีรัฐบาลและนายสุเทพอย่างหนัก แต่ไม่ได้รุกเข้าไปในเขตค่ายทหารเพราะภายในมีการวางกำลังเอาไว้อย่างเข้มงวด ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงสลายตัวไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ในวันเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่ อ.แม่สาย ได้มีการรวมกลุ่มกันเพราะเข้าใจว่านายสุเทพจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมที่หน้าด่านพรมแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ด้วย จึงทำให้ทราบว่าในครั้งนี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้รับทราบเรื่องกำหนดการณ์ที่ไม่ชัดเจนดังนั้นจึงกระจายกำลังไปกันตามจุดต่างๆ แต่ก็ไม่มีกลุ่มไหนเข้าถึงคณะของนายสุเทพเลย อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายนายสุเทพมีกำหนดจะเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากฐานปฏิบัติการปางหนุนไปยังดอยวาวี ต.วาวี อ.แม่สรวย ทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงทั้งหมดกลับไปประชุมหารือเพื่อจะพากันเดินทางไปยัง อ.แม่สรวย ณ จุดเดียวแต่โอกาสจะเข้าถึงคณะเป็นไปได้ยากเพราะเส้นทางขึ้นดอยวาวีค่อนข้างคดเคี้ยวและห่างไกล โดยอยู่ห่างจากพื้นราบกว่า 50 กิโลเมตร นอกจากนี้ทางตำรวจยังตั้งจุดตรวจเอาไว้ตั้งแต่ทางขึ้นเขาด้วย
สำหรับภารกิจของนายสุเทพที่ฐานปฏิบัติการปางหนุนในครั้งนี้คือการรับทราบสถานการณ์เกี่ยวกับชายแดนโดยเฉพาะด้านยาเสพติด และแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 1 คนพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 500,000 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 2 กิโลกรัม ซึ่งทาง ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง จับกุมได้ในท้องที่ อ.แม่สาย ส่วนที่ดอยวาวีเป็นภาระกิจการตรวจเยี่ยมราชการทั่วไป
