ตาก - ผู้นำ SPDC สั่งการทหารพม่าเริ่มเดินเครื่องกวาดล้างกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่เป็นปรปักษ์และต่อต้านรัฐบาลให้สิ้นซากหลังหมดฤดูฝน ก่อนที่จะมีการจัดการเลือกตั้งใหญ่ในปี 2553 เล็งถอนราก KNU เป็นพิเศษ
วันนี้ (28 ต.ค.) รายงานข่าวจากชายแดนไทย-พม่า ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า พล.อ. อาวุโส ตานฉ่วย ประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ หรือ SPDC และผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ได้มีคำสั่งให้ พล.อ. รองอาวุโส หม่องเอ รองประธานสภา SPDC และผู้บัญชาการทหารบกพม่า เร่งดำเนินการวางแผนปฎิบัติการกวาดล้างปราบปรามกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่เป็นปรปักษ์และต่อต้านรัฐบาลพม่าให้หมดสิ้น หลังสิ้นสุดช่วงฤดูฝน
โดยแผนปฎิบัติการดังกล่าวจะมีการปราบปรามกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU กองกำลังกะเหรี่ยงคะยาหรือกะเหรี่ยงแดง KNPP กองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ SSA กองทัพว้าเพื่อประชาธิปไตย กองทัพเมืองลา กองกำลังก้าง โดยผู้นำพม่าต้องการปราบปรามกบฏชนกลุ่มน้อยให้หมดสิ้นอย่างจริงจังก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ในปี 2553 ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของพม่า
ทั้งนี้ ภายหลังมีคำสั่งดังกล่าวของผู้นำระดับสูงของพม่า ทำให้ พล.ต.เต็ดไหน่วิน แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่ดูแลชายแดนไทย-พม่า ตรงข้ามด้านจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ พล.ต.หม่องชิดตู่ ผู้นำคนสำคัญของกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย หรือ DKBA ได้ระดมกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมแผนปฎิบัติการปราบปรามชนกลุ่มน้อย KNU ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2552 ซึ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว เพราะการเดินทัพเข้าปราบปราม KNU ในช่วงนี้จะสะดวกและง่ายต่อการเคลื่อนย้ายกำลังพลและอาวุธมาประชิดชายแดน
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนแม่สอด กล่าวว่า เป้าหมายหลักของพม่าที่จะปราบปรามกะเหรี่ยงคริสต์ KNU คือ กวาดล้าง กลุ่มของ พล.ต. เนอดา เมียะ ลูกชายนายพลโบเมียะ อดีตผู้นำคนสำคัญของกะเหรี่ยงคริสต์ที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยทหารพม่ามีข้อมูลว่า ทหารกลุ่มของลูกชายนาย พลโบเมียะ เป็นกองกำลังของ KNU ที่ยังมีกำลังพลและอาวุธมากกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยมีบุตรชายของอดีตผู้นำกะเหรี่ยง 3-4 คน เป็นผู้บังคับการกองพันรบพิเศษ หน่วยต่างๆ ที่ยังคงมีพิษสงร้ายแรงกับฝ่ายรัฐบาลพม่า
วันนี้ (28 ต.ค.) รายงานข่าวจากชายแดนไทย-พม่า ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งว่า พล.อ. อาวุโส ตานฉ่วย ประธานสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ หรือ SPDC และผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ได้มีคำสั่งให้ พล.อ. รองอาวุโส หม่องเอ รองประธานสภา SPDC และผู้บัญชาการทหารบกพม่า เร่งดำเนินการวางแผนปฎิบัติการกวาดล้างปราบปรามกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่เป็นปรปักษ์และต่อต้านรัฐบาลพม่าให้หมดสิ้น หลังสิ้นสุดช่วงฤดูฝน
โดยแผนปฎิบัติการดังกล่าวจะมีการปราบปรามกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงอิสระ KNU กองกำลังกะเหรี่ยงคะยาหรือกะเหรี่ยงแดง KNPP กองกำลังกู้ชาติไทยใหญ่ SSA กองทัพว้าเพื่อประชาธิปไตย กองทัพเมืองลา กองกำลังก้าง โดยผู้นำพม่าต้องการปราบปรามกบฏชนกลุ่มน้อยให้หมดสิ้นอย่างจริงจังก่อนที่จะมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ในปี 2553 ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของพม่า
ทั้งนี้ ภายหลังมีคำสั่งดังกล่าวของผู้นำระดับสูงของพม่า ทำให้ พล.ต.เต็ดไหน่วิน แม่ทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่ดูแลชายแดนไทย-พม่า ตรงข้ามด้านจังหวัดตาก ได้สั่งการให้ พล.ต.หม่องชิดตู่ ผู้นำคนสำคัญของกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย หรือ DKBA ได้ระดมกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อเตรียมแผนปฎิบัติการปราบปรามชนกลุ่มน้อย KNU ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2552 ซึ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว เพราะการเดินทัพเข้าปราบปราม KNU ในช่วงนี้จะสะดวกและง่ายต่อการเคลื่อนย้ายกำลังพลและอาวุธมาประชิดชายแดน
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงชายแดนแม่สอด กล่าวว่า เป้าหมายหลักของพม่าที่จะปราบปรามกะเหรี่ยงคริสต์ KNU คือ กวาดล้าง กลุ่มของ พล.ต. เนอดา เมียะ ลูกชายนายพลโบเมียะ อดีตผู้นำคนสำคัญของกะเหรี่ยงคริสต์ที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยทหารพม่ามีข้อมูลว่า ทหารกลุ่มของลูกชายนาย พลโบเมียะ เป็นกองกำลังของ KNU ที่ยังมีกำลังพลและอาวุธมากกว่ากลุ่มอื่นๆ โดยมีบุตรชายของอดีตผู้นำกะเหรี่ยง 3-4 คน เป็นผู้บังคับการกองพันรบพิเศษ หน่วยต่างๆ ที่ยังคงมีพิษสงร้ายแรงกับฝ่ายรัฐบาลพม่า