เชียงราย - ปภ.เชียงราย เผยอุทกภัย ช่วง 6-8 ก.ย.นี้ น้ำป่าและน้ำล้นตลิ่งได้ลดลงเกือบหมดแล้ว ทิ้งไว้แต่ความเสียหาย เตรียมประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินอุทกภัยเป็นรายหมู่บ้าน เพื่อให้การช่วยเหลือ แต่ยังเคือนเฝ้าระวังเหตุน้ำสายล้นทะลักถึงสิ้นเดือน
นายณรงค์ อินโส ผู้ช่วย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ที่มีฝนตกหนักและเกิดอุทกภัยในจังหวัด ช่วงวันที่ 6-8 ก.ย.นี้ ขณะนี้น้ำป่าและน้ำล้นตลิ่งได้ลดลงเกือบหมดแล้ว ทิ้งไว้แต่ความเสียหาย มีจะมีการประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินอุทกภัยเป็นรายหมู่บ้านเพื่อให้การช่วยเหลือ โดยมีรายงานความเสียหาย ดังนี้ อ.แม่สรวย ถนนสายบ้านตีนดอยไปบ้านใหม่หมอกจ๋าม ก.ม.ที่ 7-8 ต.วาวี ถูกน้ำป่าเซาะหนัก จนถนนเสียหายไป 1 ช่องจราจรและกลายเป็นเหวลึกกว่า 10 เมตร ประชาชนต้องสัญจรด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเป็นถนนทางขึ้นดอยวาวี ซึ่งใช้ร่วมกัน 24 หมู่บ้าน และมีความเสียหายที่ ต.แม่พริก รวมมูลค่าราว 14 ล้านบาท
ส่วนที่หนักสุดคือถนนทางขึ้นดอยวาวี ช่วงที่เสียหาย อาจจะต้องมีการทำทางอ้อมชั่วคราว หรือทำสะพานแบริ่ง เนื่องจากทางหลวงชนบทเชียงราย ซึ่งดูแลเส้นทาง เพิ่งได้รับการถ่ายโอนมา ต้องรองบประมาณพิเศษเข้ามา อยู่ระหว่างรออนุมัติ ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกับทางฝ่ายปกครอง อ.แม่สรวย ขณะนี้จึงทำได้เพียงการไปเกรดผิวดินให้เรียบและทำเสาและป้ายเตือนให้ผู้ที่สัญจรระมัดระวัง แต่เกรงว่าหากฝนตกมาอีกทางที่เหลือจะขาดลงได้ ส่วนเขื่อนแม่สรวย ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกมาก ไม่น่าห่วง และมีการระบายน้ำลงแม่น้ำลาว ทำให้น้ำลาวขึ้นสูง
อ.เวียงป่าเป้า เสียหายที่ ต.ป่างิ้ว ส่วนมากเป็นบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ที่ถูกน้ำท่วมขัง จากน้ำล้นอ่างเก็บน้ำแม่ฉางข้าว อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหาย
อ.แม่สาย น้ำสายเอ่อล้นฝั่งเป็นครั้งที่สามในรอบ 2 เดือน ทำให้ท่วมย่านการค้าชายแดนไทย-พม่า ส่วนมากมีความเสียหายด้านสินค้าและโอกาสทางการค้า ขณะนี้น้ำสายลดลงแล้ว พ่อค้าแม่ค้าตลาดแม่สายฝั่งไทย และตลาดท่าล่อฝั่งพม่าต่างเร่งทำความสะอาดดินโคลนที่ไหลเข้ามาในร้าน เดือดร้อน 4 ตำบล คือ ต.เวียงพางคำ ต.แม่สาย ต.โป่งผา ต.ศรีเมืองชุม ความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน
ทั้งนี้ คาดว่าสาเหตุน้ำสายเอ่อล้นฝั่งบ่อย จากสาเหตุหลายประการ เช่น การบุกรุกลำน้ำของประชาชนทั้งสองฝั่ง มีการสร้างอาคารล้ำเข้าไปในเขตแม่น้ำที่กั้นพรมแดนไทย-พม่า โดยเฉพาะจุดใกล้สะพานแม่สาย มีลักษณะเป็นคอขวด และตื้นเขินของลำน้ำสายมากขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเกิดจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งทางแก้ไม่ง่าย เพราะการขุดลอกลำน้ำสายต้องได้รับความเห็นชอบระหว่างไทย และสหภาพพม่า
จึงเตือนให้ประชาชนระมัดระวังไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.2551 นี้ เพราะอาจจะมีน้ำท่วมฉับพลันได้อีก ขณะนี้มีความกดอากาศต่ำ ปกคลุมและคาดว่าจะมีฝนตกไปถึงสิ้นเดือน
นอกจากนี้มีรายงานด้วยว่า ได้เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากชายแดนไทย-ลาว ด้าน ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ส่งผลให้กระแสน้ำป่า ที่หนุนแม่น้ำห้วยปอ ได้หลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของราษฎรบ้านดอน ม.3 พื้นที่ปลูกข้าวโพดของชาวบ้านถูกน้ำท่วมกว่า 300 ไร่ คอสะพานทางเข้าพื้นที่การเกษตร ก็ถูกน้ำกัดเซาะจนเสียหายหลายจุด อบต.ปอ ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
และที่บ้านหัวแม่คำ ชายแดนไทย-พม่า ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง ก็พบว่าปริมาณที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ถนนเป็นดินโคลนเปียกแฉะ มีระดับความสูงมาก เส้นทางรถถูกตัดขาด ชาวเขา 8 เผ่า ทั้งม้ง เย้า ลีซอ อาข่า มูเซอ ไทยใหญ่ ไทลื้อ ไทเขิน ต้องใช้วิธีการเดินเท้าลุยโคลนเข้าและออกหมู่บ้านเท่านั้น
นายสมพล สุปการ หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยา จ.เชียงราย กล่าวว่า ปริมาณฝนที่ตกในจังหวัดเชียงราย น่าจะลดลง แต่ยังไม่น่าไว้ใจเรื่องน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งมีการแจ้งเตือนผ่านสื่อมวลชน และมิสเตอร์เตือนภัยในท้องถิ่นตลอด
ด้านนายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ได้ประสานทุกหน่วยในการให้การดูแลบรรเทาสาธารณภัยแล้ว และไม่ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตหรือรับบาดเจ็บจากน้ำท่วมครั้งนี้ และนักท่องเที่ยวยังสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ เพราะน้ำท่วมเกิดขึ้นรวดเร็วและลดลงรวดเร็วและที่ อ.เมืองเชียงราย ไม่มีน้ำท่วม
