เชียงราย - พ่อค้า 2 ประเทศไทย-พม่า รีบขนย้ายสินค้าไปไว้ในที่ปลอดภัย หลังเกิดฝนตกหนักหลายชั่วโมง มีน้ำป่าจากดอยสูงไหลสมทบแม่น้ำสาย กั้นพรมแดน จนสูงใกล้วิกฤต ขณะที่น้ำป่าตัดถนนเชื่อมดอยวาวีขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย วานนี้ (6 ก.ย.51) ว่า หลังจากได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงเมื่อคืนก่อนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีกระแสน้ำป่าจากยอดดอยกูเต็งนาโหย่งจำนวนมาก ไหลบ่ามาสมทบกับลำน้ำแม่สาย กั้นพรมแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทำให้แม่น้ำสาย มีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม ไหลเชี่ยวกราก เพิ่มระดับขึ้นถึงใกล้ทะลักเข้าท่วมย่านการค้าทั้งตลาดการค้าสายลมจอย อ.แม่สาย และฝั่งตลาดท่าล้อ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่าอีกครั้ง
พ่อค้าแม่ค้าชาวไทยและพม่า ได้รีบพากันขนย้ายสินค้า และทรัพย์สินมีค่าไปไว้ในที่ปลอดภัยกันถ้วนหน้า รวมทั้งนำกระสอบทรายมาเสริมกั้นริมตลิ่ง ต้านทานกระแสน้ำป่าไม่ให้ทะลักเข้าท่วมร้านค้า ซึ่งสภาพอากาศโดยรวมยังมีเมฆฝนปกคลุม พ่อค้า 2 ประเทศ เกรงว่าหากมีฝนตกลงมาอีกระลอก คาดว่าระดับน้ำสาย ที่มีน้ำป่าหนุนจะทะลักเกินจุดวิกฤตเข้าท่วมพื้นที่การค้า อย่างเช่นที่ประสบมาในช่วงเดือนที่ผ่านมาถึง 2 ครั้ง จนทำให้ย่านเศรษฐกิจการค้าได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดเชียงรายและฝ่ายปกครองอำเภอแม่สรวย(แม่สวย) ได้เข้าตรวจสอบถนนสายแม่สรวย ดอยวาวีบริเวณบ้านบ้านทุ่งพร้าว หมู่ที่ 8 ตำบลวาวี ระหว่างกิโลเมตรที่ 7 และ 8 ซึ่งเป็นถนนสายหลักสำคัญที่จะเชื่อมจากตัวอำเภอแม่สรวย ไปยังดอยวาวีและดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย แหล่งท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย ที่พังเสียหายหลังเกิดน้ำป่าไหลหลากกัดเซาะจนผิวถนนพังเสียหายทั้งหมดเมื่อคืนที่ผ่านมา
ล่าสุดทางสำนักงานทางหลวงชนบทเชียงรายได้นำเครื่องจักรเข้าไปทำการถมดินบริเวณสันถนนเพื่อให้รถสามารถโดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็กและรถจักรยานยนต์เพื่อให้ชาวบ้านกว่า 35,000 คน ที่อาศัยอยู่บนดอยวาวี สามารถสัญจรออกมายังตัวอำเภอแม่สรวยเพื่อนำพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าวโพดออกมาขายได้ แต่การซ่อมแซมก็เป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากถนนที่พังเสียหายเป็นรอยลึดกว่า 50เมตร และด้านหนึ่งอ่างเก็บน้ำแม่สรวยอีกด้านก็เป็นลำห้วยและไม่มีพื้นที่ที่จะให้ถมเพื่อขยายช่องทางจราจรอีก
นายทศพล ยุทธศิลป์กุล ปลัดอาวุโสอำเภอแม่สรวยก็เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบถนนสายดังกล่าวโดนกระแสน้ำกัดเซาะพังได้รับความเสียหาย 2 จุด และแต่ละจุดจะซ่อมแซมอย่างยากลำบาก ขณะนี้ทางอำเภอแม่สรวยก็ได้ประสานไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดให้จัดหาสะพานแบริ่งมาติดตั้งแล้ว พร้อมได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าเวรยามยังจุดที่ถนนพังตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ที่สัญจรไปมาโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไม่ชินเส้นทาง ส่วนความเสียหายในส่วนของสิ่งสาธารณะประโยชน์จากน้ำไหลหลากในครั้งนี้ของอำเภอแม่สรวยเบื้องต้นสะพาน 8 แห่ง คอสะพาน 4 แห่ง และถนน 5 สาย และเป็นบ่อปลา และสัตว์เลี้ยง แต่ไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ค่าเสียหายประมาณ 14 ล้านบาท